มติการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 12/2559 (ครั้งที่ 24)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2559 เวลา 09.30 น.
1. โครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนมิถุนายน 2559
2. คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ผู้มาประชุม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ
(พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์)
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
(นายทวารัฐ สูตะบุตร)
เรื่องที่ 1 โครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนมิถุนายน 2559
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 และเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558 ได้เห็นชอบการคำนวณราคา ณ โรงกลั่น ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นของก๊าซ LPG โดยใช้ต้นทุนจากแหล่งผลิตและแหล่งจัดหา (โรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงและโรงอะโรเมติก นำเข้า และ ปตท.สผ.) เฉลี่ยแบบ
ถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการผลิตและจัดหาเฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน โดยราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก (CP) เดือนมิถุนายน 2559 อยู่ที่ 344 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 3 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน และอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย
เดือนมิถุนายน 2559 อยู่ที่ 35.6151 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนพฤษภาคม 2559 ที่ 0.3569 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่น ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นของก๊าซ LPG (LPG Pool)
ปรับเพิ่มขึ้น 0.0061 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 13.9089 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 13.9150 บาทต่อกิโลกรัม
2. เพื่อไม่ให้การผันผวนของราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกมีผลกระทบต่อราคาขายปลีกก๊าซ LPG
ในประเทศ ฝ่ายเลขานุการฯ จึงได้เสนอให้คงราคาขายปลีกก๊าซ LPG ไว้ที่ 20.29 บาทต่อกิโลกรัม โดยปรับเพิ่มการชดเชยจากเงินกองทุนน้ำมันฯ อีก 0.0061 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 0.5899 บาท
ต่อกิโลกรัม เป็นกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 0.5960 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายประมาณ 198 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของก๊าซ LPG ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2559 มีฐานะกองทุนสุทธิ 7,504 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบกำหนดอัตราเงินชดเชยของกองทุนสำหรับก๊าซ LPG ที่ผลิตในราชอาณาจักรกิโลกรัมละ
0.5960 บาท โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2559 เป็นต้นไป
เรื่องที่ 2 คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
สรุปสาระสำคัญ
ปัจจุบันคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ที่แต่งตั้งภายใต้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 55/2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 16 คณะ แบ่งออกเป็น
1. คณะอนุกรรมการที่มีสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานเป็นฝ่ายเลขานุการฯ มีจำนวน 7 คณะ ประกอบด้วย
(1) คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาโรงไฟฟ้าชีวมวล
(2) คณะอนุกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ
(3) คณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
(4) คณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid)
(5) คณะอนุกรรมการแก้ไขระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
(6) คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
(7) คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงคณะอนุกรรมการแก้ไขระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าฯ ที่ยังไม่มีการประชุม
2. คณะอนุกรรมการที่มีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานเป็นฝ่ายเลขานุการฯ มีจำนวน 4 คณะ ประกอบด้วย
(1) คณะอนุกรรมการด้านมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงาน
(2) คณะอนุกรรมการบริหารจัดการเชื้อเพลิงเอทานอลและไบโอดีเซล
(3) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตพลังงานจากขยะ และ
(4) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการบริหารจัดการเชื้อเพลิงเอทานอลและ
ไบโอดีเซลยังไม่มีการประชุม
3. คณะอนุกรรมการที่มีกรมธุรกิจพลังงานเป็นฝ่ายเลขานุการฯ มีจำนวน 2 คณะ ประกอบด้วย
(1) คณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง และ
(2) คณะอนุกรรมการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน
4. คณะอนุกรรมการที่มีสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นฝ่ายเลขานุการฯ มีจำนวน 2 คณะ ประกอบด้วย
(1) คณะอนุกรรมการประสานนโยบายและความร่วมมือพหุภาคีด้านพลังงานกับต่างประเทศ และ
(2) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศทั้งด้านความมั่นคงทางพลังงานและพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
5. คณะอนุกรรมการที่มีสำนักงานบริหารกองทุนพลังงาน เป็นฝ่ายเลขานุการฯ มีจำนวน 1 คณะ คือ คณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจ่ายเงินชดเชยและการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากการปรับภาษีสรรพสามิต ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการประชุม
มติของที่ประชุม
มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ประสานหน่วยงานฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการทั้ง 16 คณะ เพื่อให้ทบทวน สถานะ ความจำเป็น และอำนาจหน้าที่ให้เหมาะสม และให้นำเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานในการประชุมครั้งต่อไป