มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 20/2555 (ครั้งที่ 117)
วันพุธที่ 18 กรกฏาคม 2555 เวลา 16.30 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ปลัดกระทรวงพลังงาน กรรมการ (นายณอคุณ สิทธิพงศ์) เป็นประธานที่ประชุม
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
1.1 น้ำมันดีเซล การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง. พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร
1.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอล การปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับเพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
2. ราคาน้ำมันตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยราคาปิดตลาด ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2555 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 100.85, 115.57 และ 118.28 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ น้ำมันดิบดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2555 (ราคาปิดตลาดวันที่ 11 กรกฎาคม 2555) 4.40 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.00 และ 3.44 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงและราคาไบโอดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มสูงตามไปด้วย โดยมีโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2555 ดังนี้
3. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2555 มีทรัพย์สินรวม 5,193 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 21,532 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 12,711 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 171 ล้านบาท และเงินกู้ยืม 8,650 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิติดลบ 16,339 ล้านบาท
4. จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาดีเซลตลาดโลก ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงและราคาไบโอดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูง ดังนั้น เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้กระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสาร และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซล ลง 0.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกยังคงอยู่ที่ 29.83 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ จะมีรายรับลดลงประมาณวันละ 28 ล้านบาท จากวันละ 148 ล้านบาท เป็นวันละ 120 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
(หน่วย : บาทต่อลิตร)
ชนิดน้ำมัน | เดิม | ใหม่ | เปลี่ยนแปลง(+/-) |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 | 3.30 | 2.90 | -0.40 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 | 1.70 | 1.30 | -0.40 |
น้ำมันดีเซล | 1.50 | 1.00 | -0.50 |
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป
รองปลัดกระทรวงพลังงาน (นายคุรุจิต นาครทรรพ) ได้แจ้งให้ที่ประชุมฯ ทราบว่า ตามที่กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการตามแผนการดำเนินการสนับสนุนกลุ่มรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซ LPG ให้เปลี่ยนมาเป็นรถแท็กซี่ NGV จำนวนประมาณ 15,000 คัน ในวงเงินประมาณ 248 ล้านบาท ปัจจุบันได้มีรถแท็กซี่เข้าร่วมโครงการประมาณ 4,800 คัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ ประมาณ 120 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าอุปกรณ์ 79 ล้านบาท ค่าติดตั้ง 24 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการทำลายชุดอุปกรณ์ และถังก๊าซ LPG 12 ล้านบาท โดยประมาณ ซึ่งขณะนี้ได้มีการสั่งซื้อเพื่อจัดซื้อถัง NGV และอุปกรณ์ส่วนควบแล้วจำนวนประมาณ 3,000 ชุด ส่งมอบแล้วประมาณ 2,000 ชุด โดยมี รถแท็กซี่เข้ารับการติดตั้งแล้วประมาณ 1,100 คัน
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ