มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 20/2554 (ครั้งที่ 78)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.30 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2554 มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 253 ล้านบาท
2. มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 เห็นชอบให้ปรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง 5.3050 บาทต่อลิตร จาก 5.3100 บาทต่อลิตร เป็น 0.0050 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาดครึ่งวันของวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลง 4.26 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 111.38 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 107.12 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 3.58 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 128.48 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 124.90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และคาดการณ์ว่าน้ำมันเบนซินลดลง 4.26 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 131.87 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 127.67 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ถ้าราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาดช่วงเย็นใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดครึ่งวัน ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับลดลง โดยราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 0.47 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 1.16 บาทต่อลิตร เป็น 1.63 บาทต่อลิตร และราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลดลง 0.31 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเพิ่มจาก 1.30 บาทต่อลิตร เป็น 1.61 บาทต่อลิตร
4. จากราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง เพื่อเป็นการลดภาระและเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ ให้ดีขึ้น ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอแนวทางการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จากส่งเข้ากองทุน 1.40 บาทต่อลิตร เป็น 1.80 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้น 22 ล้านบาทต่อวัน จาก 32 ล้านบาทต่อวัน เป็น 54 ล้านบาทต่อวัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จาก 1.40 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1.80 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป