มติคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 2/2541 (ครั้งที่ 14)
วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2541 เวลา 10.00 น.
ณ ห้องประชุมสีเชียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
1. โครงการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นพลังงานทดแทน และปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ส่วนที่ 2 เกษตรกรรายย่อย ระยะที่ 2
2. โครงการสาธิตเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงาน
3. โครงการวิจัยภาระไฟฟ้า
4. โครงการทำแผนที่ไบโอก๊าซในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศ
5. โครงการผลิตบัณฑิตศึกษาและพัฒนางานวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม
6. การตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานเบื้องต้นของอาคารกองทัพอากาศ
รองนายกรัฐมนตรี (นายศุภชัย พานิชภักดิ์) ประธานกรรมการ
เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์) กรรมการและเลขานุการ
เลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในการประชุมครั้งที่ 1/2541 (ครั้งที่ 13) เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2541 ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นพลังงานทดแทน และปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ส่วนที่ 2 เกษตรกรรายย่อย ระยะที่ 2 แล้ว ที่ประชุมเห็นว่าค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการดังกล่าวมีหลายรายการที่รายละเอียดไม่ชัดเจน ที่ประชุมจึงมีมติให้กรมส่งเสริมการเกษตรปรับปรุงค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการฯ ให้ชัดเจน และให้สอบถามความเห็นจากสำนักงบประมาณในการจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายของโครงการฯ ด้วย และให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
กรมส่งเสริมการเกษตรได้สอบถามเจ้าหน้าที่ของสำนักงบประมาณในเรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายของโครงการฯ ในกรณีที่เป็นเงินนอกงบประมาณแล้ว และได้รับคำแนะนำว่าในกรณีที่หน่วยงานจะขอรับเงินช่วยเหลือให้เปล่าหรือเงินอุดหนุนจากกองทุนใด การจัดทำงบประมาณรายจ่ายของโครงการจะขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการให้การสนับสนุนตามที่เจ้าของแหล่งเงินทุนนั้นกำหนด กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้พิจารณาเพิ่มเติมรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ และปรับค่าใช้จ่ายในส่วนค่าบริหารโครงการฯ บางรายการ จากวงเงินเดิม 38,037,000 บาท คงเหลือ 34,756,400 บาท ทำให้จำนวนเงินรวมที่ขอรับการสนับสนุนลดลงจาก 58,761,000 บาท คงเหลือเพียง 55,480,000 บาท คิดเป็นจำนวนเงินที่ลดลง 3,281,000 บาท ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ สรุปค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงได้ดังนี้
หน่วย: บาท
หมวดค่าใช้จ่าย | เดิม | ปรับใหม่ | เปลี่ยนแปลง |
เงินอุดหนุนในส่วนค่าบริหารโครงการฯ | |||
- หมวดค่าจ้าง | 7,056,000 | 7,464,000 | +408,000 |
- หมวดค่าตอบแทน | 1,410,000 | 1,200,000 | -210,000 |
- หมวดค่าใช้สอย | 20,340,000 | 18,540,000 | -1,800,000 |
- หมวดค่าวัสดุ | 7,520,000 | 6,200,000 | -1,320,000 |
- หมวดค่าครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง | 1,711,000 | 1,352,000 | -359,000 |
รวม | 38,037,000 | 34,756,000 | -3,281,000 |
งบประมาณค่าใช้จ่ายของโครงการฯ ประกอบด้วย
1. เงินสนับสนุนจากกองทุนฯ 55,480,000 บาท ประกอบด้วย
- ในส่วนเจ้าของโครงการ เป็นจำนวน 34,756,000 บาท
- ในส่วนผู้ร่วมโครงการ เป็นจำนวน 20,724,000 บาท (45% ของค่าก่อสร้างระบบฯ)
2. เงินที่ผู้ร่วมโครงการลงทุนเอง 25,329,400 บาท (55% ของค่าก่อสร้างระบบฯ)
มติที่ประชุม
1. อนุมัติให้การสนับสนุนเงินจากกองทุนฯ แผนงานภาคความร่วมมือ โครงการพลังงานหมุนเวียนและกิจกรรมการผลิตในชนบท ให้กรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นพลังงานทดแทนและปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ส่วนที่ 2 เกษตรกรรายย่อย ระยะที่ 2 ในวงเงิน 55,480,000 บาท (ห้าสิบห้าล้านสี่แสนแปดหมื่นบาทถ้วน) ตามรายละเอียดแผนงานโครงการที่ปรากฎในสื่อแนบเป็นแผนบันทึกข้อมูลชุดที่ 1 ชื่อแฟ้ม "BIOGAS"
2. เห็นชอบให้ สพช. ประเมินผลการดำเนินการตามโครงการฯ ที่กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินงานไปแล้วแต่ละปี เพื่อให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานภาคความร่วมมือพิจารณา ก่อนอนุมัติให้การสนับสนุนด้านการเงินในการดำเนินงานในปีถัดไป
เรื่องที่ 2โครงการสาธิตเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงาน
เลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าสมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้เสนอโครงการสาธิตเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงาน เพื่อขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ภายใต้แผนงานภาความร่วมมือโครงการส่งเสริมธุรกิจด้านการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานภาคความร่วมมือพิจารณาในการประชุมครั้งที่ 7/2540 (ครั้งที่ 16) เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม 2540 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาโครงการฯ นี้แล้วมีมติเห็นชอบให้การสนับสนุนแก่โครงการนี้ และให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
โครงการนี้เป็นการสาธิตเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงานเพื่อให้ความรู้แก่ เยาวชน ครู และองค์กรเอกชนด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ให้มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกิจกรรมที่จะดำเนินการตามโครงการ 3 กิจกรรม ดังนี้
1. การจัดตั้งศูนย์สาธิตในส่วนกลางและภูมิภาค
โครงการส่วนนี้เป็นการจัดตั้งศูนย์สาธิตเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงานในพื้นที่เป้าหมาย4 แห่ง คือ ในเขตกรุงเทพมหานคร ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง โดยดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้แก่ เยาวชน ครู และองค์กรเอกชนด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ในรูปของการจัดนิทรรศการและหรือการฝึกอบรมให้กับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ เพื่อกระจายข่าวและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับศูนย์สาธิตที่จะจัดตั้งขึ้น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย และผู้มีความสนใจทั่วไปได้เข้าชมนิทรรศการเป็นหมู่คณะตามความพร้อม โดยผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
2. ค่ายฝึกอบรมถาวรด้านวิทยาศาสตร์และพลังงาน
โครงการส่วนนี้เป็นการจัดตั้งศูนย์สาธิตถาวรบนพื้นที่ขนาดไม่น้อยกว่า 30 ไร่ ในเขตจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี หรือเพชรบุรี โดยจะมีการแสดงและสาธิตพัฒนาการของเทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่เยาวชน ครู พระและนักบวช สื่อมวลชน พัฒนากร องค์กรพัฒนาเอกชน ตัวแทนภาคเอกชน ผู้นำเยาวชน รวมทั้งการพัฒนาค่ายเป็นศูนย์เผยแพร่เทคโนโลยีพลังงานต่อไป
3. การเผยแพร่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเคลื่อนที่
เป็นการสาธิตเปรียบเทียบเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงานเพื่อเสนอแนะแนวทางในการป้องกันและลดการสูญเสียพลังงานในกิจกรรมการใช้พลังงานในชีวิตประจำวัน และการผลิตในส่วนที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาครอบคลุมสาระเดียวกับการติดตั้งและดำเนินงานของศูนย์สาธิตเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงาน โดยจัดให้มีการเยี่ยมชม การสาธิต และฝึกอบรมกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นเนื้อหาหลักของการสาธิตเคลื่อนที่ ได้แก่ แนวทางการประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยกิจกรรมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพ ทั้งในครัวเรือน สำนักงาน อุตสาหกรรม และสถานที่สาธารณะ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและความพยายามของรัฐในการแก้ไขภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ โดยเน้นการมีส่วนร่วมและบทบาทของทุกคนที่จะช่วยในการแก้ไขสถานการณ์
มติที่ประชุม
1. อนุมัติให้การสนับสนุนเงินจากกองทุนฯ แผนงานภาคความร่วมมือ โครงการส่งเสริมธุรกิจด้านการอนุรักษ์พลังงาน ให้สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการสาธิตเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงาน ในวงเงิน 73,226,500 บาท (เจ็ดสิบสามล้านสองแสนสองหมื่นหกพันห้าร้อยบาทถ้วน) ตามรายละเอียดแผนงานของโครงการที่ปรากฏในสิ่งแนบเป็นแผ่นบันทึกข้อมูลชุดที่ 2 ชื่อแฟ้ม "DEMO-1" และชุดที่ 3 ชื่อแฟ้ม "DEMO-2"
2. ก่อนให้การสนับสนุนโครงการฯ สมาคมฯ จะต้องเสนอแผนงานและเอกสารเพิ่มเติม พร้อมทั้งปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
2.1 แสดงแผนการใช้จ่ายเงินในแต่ละงวดที่จะขอเบิกจ่ายจากกองทุนฯ ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยจำนวนเงินที่ขอเบิกแต่ละงวด จะต้องสอดคล้องกับกิจกรรมของงวดที่ขอเบิกนั้น รวมถึงระบุวิธีการจ่ายเงินที่ได้รับจัดสรรจากกองทุนฯ ให้กับศูนย์แต่ละศูนย์ และแสดงวิธีปฏิบัติในการควบคุมการใช้จ่ายทั้งในส่วนของสมาคมฯ และส่วนของศูนย์
2.2 โครงการสามารถถัวจ่ายรายการต่างๆ ในหมวดเดียวกันได้ สำหรับรายการที่ต้องถัวจ่ายระหว่างหมวดให้เสนอคณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานภาคความร่วมมือพิจารณา
2.3 กำหนดรายละเอียดการรายงานความก้าวหน้าแต่ละครั้ง ที่สมาคมฯ จะเสนอกองทุนฯ เพื่อขอเบิกค่าใช้จ่ายในแต่ละงวด โดยสมาคมฯ เป็นผู้สรุปรายงานความสำเร็จของทุกๆ ศูนย์
2.4 ระยะเวลาคน-เดือนของบุคลากรในโครงการฯ แต่ละคน เมื่อรวมเวลาการทำงานจากทุกศูนย์แล้ว จะต้องไม่เกินกว่า 12 คน-เดือน/ปี และคำนึงถึงระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติงานรับจ้างอื่น นอกเหนือจากงานของโครงการฯ ด้วย
2.5 กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากรประจำโครงการฯ ในแต่ละกิจกรรมให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในงานใด
2.6 กำหนดพื้นที่เป้าหมายที่จะจัดตั้งศูนย์สาธิตเทคโนโลยีประสิทธิภาพพลังงาน: กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะต้องเป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครที่ประชาชนสามารถเดินทางเข้าชมได้โดยสะดวกเท่านั้น
2.7 กำหนดพื้นที่จัดตั้งโครงการค่ายฝึกอบรมถาวรด้านวิทยาศาสตร์และพลังงาน และแสดงแผนงานละเอียดของการดำเนินการอบรมให้แก่กลุ่มเป้าหมายและผู้เข้าชมนิทรรศการ
2.8 จัดทำแผนการประเมินผลของโครงการฯ พร้อมทั้งวิธีการประเมินผล และระบุข้อมูลที่จะจัดเก็บเพื่อใช้ในการประเมินผลโครงการฯ ทั้งทางด้านวิชาการ และด้านเศรษฐศาสตร์
เรื่องที่ 3 โครงการวิจัยภาระไฟฟ้า
เลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า เนื่องจากธนาคารโลก (World Bank) ได้อนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กู้เงินจำนวน 145,000,000 US$ เพื่อใช้ในการดำเนินการตามแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าในเขตบริการของ กฟน. ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 8 โดยมีเงื่อนไขให้ กฟน. ต้องดำเนินการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า (Demand Side Management : DSM) ด้วย ซึ่งประกอบด้วยโครงการต่างๆ 4 โครงการ ดังนี้
1. โครงการติดตั้งระบบควบคุมภาระไฟฟ้า (Load Control System)
2. โครงการจัดตั้งบริษัทบริการไฟฟ้า (Energy Service Company)
3. โครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ (Appliance Testing Laboratory)
4. โครงการวิจัยภาระไฟฟ้า (Load Research Program) ซึ่ง Global Environment Facility (GEF) จะให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าในการว่าจ้างที่ปรึกษาทางเทคนิค ในวงเงินไม่เกิน 1,000,000 US$
กฟน. ไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขของธนาคารโลก แต่เนื่องจากเห็นว่าข้อมูลที่ได้รับจากโครงการวิจัยภาระไฟฟ้าสามารถนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในการกำหนดมาตรการเพื่อการอนุรักษ์พลังงานได้ กฟน. จึงได้เสนอโครงการวิจัยภาระไฟฟ้า เพื่อขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ภายใต้แผนงานภาคความร่วมมือ โครงการศึกษา วิจัย และพัฒนา ซึ่งฝ่ายฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานภาคความร่วมมือพิจารณา ในการประชุมครั้งที่ 5/2540 (ครั้งที่ 14) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2540 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้การสนับสนุนแก่โครงการฯ และให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
กฟน. จะทำการศึกษาโดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้ไฟฟ้า ประมาณ 1,225 ราย โดยกระจายตัวอย่างให้ได้ครบทุกประเภทและครบทุกพื้นที่ของ กฟน. โดยจะติดตั้ง Module สำหรับบันทึกค่ากิโลวัตต์กับจุดรับไฟของผู้ใช้ไฟฟ้า เพื่อบันทึกรูปแบบภาระไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้า เครื่องวัดจะส่งข้อมูลผ่าน Media Carrier เช่น คลื่นวิทยุ ไปยังศูนย์ข้อมูล และศูนย์ปฏิบัติการโครงการฯ ซึ่งจะทำการเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล วิเคราะห์ผลข้อมูลและจัดทำรายงานสำหรับการวิจัยภาระไฟฟ้าตามหลักวิชาการ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และจะติดตั้งเครื่องวัดฯ ชนิด AMR เพิ่มขึ้นอีกปีละ 0.2 % ของผู้ใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี เครื่องวัดฯ ชนิด AMR จะถูกติดตั้งเป็นเวลา 1-2 ปี หลังจากนั้น กฟน. จะถอดเครื่องวัดฯ เพื่อทำการติดตั้งกับตัวอย่างผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหม่ต่อไป สำหรับการประมวลผลและวิเคราะห์ผลข้อมูล กฟน. จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกๆ 1-2 ปี
มติที่ประชุม
1. อนุมัติเงินกองทุนฯ แผนงานภาคความร่วมมือ โครงการศึกษาวิจัย และพัฒนา ให้การไฟฟ้านครหลวง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการวิจัยภาระไฟฟ้า ในวงเงินค่าใช้จ่ายส่วนที่เป็นเงินตราสกุลบาท 21,868,200 บาท และค่าใช้จ่ายส่วนที่เป็นเงินตราสกุลต่างประเทศ 272,220 US$ ตามรายละเอียดแผนการดำเนินโครงการ ที่ปรากฏในสิ่งแนบเป็นแผ่นบันทึกข้อมูลชุดที่ 4 ชื่อแฟ้ม "Load-Research"
2. ให้ กฟน. ใช้จ่ายเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ในส่วนที่เป็นเงินตราต่างประเทศจำนวน 272,220 US$ ในลักษณะของแบบเหมารวมราคาเป็นเงินบาท โดยใช้ค่าเงินบาท ณ วันที่ลงนามในสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ที่ขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากกองทุนฯ ซึ่งประกอบด้วย เครื่องบันทึกค่ากิโลวัตต์ชนิด AMR อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ ระบบเช่าอุปกรณ์สื่อสารและเครือข่าย
เรื่องที่ 4 โครงการทำแผนที่ไบโอก๊าซในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศ
เลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าหน่วยบริการก๊าซชีวภาพ สถาบันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) ได้เสนอโครงการทำแผนที่ไบโอก๊าซในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศ เพื่อขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ภายใต้แผนงานภาคความร่วมมือ โครงการศึกษา วิจัยและพัฒนา ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานภาคความร่วมมือพิจารณา ในการประชุมครั้งที่ 6/2540 (ครั้งที่ 15) เมื่อวันจันทร์ที่ 15 กันยายน 2540 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้การสนับสนุนแก่โครงการฯ และให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
มช. จะจัดทำฐานข้อมูลเพื่อแสดงศักยภาพในการผลิตก๊าซชีวภาพและความต้องการระบบก๊าซชีวภาพและการบำบัดน้ำเสียของฟาร์มต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนสนับสนุนให้เกิดการผลิต การใช้พลังงานหมุนเวียนของประเทศ มช. จะเก็บข้อมูลโดยการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิจากองค์กรต่างๆ ประมาณ 40,000 แห่ง เช่น กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตร (จากเกษตรจังหวัด) สมาคมผู้บำรุงพันธ์หรือสมาคมผู้เลี้ยงสุกรและโคนมในจังหวัดต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลของฟาร์มในส่วนต่างๆ เช่น ชนิดและปริมาณสัตว์ ปริมาณการใช้น้ำ/น้ำเสียต่อวัน การใช้พลังงานทุกรูปแบบ ประมาณการชีวภาพที่จะผลิตได้ พื้นที่ว่างในฟาร์ม และอื่นๆ ซึ่งข้อมูลที่ได้จะนำมาเก็บไว้ในรูปแบบของโปรแกรมประยุกต์ในระบบปฏิบัติการ Windows 95 ซึ่งสามารถนำข้อมูลมาใช้ได้โดยสะดวก สามารถบ่งบอกถึงฟาร์มที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการก่อสร้างระบบก๊าซชีวภาพได้ในเบื้องต้น ใช้เป็นฐานข้อมูลในการสนับสนุนโครงการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ต่อไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถมองเห็นศักยภาพความต้องการพลังงานของฟาร์ม ตลอดจนพื้นที่รองรับระบบก๊าซชีวภาพ และการบำบัดน้ำเสีย
มติที่ประชุม
อนุมัติให้การสนับสนุนเงินจากกองทุนฯ แผนงานภาคความร่วมมือ โครงการศึกษา วิจัยและพัฒนา ให้สถาบันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการทำแผนที่ไบโอก๊าซในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศ ตามรายละเอียดแผนการดำเนินโครงการที่ปรากฏในสิ่งแนบเป็นแผ่นบันทึกข้อมูลชุดที่5 ชื่อแฟ้ม "BIOGAS-MAP" ในวงเงิน 6,338,440 บาท (หกล้านสามแสนสามหมื่นแปดพันสี่ร้อยสี่สิบบาทถ้วน)
เรื่องที่ 5 โครงการผลิตบัณฑิตศึกษาและพัฒนางานวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม
เลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในการประชุมครั้งที่ 2/2540 (ครั้งที่ 12) เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2540 ได้อนุมัติแผนแม่บทโครงการพัฒนาบุคลากรปี 2541 - 2543 ในวงเงิน 1,144.8 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาหลักสูตร สื่อการสอน แบบเรียน คู่มือและเครื่องมือที่ใช้ประกอบการฝึกอบรมและทำงานและห้องปฏิบัติการในวงเงิน 624.6 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการส่งเสริมการเรียนการสอนเรื่องการอนุรักษ์พลังงานในระดับอุดมศึกษาในวงเงิน 189 ล้านบาท
ทบวงมหาวิทยาลัยได้ริเริ่มโครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและการวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อมนี้ขึ้นเมื่อกลางปี 2539 โดยมีความประสงค์ที่จะพัฒนาขีดความสามารถในเชิงวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยให้มีมาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ โดยได้ประกาศเชิญชวนให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศให้ส่งข้อเสนอโครงการมายังทบวงมหาวิทยาลัย โดยได้รับข้อเสนอโครงการจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจำนวน 52 โครงการ และได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอโครงการฯ ซึ่งมี ศ.ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต เป็นประธานคณะกรรมการ โดยในรอบแรกมี 16 มหาวิทยาลัยที่ผ่านการคัดเลือก และในรอบสุดท้ายมี 5 มหาวิทยาลัยที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ แต่เนื่องจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้รัฐไม่สามารถจัดสรรงบประมาณในปี 2541 ให้กับส่วนของทบวงมหาวิทยาลัยในวงเงิน 164,725,000 บาท ทบวงมหาวิทยาลัยจึงได้เสนอโครงการนี้เพื่อขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ภายใต้แผนงานสนับสนุน ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานสนับสนุนพิจารณา ในการประชุมครั้งที่ 14/2540 (ครั้งที่ 39) เมื่อวันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2540 ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการฯ นี้แล้ว มีมติเห็นชอบในการสนับสนุนโครงการฯ และให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
โครงการผลิตบัณฑิตศึกษาและพัฒนางานวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง 5 มหาวิทยาลัย ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระยะเวลาการดำเนินการ 5 ปี โดยจะร่วมมือกันจัดตั้งโครงการผลิตบัณฑิตศึกษาร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยในด้านเทคโนโลยีพลังงานและเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความเป็นอิสระอยู่ภายใต้สภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันใหม่นี้จะกำหนดอัตราเงินเดือนและเงื่อนไขการจ้างบุคลากรที่โปร่งใสและสามารถดึงดูดผู้มีความสามารถสูงมาร่วมงานได้ โดยมีการดำเนินกิจกรรมตามโครงการดังนี้
1. การเรียนการสอน
สถาบันการศึกษาร่วมที่จะตั้งขึ้นใหม่นี้ จะรับผิดชอบเกี่ยวกับการเรียน การสอนนักศึกษาในโครงการ เป็นระยะเวลา 1 เทอม ส่วนอีก 3 เทอมที่เหลือ นักศึกษาจะกระจายไปยังสถาบันผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อทำการวิจัยและทำวิทยานิพนธ์ในสาขาต่างๆ โดยปริญญาโทจะประกอบด้วย 4 เทอม ใช้ระยะเวลา 2 ปี ส่วนปริญญาเอกจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี ซึ่งสถาบันการศึกษาร่วมที่ตั้งขึ้นใหม่จะคุมวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาประมาณครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย ส่วนสถาบันผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดจะมีหน้าที่รับผิดชอบหลักในการการคุมวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ เมื่อสิ้นสุดโครงการคาดว่าจะมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท 200 คน และระดับปริญญาเอก 50 คน
2. ศูนย์แห่งความเป็นเลิศทางวิชาการในสาขาต่างๆ
โครงการฯ มีแผนที่จะพัฒนาขีดความสามารถของงานวิจัยในห้องปฏิบัติการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม ให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการ (Centre of Excellence) โดยห้องปฏิบัติการนี้จะกระจายอยู่ตามสถาบันผู้ร่วมโครงการตามความเชี่ยวชาญของแต่ละสถาบัน ในสาขาต่างๆ
3. ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี
3.1 ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม
สถาบันผู้เข้าร่วมโครงการจะมีการทำวิจัยร่วมกับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ผลการวิจัยของนักศึกษาสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุดในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม โดยภาคอุตสาหกรรมจะร่วมให้การสนับสนุนเงินทุนวิจัยแก่มหาวิทยาลัย
3.2 ความร่วมมือกับต่างประเทศ
3.2.1 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเมลเบอร์น และมหาวิทยาลัยนิวเซ้าท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย
3.2.2 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทำการวิจัยด้านการเผาไหม้และควบคุมการแพร่กระจายกับประเทศฝรั่งเศส และได้รับการสนับสนุนด้านห้องปฏิบัติการเผาใหม้จากสหภาพยุโรป (EU)
3.3.3 สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธรแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีข้อตกลงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย ข้อมูลและเอกสารวิชาการ การวิจัยร่วมกันกับมหาวิทยาลัยโตเกียว และร่วมมือในโครงการวิจัยกับ International Atomic Energy Agency (IAEA) ประเทศออสเตรีย
มติที่ประชุม
1. อนุมัติเงินกองทุนฯ แผนงานสนับสนุน โครงการพัฒนาบุคลากร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและงานวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่เสนอโดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในวงเงิน 159,765,000 บาท ในระยะเวลา 5 ปี ดังรายละเอียดในเอกสารแนบ 4.8.1 ของระเบียบวาระการประชุม ครั้งที่1/2541 (ครั้งที่ 13) เมื่อวันพุธที่ 25 มีนาคม 2541 และรายละเอียดเพิ่มเติม เอกสารแนบ 3.5.1
2. ให้มีผู้แทนจาก สพช. ในคณะกรรมการอำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อทำหน้าที่กำกับและดูแลโครงการฯ รวมถึงวางนโยบายที่สำคัญต่างๆ เกี่ยวกับ โครงการฯ
3. ให้ สพช. ทำการประเมินผลโครงการเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณในแต่ละปี และรายงานผลต่อคณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานสนับสนุน เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินงานในปีงบประมาณต่อไป
เรื่องที่ 6 การตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานเบื้องต้นของอาคารกองทัพอากาศ
เลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการขอจัดสรรฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2539 ได้กำหนดหลักเกณฑ์การให้การสนับสนุนแก่อาคารควบคุมที่เป็นส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในรูปของเงินช่วยเหลือให้เปล่าทั้งหมดสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอนุรักษ์พลังงาน และคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในการประชุม ครั้งที่1/2539 (ครั้งที่ 8) เมื่อวันพุธที่ 24 มกราคม 2539 ได้มีมติมอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานภาคบังคับสามารถอนุมัติเงินกองทุนฯ สนับสนุนให้แก่โครงการที่มีวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท และพิจารณากลั่นกรองโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาอนุมัติต่อไป
กองทัพอากาศซึ่งเป็นอาคารควบคุมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ มีอาคารจำนวน 434 อาคาร คิดเป็นพื้นที่ใช้สอย 745,758.40 ตารางเมตร ได้ยื่นขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย ในการตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานเบื้องต้น เป็นเงิน 9,250,000 บาท ซึ่งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลแผนงานภาคบังคับได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบให้สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานเบื้องต้นของอาคารกองทัพอากาศ เป็นเงิน 9,250,000 บาท และให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
มติที่ประชุม
อนุมัติเงินจากกองทุนฯ แผนงานภาคบังคับ ให้กองทัพอากาศเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานเบื้องต้นของอาคารกองทัพอากาศ ในวงเงิน 9,250,000 บาท (เก้าล้านสองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน)