Super User
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 3-9 มกราคม 2554
กบง. ครั้งที่ 91 - วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2554
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 33/2554 (ครั้งที่ 91)
เมื่อวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.00 น.
ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
ประธานฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมฯ ทราบว่า ในวันนี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งนายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ในฐานะประธาน กพช. ได้มีบัญชาว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วน โดยให้ชะลอการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ บางประเภทชั่วคราวนั้น กระทรวงพลังงานควรเร่งดำเนินการให้เกิดผลโดยเร็ว ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงาน (นายณอคุณ สิทธิพงศ์) ได้ชี้แจงว่า กระทรวงพลังงานได้จัดทำรายละเอียดเพื่อให้สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในวันนี้ ซึ่ง กบง. จะต้องพิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 95, 91 และน้ำมันดีเซล โดยฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอให้ไม่มีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง 3 ชนิดดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลทำให้ราคาขายปลีกของน้ำมันเบนซิน 95, 91 และน้ำมันดีเซล ลดลง 8.02 7.17 และ 3.00 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และฝ่ายเลขานุการฯ จะดำเนินการออกประกาศ สนพ. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ ส่วนขั้นตอนการดำเนินการเพื่อตรวจสต๊อกน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือจากคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งนายกรัฐมนตรีฯ กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) จะได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตรวจสต๊อกน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือจากคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันซึ่งมีอยู่ประมาณ 17,000 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 24.00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ประธานฯ ได้แจ้งที่ประชุมฯ เพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่ามาตรการชะลอการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันทั้ง 3 ชนิด เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว ซึ่งจะเริ่มเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ อีกครั้ง เมื่อสถานการณ์เหมาะสม และขอให้พิจารณาเกี่ยวกับส่วนต่างราคาของน้ำมันแก๊สโซฮอลและน้ำมันเบนซินเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงว่า กระทรวงพลังงาน จะติดตามสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของประชาชน หากมีการเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเบนซินแทนน้ำมันแก๊สโซฮอลเพิ่มขึ้นก็อาจจะพิจารณาปรับลดอัตราการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอลลง และได้มอบหมายให้ สนพ. ไปประสานผู้ค้าน้ำมันให้ปรับเพิ่มส่วนต่างของค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้มากขึ้น เพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลต่อไป
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชนและต้นทุนของผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายชะลอการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบางประเภทชั่วคราวเพื่อให้ราคาน้ำมันลดลงทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการซื้อสุทธิให้กับประชาชน ส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และหลังจากนั้นจะมีการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบให้สะท้อนราคาต้นทุนพลังงานมากขึ้น และต้องคำนึงถึงการส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอลตามนโยบายของรัฐบาลด้วย
2. ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2554 ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล อยู่ที่ 47.34, 41.94 และ 29.99 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่ 7.50, 6.70 และ 2.80 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ซึ่งการชะลอการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 95, 91 และดีเซลเป็นการชั่วคราว จะมีผลดังนี้
2.1 ราคาขายปลีก การงดการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันเบนซิน 95, 91 และดีเซลลง 7.50 6.70 และ 2.80 บาทต่อลิตร ตามลำดับ จะทำให้ราคาขายปลีกของน้ำมันเบนซิน 95, 91 และดีเซลลดลง 8.02 7.17 และ 3.00 บาทต่อลิตร ตามลำดับ
2.2 การงดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล มีผลให้รายรับของกองทุนน้ำมันฯ ลดลงสุทธิ 6,160 ล้านบาทต่อเดือน โดยรายรับจากน้ำมันเบนซินลดลง 1,530 ล้านบาทต่อเดือน และน้ำมันดีเซล ลดลง 4,629 ล้านบาทต่อเดือน
2.3 ผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมัน การงดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ โดยที่ผู้ค้าน้ำมันได้ส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 95, 91 และดีเซลที่ 7.50, 6.70 และ 2.80 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ไปแล้ว หากรัฐบาลไม่ชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงในสต๊อกคงเหลือจะส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมันไม่สั่งน้ำมันมาจำหน่าย ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันในตลาด และในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันจะเกิดการชะลอการกลั่นน้ำมันจากการที่น้ำมันสำเร็จรูปล้นถังเนื่องจากไม่มีการสั่งซื้อ
3 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมครั้งที่ 4/2554 (ครั้งที่ 137) เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ได้มีการพิจารณาเรื่อง มาตรการชะลอการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลเพื่อลดภาระของผู้บริโภค และได้มีมติดังนี้
3.1 เห็นชอบในหลักเกณฑ์ให้ชะลอการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันดีเซล เป็นการชั่วคราว โดยมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรกของรัฐบาล และให้ กบง. ติดตามความคืบหน้าและผลกระทบจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว หลังจากนั้นให้รายงานเสนอ กพช. เพื่อทราบเป็นระยะๆ ต่อไป โดยให้นำนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล ไปประกอบการพิจารณาด้วย
3.2 เห็นชอบในหลักเกณฑ์ให้ชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือให้ผู้ค้าน้ำมัน ของน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันดีเซล ตามปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือที่คลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน โดยมอบหมายให้ กบง. รับไปดำเนินการกำหนดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ
3.3 เห็นชอบคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ .../2554 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้สามารถดำเนินการตรวจสอบปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือ ณ คลังน้ำมันและสถานีบริการ ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันก่อนที่จะมีประกาศราคาขายปลีกใหม่บังคับใช้ และให้กองทุนน้ำมันฯ จ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือให้ผู้ค้าน้ำมัน
4. เพื่อให้เป็นไปตามมติ กพช. ดังกล่าว ฝ่ายเลขานุการฯ จึงใคร่ขอเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณา ให้ความเห็นชอบ ดังนี้
4.1 ขอความเห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ดังนี้
ชนิดน้ำมัน | เดิม | ใหม่ | เปลี่ยนแปลง(+/-) |
น้ำมันเบนซิน 95 | 7.50 | 0.00 | -7.50 |
น้ำมันเบนซิน 91 | 6.70 | 0.00 | -6.70 |
น้ำมันดีเซล | 2.80 | 0.00 | -2.80 |
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รับไปดำเนินการออกประกาศ กบง. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
4.2 ขอความเห็นชอบให้ชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือให้ผู้ค้าน้ำมัน ของน้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 7.50 บาท น้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 6.70 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 2.80 บาท ตามปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือที่คลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน โดยมอบหมายให้ สนพ. รับไปดำเนินการออกประกาศ สนพ. ในการกำหนดราคาขายปลีกและอัตราเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือให้ผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ดังนี้
ชนิดน้ำมัน | เดิม | ใหม่ | เปลี่ยนแปลง(+/-) |
น้ำมันเบนซิน 95 | 7.50 | 0.00 | -7.50 |
น้ำมันเบนซิน 91 | 6.70 | 0.00 | -6.70 |
น้ำมันดีเซล | 2.80 | 0.00 | -2.80 |
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
2. เห็นชอบให้ชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือให้ผู้ค้าน้ำมัน ของน้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 7.50 บาท น้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 6.70 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 2.80 บาท ตามปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือที่คลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานในการกำหนดราคาขายปลีกและอัตราเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือให้ผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล
ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (สบพน.) (นายศิวะนันท์ ณ นคร) ได้รายงานฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2554 ว่ากองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิประมาณ 1,064 ล้านบาท และคาดว่ากองทุนน้ำมันฯ จะมีสภาพคล่องเป็นบวกจนถึงสิ้นปี 2554 และจะเริ่มติดลบในเดือนมกราคม 2555 ทั้งนี้ สบพน. ได้มีการพิจารณาแนวทางการจัดหาเงินในเบื้องต้นแล้ว