กองทุนอนุรักษ์ จับมือ 7 มหาวิทยาลัย ยกเครื่องงานวิจัย มุ่งเป้าเชิงพื้นที่
กองทุนอนุรักษ์ จับมือ 7 มหาวิทยาลัย ยกเครื่องงานวิจัย มุ่งเป้าเชิงพื้นที่
กระทรวงพลังงาน อนุมัติเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 200 ล้านบาท ให้ 7 มหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาวิจัย พัฒนางานด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 59 ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนเพื่อส่งเสริมการ อนุรักษ์พลังงาน โดยมี ดร.อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเพื่อพิจารณาจัดสรรทุนโครงการศึกษาวิจัยพัฒนาด้านอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทดแทน ประจำปี 2559 ที่มีกรอบวงเงิน รวมทั้งสิ้น 450 ล้านบาท โดยยื่นข้อเสนอที่ สนพ. ซึ่งปีนี้ได้ปรับวิธีจัดสรรทุนโดย 7 มหาวิทยาลัยกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันกำหนดโจทย์วิจัยด้านอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทดแทนที่ตรงกับความต้องการแก้ปัญหาของพื้นที่นั้นๆ และ สนพ. ได้นำมาประกาศเป็นโจทย์วิจัยผ่าน 7 มหาวิทยาลัย คือ ภาคเหนือ-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิจัยเรื่องท่องเที่ยว-ผลไม้-ข้าวโพด, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน-มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิจัยเรื่องอ้อย-ปศุสัตว์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก-มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี วิจัยเรื่องมันสำปะหลัง-ปิโตรเคมี, ภาคกลาง-มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี วิจัยเรื่อง สับปะรด-มะพร้าว-ห้องเย็น และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิจัยเรื่อง ข้าว-ไม้โตเร็ว, ภาคใต้-มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิจัยเรื่อง ปาล์มน้ำมัน-ยางพารา-อาหารทะเล และให้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิจัยเรื่อง นวัตกรรม
“ข้อเสนอ 134 โครงการ รวมจำนวนเงิน 588 ล้านบาท มีที่ผ่านการพิจารณารอบสุดท้าย 46 โครงการ รวมจำนวนเงิน 162 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 มิติ คือ (1) Expanding การปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพ 12 โครงการ (2) New Sources การเตรียมแหล่งพลังงานทางเลือกจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรหรือน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม 14 โครงการ (3) Management การบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน 9 โครงการ และ (4) Innovation การเกิดนวัตกรรมหรือเทคนิค เครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ 11 โครงการ ตัวอย่างเช่น งานวิจัยต่อยอดเรื่องแก้ปัญหาหมอกควันที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ การนำซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปอัดแท่งเป็นเชื้อเพลิงนั้น จะมีการศึกษาเพื่อขยายผลในพื้นที่อื่นที่มีปัญหาหมอกควันเช่นกัน และศึกษาเชิงกระบวนการ (Process) ในวิธีเก็บเกี่ยวพร้อมสับย่อยต้นข้าวโพดเพื่อให้สะดวกต่อการนำมาอัดแท่ง (Product) และศึกษาวิธีบริหารจัดการเพื่อให้มีแผนธุรกิจ (Business Model) ของตลาดชีวมวล เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติเงินจำนวน 38 ล้านบาท ให้ 7 แม่ข่าย สำรวจศักยภาพด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนของแต่ละพื้นที่แล้วนำ ข้อมูลมาเข้าระบบฐานข้อมูลเดียวกันเป็น Single Platform จะทำให้การกำหนดวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายงานวิจัยทั้ง Top Down และ Bottom Up ของแต่ละพื้นที่เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น” ดร.ทวารัฐ กล่าวปิดท้าย