มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 7/2559 (ครั้งที่ 19)
เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายทวารัฐ สูตะบุตร) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2559 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบกรอบและแนวทางในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยปรับอัตราภาษีสรรพสามิตของกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ให้เป็นไปตามกรอบของกระทรวงการคลัง (เพดานอัตราไม่เกิน 10 บาทต่อลิตร)
2. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 13 มีนาคม 2559 ราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และ น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 36.05 55.21 และ 47.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราวันที่ 11 มีนาคม 2559 อยู่ที่ 35.3277 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันของ วันที่ 14 มีนาคม 2559 อยู่ที่ 31.16 บาทต่อลิตร และราคาเอทานอล ณ เดือนมีนาคม 2559 อยู่ที่ 22.94 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 E20 E85 และน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 14 มีนาคม 2559 อยู่ที่ 30.76 23.80 23.38 21.24 17.99 และ 22.29 บาทต่อลิตร ตามลำดับ
3. จากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับต่ำและฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพียงพอในการ รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและส่งเสริมพลังงานทดแทน หากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลง ซึ่งจะเป็นโอกาสในการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐในรูปแบบของเงินงบประมาณแผ่นดิน ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นควรปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E1091E10 E20 E85 และน้ำมันดีเซลลงเท่ากับภาษีสรรพสามิตและภาษีเทศบาลที่เพิ่มขึ้น 0.40 0.36 0.36 0.32 0.06 และ 0.40 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ซึ่งผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องลดลง ประมาณ 1,210 ล้านบาทต่อเดือน (หรือ 39 ล้านบาทต่อวัน) จากมีรายรับ 1,273 ล้านบาทต่อเดือน (หรือ 41.06 ล้านบาทต่อวัน) เป็นมีรายรับ 63 ล้านบาทต่อเดือน (หรือ 2.03 ล้านบาทต่อวัน)
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ลดลงเท่ากับภาษีสรรพสามิตและภาษีเทศบาลที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันคงเดิม ดังนี้
ชนิดน้ำมัน (หน่วย: บาทต่อลิตร) | เดิม | ใหม่ | เปลี่ยนแปลง(+/-) |
น้ำมันเบนซิน | 6.75 | 6.31 | -0.44 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 | 0.65 | 0.2540 | -0.40 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 | 0.6050 | 0.2090 | -0.40 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 | -2.40 | -2.7520 | -0.35 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 | -9.23 | -9.2960 | -0.07 |
น้ำมันดีเซล | 0.58 | 0.14 | -0.44 |
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้วันเดียวกับวันที่กระทรวงการคลังมีประกาศให้ปรับภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว