มติคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 1/2554 (ครั้งที่ 25)
วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2554 เวลา 14.00 น.
ณ ห้องประชุม 5 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารบี
1. รายงานผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2553
2. การขอขยายระยะเวลาโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว จำนวน 15 โครงการ
3. การขอรับคืนหุ้นจำนวน 34,200 หุ้น ของบริษัท เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด ถือในนามกระทรวงการคลัง (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน)
4. การขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
5. การแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559
นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานอนุกรรมการ
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน อนุกรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 รายงานผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2553
1. "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ได้เข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนของกรมบัญชีกลาง (บก.) โดยมีประธานกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นผู้ลงนาม ในบันทึกข้อตกลงการประเมินทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน) ประจำปีบัญชี 2553 กับกระทรวงการคลัง
2. บก. ได้มีหนังสือรายงานผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2553 โดยภาพรวมอยู่ในระดับ 3.8121 คะแนน ได้เป็นไปตามเกณฑ์ในบันทึกข้อตกลง ซึ่งสรุปผลการประเมินได้ ดังนี้
1) ผลการดำเนินงานด้านการเงิน (ร้อยละ 15)
ตัวชี้วัดที่ 1.1 ร้อยละของงบประมาณที่มีการผูกพันสัญญาต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากกอง ทุนฯ ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับร้อยละ 99.84 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 4.9680
ตัวชี้วัดที่ 1.2 ค่าใช้จ่ายบริหารที่เกิดขึ้นจริงและผูกพันเทียบกับงบประมาณ ผลการดำเนินงาน อยู่ในระดับร้อยละ 80.56 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 3.2211
2) ผลการดำเนินงานด้านปฏิบัติการ (ร้อยละ 35)
ตัวชี้วัดที่ 2.1 ร้อยละของจำนวนโครงการที่มีการทำสัญญาของแต่ละแผนงานต่อจำนวนโครงการที่ได้ รับอนุมัติทั้งหมดของแต่ละแผนงาน ผลการดำเนินงานโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 4.1466
โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทแผนงาน ดังนี้
(1) แผนพลังงานทดแทน อยู่ในระดับร้อยละ 97.44 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 4.4880
(2) แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อยู่ในระดับร้อยละ 94.59 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 3.9180
(3) แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ อยู่ในระดับร้อยละ 100.00 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
ตัวชี้วัดที่ 2.2 ร้อยละความสำเร็จของจำนวนโครงการที่ผูกพันและดำเนินงานได้ตามแผนภายในปี บัญชี 2553 ต่อจำนวนโครงการที่ผูกพันและมีแผนดำเนินงานภายในปีบัญชี 2553 ผลการดำเนินงานโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 4.9225 โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทแผนงาน ดังนี้
(1) แผนพลังงานทดแทน อยู่ในระดับร้อยละ 100.00 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
(2) แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อยู่ในระดับร้อยละ 99.39 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 4.8780
(3) แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ อยู่ในระดับร้อยละ 100.00 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
3) การสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ร้อยละ 10)
ตัวชี้วัดที่ 3.1 การสำรวจความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประจำปีบัญชี 2553 จากผลการสำรวจฯ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีระดับความพึงพอใจจากการใช้บริการของกองทุนฯ เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 60.00 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 1.0000
ตัวชี้วัดที่ 3.2 การจัดทำแผนการปรับปรุงการให้บริการจากผลสำรวจความพึงพอใจและดำเนินการตาม แผนฯ ประจำปีบัญชี 2553 ไม่สามารถจัดทำแผนการปรับปรุงการให้บริการได้แล้วเสร็จ ภายใน 30 กันยายน 2553 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 1.0000
4) การบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน (ร้อยละ 40)
ตัวชี้วัดที่ 4.1 การดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจำปีบัญชี 2553 ได้ดำเนินงานตามกิจกรรมในแผนปฏิบัติการสำเร็จ ร้อยละ 87.50 ส่งผลให้การดำเนินงานอยู่ที่ระดับคะแนน 2.5000
ตัวชี้วัดที่ 4.2 การติดตามประเมินผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ พลังงาน ได้ดำเนินการนำเสนอรายงานการติดตามประเมินผลลัพธ์ฯ และได้รับความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2553 ส่งผลให้การดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 5.0000
ตัวชี้วัดที่ 4.3 บทบาทคณะกรรมการทุนหมุนเวียน มีผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนนเท่ากับ 2.3600 ทั้งนี้ พิจารณาจากประเด็นหลักที่สำคัญ 4 ด้าน คือ
(1) การจัดให้มีทิศทาง แผนยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการประจำปี มีผลการดำเนินงาน ในระดับคะแนน 2.8667 จากรายละเอียดดังนี้
การกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์ และเป้าประสงค์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์จัดตั้งและพันธกิจของทุนหมุนเวียน อยู่ในระดับคะแนน 5.0000
การจัดให้มีแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการประจำปีที่มีคุณภาพและระบุองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน อยู่ในระดับคะแนน 5.0000
การให้ความเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ อยู่ในระดับคะแนน 1.0000
การให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการประจำปี อยู่ในระดับคะแนน 1.0000
(2) การติดตามระบบการบริหารจัดการและผลการปฏิบัติงานตามภารกิจของทุนหมุนเวียน มีผลการดำเนินงานในระดับคะแนน 1.0000
(3) การจัดให้มีระบบประเมินผลผู้บริหารระดับสูงของทุนหมุนเวียน มีผลการดำเนินงานในระดับคะแนน 1.0000
(4) การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีผลการดำเนินงานในระดับคะแนน 5.0000
ตัวชี้วัดที่ 4.4 การควบคุมภายใน มีผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนนเท่ากับ 4.7000 โดยพิจารณาจากประเด็นหลักที่สำคัญ 3 ด้าน คือ
(1) การจัดให้องค์กรมีสภาพแวดล้อมการควบคุมภายในที่ครบถ้วนเพียงพอ มีผลการดำเนินงานในระดับคะแนน 4.2500 จากรายละเอียด ดังนี้
ระบบข้อร้องเรียน โดยจัดทำรายงานสรุปเกี่ยวกับข้อร้องเรียนภายในองค์กรนำเสนอผู้บริหารขององค์กร อยู่ในระดับคะแนน 3.0000
การสอบทานและผลการสอบทาน กรณีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ อยู่ในระดับคะแนน 5.0000
การกำหนดขอบเขตระดับของอำนาจในการอนุมัติที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรและสื่อสารให้พนักงานทราบทั้งองค์กร อยู่ในระดับคะแนน 5.0000
(2) การจัดให้มีกิจกรรมการควบคุมภายในที่ดี มีผลการดำเนินงานในระดับคะแนน 5.0000 จากรายละเอียด ดังนี้
ผู้บริหารสูงสุดและผู้บริหารระดับรองมีการสอบทานรายงานทางการเงิน อยู่ในระดับคะแนน 5.0000
ผู้บริหารสูงสุดและผู้บริหารระดับรองมีการสอบทานรายงานที่ไม่ใช่การเงิน อยู่ในระดับคะแนน 5.0000
(3) การติดตามผลและประเมินผล มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับคะแนน 5.0000
ตัวชี้วัดที่ 4.5 การตรวจสอบภายใน มีผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนนเท่ากับ 5.0000 โดยพิจารณาจากประเด็นหลักที่สำคัญ 2 ด้าน คือ
(1) การปฏิบัติงานตรวจสอบภายใน อยู่ในระดับคะแนน 5.0000
(2) การปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ระบุในรายงานผลการตรวจสอบ อยู่ในระดับคะแนน 5.0000
ข้อสังเกต/ข้อเสนอแนะของที่ประชุม
1. ประธานอนุกรรมการฯ เห็นว่าผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ในบางตัวชี้วัดมีคะแนนในระดับที่ต่ำ จึงให้ฝ่ายเลขานุการฯ ชี้แจงถึงสาเหตุของการดำเนินงานตามตัวชี้วัดเหล่านั้น ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้ชี้แจง ที่ประชุมทราบว่า ผลการดำเนินงานที่ได้รับคะแนนต่ำ ได้แก่ ตัวชี้วัดในด้านการสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งมีคะแนนอยู่ที่ระดับ 1.0 เป็นผลมาจากระดับความพึงพอใจจากการใช้บริการของกองทุนฯ ของผู้ มีส่วนได้ ส่วนเสียต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ และความล่าช้าในการจัดทำแผนการปรับปรุงการให้บริการ ซึ่งประธานอนุกรรมการฯ ให้ฝ่ายเลขานุการฯ จัดทำแผนการปรับปรุงการดำเนินงานดังกล่าวและให้นำเสนอคณะอนุกรรมการฯ เพื่อทราบในการประชุมครั้งต่อไป
2. นายพรายพล คุ้มทรัพย์ เห็นควรให้ฝ่ายเลขานุการฯ ชี้แจงผลการดำเนินงานในตัวชี้วัดที่มีระดับผลคะแนนต่ำกว่า 3 พร้อมแผนการปรับปรุงการดำเนินงานที่ชัดเจน
3. ประธานอนุกรรมการฯ ให้ฝ่ายเลขานุการฯ แจ้งผลการประเมินกองทุนฯ ในตัวชี้วัดที่มีระดับ ผลคะแนนต่ำกว่า 3 ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน รับทราบและร่วมกันพิจารณาปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานให้ดีขึ้นต่อไป
มติที่ประชุม
รับทราบรายงานผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2553 และให้ฝ่ายเลขานุการฯ ฯ จัดทำแผนการปรับปรุงการดำเนินงานในตัวชี้วัดที่มีระดับผลคะแนนต่ำกว่า 3 และเสนอคณะอนุกรรมการฯ เพื่อทราบในการประชุมครั้งต่อไป
เรื่องที่ 2 การขอขยายระยะเวลาโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว จำนวน 15 โครงการ
1. สืบเนื่องจากการประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนฯ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2553 ที่ประชุมได้พิจารณาการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการจากที่คณะกรรมการกอง ทุนฯ ได้พิจารณาและอนุมัติไว้แล้ว และมีมติมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ พิจารณาทบทวนและหารือร่วมกับปลัดกระทรวงพลังงาน ในการขอขยายระยะเวลาโครงการ (ลำดับที่ 29-43) ซึ่งเป็นกลุ่มของโครงการที่สิ้นสุดระยะเวลานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ปรับแผนขอขยายเวลาในช่วงที่ผ่านมา จำนวน 15 โครงการ ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2553 และให้เสนอคณะอนุกรรมการกองทุนฯ พิจารณาต่อไป
2. ระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2553 หมวด 3 ข้อ 26 กำหนดว่า "การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว โดยไม่เกินวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนจัดสรรให้ จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะอนุกรรมการกองทุนก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
3. ฝ่ายเลขานุการฯ ร่วมกับปลัดกระทรวงพลังงาน (ปพน.)ได้พิจารณาการขอขยายระยะเวลาโครงการ จำนวน 15 โครงการแล้ว เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2554 และที่ประชุมมีความเห็น สรุปได้ดังนี้
1) เห็นชอบให้กลุ่มโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 5 โครงการ ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการได้ โดยให้แสดงเหตุผลในการขอขยายระยะเวลาที่ชัดเจน ดังนี้
(1) โครงการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่ง มวลชน Park & Ride
(2) โครงการส่งเสริมการแปรรูปขยะเป็นน้ำมัน เทศบาลเมืองวารินชำราบ
(3) โครงการส่งเสริมการแปรรูปขยะเป็นน้ำมัน เทศบาลนครพิษณุโลก
(4) สัญญาซื้อขายปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลม (จัดซื้อและติดตั้งเครื่องวัดลมและบันทึกข้อมูลพร้อมอุปกรณ์ประกอบ)
(5) โครงการปรับปรุงระบบการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในอาคารและโรงงานควบคุม (Feedback Report) ภายใต้พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
2) กลุ่มโครงการที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ จำนวน 10 โครงการ เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการได้ 8 โครงการ ดังนี้
(1) โครงการส่งเสริมการแปรรูปขยะเป็นน้ำมัน ในส่วนบริหารโครงการและติดตามประเมินผล
(2) โครงการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานด้วยไบโอดีเซลชุมชน (โครงการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานด้วยไบโอดีเซลชุมชน)
(3) โครงการศูนย์ทดสอบมาตรฐานอุปกรณ์ระบบทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์
(4) โครงการการส่งเสริมพลังงานจากขยะชุมชน (ว่าจ้างที่ปรึกษาพัฒนาระบบผลิตพลังงานสำหรับเทศบาลที่มีขยะ 5-10 ตัน/วัน และ 10-50 ตัน/วัน)
(5) โครงการวิจัย สาธิต สนับสนุนระบบผลิตจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier (ว่าจ้างวิจัย สาธิตระบบผลิตพลังงานจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier ขนาด 400 กิโลวัตต์)
(6) โครงการวิจัย สาธิต สนับสนุนระบบผลิตพลังงานจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier (ว่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมการติดตั้งทดสอบและรายงานผลระบบ Gasifier แบบ Three Stages ขนาด 100 กิโลวัตต์ จำนวน 4 แห่ง)
(7) โครงการวิจัย สาธิต สนับสนุนระบบผลิตพลังงานจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier (ค่าจัดซื้อและติดตั้งระบบ Gasifier พร้อม Gas Engine เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 100 กิโลวัตต์ จำนวน 4 แห่ง)
(8) โครงการสาธิตพัฒนาพลังงานลมเพื่อผลิตไฟฟ้า (ค่าจัดหาติดตั้งเสาวัดลมขนาดเสาสูง 100 เมตร)
3) ให้ พพ. ดำเนินการยกเลิกโครงการส่งเสริมการใช้เตาหุงต้มและเตาชีวมวลประสิทธิภาพสูง เนื่องจากเป็นการจ้างที่ปรึกษาเพื่อจัดสรรเตาให้กลุ่มเป้าหมาย แต่ไม่มีปริมาณเตาให้ที่ปรึกษาฯ ไปดำเนินการต่อได้ ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะต้องขยายระยะเวลาของโครงการนี้ และให้ยกเลิกโครงการวิจัยพัฒนาประสิทธิภาพระบบผลิตพลังงานจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier เนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการฯ ว่าจ้าง วิจัย สาธิตระบบผลิตพลังงานจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier ขนาด 400 กิโลวัตต์ ซึ่งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ จึงไม่มีเหตุผลสมควรในการขยายระยะเวลาโครงการดังกล่าว
4) สำหรับโครงการวิจัย สาธิต สนับสนุนระบบผลิตจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier (ว่าจ้างวิจัย สาธิตระบบผลิตพลังงานจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier ขนาด 400 กิโลวัตต์) เห็นควรให้ พพ. กำกับดูแลโครงการให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาที่ขอขยายโครงการฯ
5) ปพน. เห็นควรให้ทั้ง พพ. และ สนพ. มีการกำกับดูแลโครงการที่ได้รับการจัดสรรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินโครงการสัมฤทธิ์ผลภายในระยะเวลาดำเนินงานที่เสนอขอรับการ สนับสนุนจากกองทุนฯ
การพิจารณาของที่ประชุม
ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว มีความเห็น สรุปได้ดังนี้
1. เห็นว่าเป็นกลุ่มโครงการที่หน่วยงานได้รับจัดสรรทุนแจ้งเรื่องขอขยาย ระยะเวลาเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินโครงการแล้ว และตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2553 ข้อ 26 มิได้กำหนดให้คณะอนุกรรมการฯ มีอำนาจหน้าที่ ในการพิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการย้อนหลัง ดังนั้นจึงเห็นควรให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเรื่องดังกล่าวหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและให้ความเห็น ในการอนุมัติให้หน่วยงานขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการย้อนหลัง ตามบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ต่อไป
2. ผู้แทนกรมบัญชีกลาง เห็นว่า การพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่ในดุลยพินิจของคณะอนุกรรมการกองทุนฯ และได้มีข้อเสนอแนะว่า หากไม่ขยายระยะเวลาของโครงการ แต่เปลี่ยนเป็นการทำเรื่องขอเบิก-จ่ายเงิน โดยใช้งบประมาณในปี 2554 เพื่อนำไปจ่ายในส่วนที่เหลือของโครงการ ก็น่าจะเป็นไปได้ ทั้งนี้ อาจจะต้องเสนอเรื่องการเบิกจ่ายเงินให้คณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณา เนื่องจากเป็นเงินงบประมาณที่อยู่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานในปี 2554 ที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติไว้แล้ว
3. ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงว่า ในการพิจารณาการขอขยายระยะเวลาโครงการ จำนวน 15 โครงการ ร่วมกับฝ่ายเลขานุการฯ เป็นการพิจารณาตามข้อ 26 ของระบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินฯ พ.ศ. 2553 ที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ โดยโครงการที่พิจารณาจะเป็นโครงการ ที่อนุมัติแล้วในปี 2551-2552 ซึ่งหากดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จจะต้องดำเนินการตามข้อ 18 ของระเบียบ จึงจะขยายระยะเวลาโครงการต่อไปได้
มติที่ประชุม
ให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเรื่องดังกล่าวหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและให้ความเห็น ในการอนุมัติให้หน่วยงานขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการย้อนหลัง ตามบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ต่อไป ซึ่งหากไม่สามารถดำเนินการได้จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร
เรื่องที่ 3 การขอรับคืนหุ้นจำนวน 34,200 หุ้น ของบริษัท เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด ถือในนามกระทรวงการคลัง (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน)
1. กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ให้การสนับสนุนการศึกษาวิจัยแก่ บริษัท เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด ในการดำเนิน "โครงการต้นแบบการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี Vanadium Redox Flow" สำหรับการลดภาระกำลังไฟฟ้าสูงสุด การผลิตไฟฟ้าผสมผสานขนาดเล็ก รถประจำทางไฟฟ้า และเซลล์เชื้อเพลิงคาร์โบไฮเดรท ในวงเงิน 175 ล้านบาท มีระยะเวลาตั้งแต่ 30 มีนาคม 2549 - 29 กรกฎาคม 2550 และ พพ. ได้ว่าจ้างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นที่ปรึกษาฯ โดยร่วมกับผู้ชำนาญการจากมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศ เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลโครงการให้ พพ. และรับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากบริษัทฯ ในวงเงิน 25 ล้านบาท ตามสัญญาว่าจ้างฯ เลขที่ 67/49 โดยมีระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่ 30 มีนาคม 2549-29 ตุลาคม 2550
2. พพ. ได้ยกเลิกสัญญาสนับสนุนบริษัทเซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 เนื่องจากบริษัทฯ ทำงานล่าช้าและไม่ทำการปรับปรุงผลงานงวดที่ 1 ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจาก สวทช. และไม่เป็นไปตามสัญญาฯ
3. พพ. และ สวทช. ได้ปรับลดวงเงินว่าจ้างตามสัญญาจาก 25 ล้านบาท เหลือ 3,461,487.60 บาท เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 และขณะนี้รอให้ สวทช. ส่งงานงวดสุดท้ายให้ พพ.
4. ในสัญญาสนับสนุนฯ ระหว่าง พพ. และ บริษัทฯ ได้ระบุว่าบริษัทฯ ได้บริจาคหุ้นให้เป็นกรรมสิทธิแก่กระทรวงการคลัง (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน) ได้แก่ หุ้นของบริษัทฯ และหุ้นของบริษัทฯ ในเครือ จำนวน 3 บริษัท อันเป็นหุ้นที่ได้มีการชำระเต็มมูลค่าแล้ว ดังนี้ (1) หุ้นของบริษัท Squirrel Holdings Ltd. จำนวน 330 หุ้น คิดเป็นมูลค่าหุ้นรวม 330 เหรียญสหรัฐ (2) หุ้นของบริษัท Cellennium USA., Inc จำนวน 50 หุ้น คิดเป็นมูลค่าหุ้นรวม 50 เหรียญสหรัฐ และ (3) หุ้นของบริษัท เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 34,200 หุ้น คิดเป็นมูลค่าหุ้นรวม 3,420,000 บาท โดยคิดราคาหุ้นตามที่บริษัทฯ แจ้งไว้ ณ เดือนกันยายน 2548 ซึ่งเมื่อยกเลิกสัญญาฯ บริษัทฯ ได้ทำหนังสือขอคืนหุ้น ซึ่ง พพ. ได้ทำหนังสือขอทราบความเหมาะสมจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรับบริจาคและการบริหาร จัดการหุ้นและช่วยตรวจร่างสัญญาสนับสนุนฯ ให้กับ พพ.
5. อส. ได้มีหนังสือที่แจ้งผลการหารือของ พพ. สรุปได้ว่า ตามสัญญาสนับสนุนฯ หุ้นที่บริษัทบริจาคให้แก่กองทุนฯ นั้น เป็นสมบัติของกองทุนฯ นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้โอนให้กับกองทุนฯ ซึ่งคือวันที่ลงนาม ในสัญญาฯ
การพิจารณาของที่ประชุม
ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว มีข้อคิดเห็น ดังนี้
1. ประธานอนุกรรมการกองทุนฯ ได้สอบถามผู้แทน พพ. ในการมอบหุ้นของบริษัท เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด ให้แก่กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ถือเป็นเงื่อนไขในสัญญาหรือเป็นการให้โดยเสน่หา ซึ่งหากการมอบหุ้นเป็นเงื่อนไขในสัญญา เมื่อสัญญาสิ้นสุดก็ควรที่จะคืนหุ้นแก่บริษัทฯ ต่อไป
2. นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ได้พิจารณาสัญญาสนับสนุนระหว่าง พพ. กับ บริษัท เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด แล้ว เห็นว่าข้อ 17 มีข้อความที่ระบุว่า "หากปรากฏในภายหลังว่าการโอนหุ้นดังกล่าว ในวรรคก่อนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนไม่มีผลโดยสมบูรณ์ เป็นเหตุให้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานไม่ได้รับกรรมสิทธิ์ใน หุ้นดังกล่าว ให้ถือว่าผู้วิจัยปฏิบัติผิดสัญญา" จึงถือว่าการให้หุ้นดังกล่าวเป็นเงื่อนไข ในสัญญา นอกจากนี้ ยังเห็นว่าควรระมัดระวังในการใช้ภาษาให้ถูกต้องและเหมาะสม เนื่องจากในสัญญาไม่ได้ระบุว่าเป็นการบริจาคหุ้นให้กองทุนฯ แต่เจตนารมย์ของการให้หุ้นถือว่าเป็นการต่างตอบแทน ดังนั้น เมื่อสัญญาสิ้นสุด ก็ควรคืนหุ้นกลับคืนไปที่บริษัทฯ
3. ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ได้สอบถามผู้แทน พพ. เรื่องการเลิกสัญญาตามที่ระบุไว้ในข้อ 13 ซึ่งกำหนดว่า "กรมสงวนสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญานี้ทั้งหมดหรือบางส่วน โดยหากมีเหตุอันเชื่อได้ว่าผู้วิจัย ไม่สามารถดำเนินการโครงการให้แล้วเสร็จ หรือผลการวิจัยไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หรือผู้วิจัยมิได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้หรือพบว่าผู้ วิจัยนำข้อเสนอโครงการเดียวกับที่นำเสนอภายใต้สัญญานี้ ไปยื่นขอรับการสนับสนุนจากแหล่งทุนอื่นภายในระยะเวลาของสัญญานี้ เพื่อดำเนินงานในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร จากกรมก่อน และในทุกกรณีดังกล่าวหากผู้วิจัยมิได้ดำเนินการแก้ไขภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากกรมเป็นลายลักษณ์อักษร กรมมีสิทธฺบอกเลิกสัญญาได้ทันที ทั้งนี้ การวินิจฉัยของกรมถือเป็นเด็ดขาดโดยผู้วิจัยไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าชดเชย หรือเงิน อื่นใดในทำนองเดียวกันจากกรมรวมทั้งจะพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบ ของทางราชการ..." นั้น พพ. ได้ดำเนินการพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานหรือไม่ รวมทั้งได้พิจารณาว่าการที่บริษัทฯ ดำเนินงานไม่แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์นั้น มีค่าเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่ ก่อนที่จะคืนหลักค้ำประกันให้แก่บริษัทฯ รวมถึงการเบิกจ่ายเงินให้ สวทช. ว่าจะรวมเป็นค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ แม้ว่าอัยการสูงสุดจะเห็นว่าไม่ถูกรวมเป็นค่าเสียหาย เนื่องจากไม่ได้ถูกระบุไว้ในข้อที่ 18 หรือในสัญญานี้ แต่อย่างไรก็ตาม เป็นข้อสังเกตไว้ว่า ควรจะถือว่าเป็นอุทาหรณ์ในการทำสัญญาลักษณะเดียวกันนี้ในการดำเนินโครงการ ต่อไปว่าควรคำนึงถึงประเด็นต่างๆ ข้างต้น
4. ผู้แทน พพ. ได้ชี้แจงว่า จากนโยบายที่ พพ. ต้องการสนับสนุนให้มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการกับภาคเอกชนในการ วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน ดังนั้น การทำสัญญากับเอกชนในครั้งนี้ จึงแตกต่างจากการทำสัญญาจ้างทั่วไปกับเอกชนรายอื่น เนื่องจากเป็นการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน ในการถ่ายทอดองค์ความรู้จากภาคเอกชนสู่หน่วยงานราชการ ประกอบกับภาครัฐเองมิได้มีเจตนาที่จะแสวงหารายได้จากภาคเอกชน แต่มุ่งเน้นการส่งเสริมสนับสนุนมากกว่าการได้รับประโยชน์ และการให้ความเป็นธรรมกับภาคเอกชนในเรื่องนี้ จึงไม่ได้ดำเนินการพิจารณาให้เป็นผู้ละทิ้งงานและไม่คิดค่าเสียหายที่เกิด จากการที่บริษัทฯ ดำเนินงานไม่แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ตามที่ผู้แทนกรมบัญชีกลางได้ตั้งข้อสังเกตไว้
5. ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้มีข้อสังเกตว่า เมื่อเกิดความขัดแย้งในผลการวิจัยระหว่าง สวทช. และ บริษัทฯ จะมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาช่วยในการพิจารณาหรือไม่ เนื่องจากองค์ความรู้ในเรื่องแบตเตอรี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การใช้ พลังงานของโลกเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งผู้แทน พพ. ได้ชี้แจงว่า สวทช. มีผู้เชี่ยวชาญและไม่ได้รับผลประโยชน์จากบริษัทฯ ประกอบกับไม่มีความขัดแย้งใดๆ กับบริษัทฯ จึงเชื่อว่า สวทช. จะให้ความเห็นที่เป็นกลาง
6. ประธานอนุกรรมการกองทุนฯ ได้สอบถามผู้แทน พพ. ในการพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบราชการของบริษัทฯ ซึ่งผู้แทน พพ. ได้ชี้แจงว่า พพ. ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวแล้ว และเห็นว่าการทำงานของบริษัทฯ ไม่ใช่เป็นการทิ้งงาน แต่เป็นเรื่องทางวิชาการที่มีความเห็นแตกต่างกันระหว่าง สวทช. กับบริษัทฯ จึงทำให้ต้องมีการยกเลิกสัญญา
มติที่ประชุม
เห็นชอบให้ พพ. คืนหุ้นจำนวน 34,200 หุ้น คิดเป็นมูลค่าหุ้นรวม 3,420,000 บาท แก่ บริษัท เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด ตามที่ได้ระบุไว้ใน
สัญญาสนับสนุนฯ และให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
เรื่องที่ 4 การขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
1. มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานไป แล้ว ได้ยื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการจากที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้พิจารณาและอนุมัติไว้ รวมจำนวน 20 โครงการ โดยระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินฯ และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2553 หมวด 3 ข้อ 26 กำหนดว่า การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติไว้แล้วโดยไม่เกินวงเงินที่คณะกรรมการกองทุน จัดสรรให้ จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้พิจารณาเหตุผลและรายละเอียด ที่เจ้าของโครงการฯ ได้แจ้งขอเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยจำแนกเรื่องที่ขอเปลี่ยนแปลงออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี่
กลุ่มที่ 1 ขอขยายระยะเวลาโครงการฯ มีจำนวน 13 โครงการ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย ดังนี้
กลุ่มย่อยที่ 1.1 ขอขยายระยะเวลาในโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 2 โครงการ
โครงการ |
ระยะเวลา ดำเนินการเดิม |
ระยะเวลาที่ขอขยายอีก/ รวมระยะเวลาของโครงการทั้งสิ้น | เหตุผลที่ขอขยายเวลา |
1. โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในสวนพฤกษศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร.9 จังหวัดนครราชสีมา งบประมาณ: 5.58 ล้านบาท หน่วยงาน: สป.พน. (สวภ.5) |
7 เดือน 30 มิ.ย. 53 - 26 ม.ค. 54 |
3 เดือน 27 ม.ค. 54 - 26 เม.ย. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 10 เดือน |
ความล่าช้าจากการจัดซื้อจัดจ้างเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยระบบอิเล็กทรอนิคส์ |
2. โครงการรณรงค์สร้างการรับรู้ (Campaign) "เมืองไทย เมืองแห่งพลังงานทดแทน" งบประมาณ : 120.0 ล้านบาท หน่วยงาน: สป.พน. |
15 เดือน 14 ก.ย. 52 - 28 ธ.ค. 53 |
2 เดือน 29 ธ.ค. 53 - 28 ก.พ. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 17 เดือน |
การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงม.ค.-ก.พ. 2553 แต่ไม่สามารถหาผู้รับจ้างได้ จึงได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างใหม่อีกครั้ง |
กลุ่มย่อยที่ 1.2 ขอขยายระยะเวลาในกลุ่มโครงการที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ จำนวน 11 โครงการ
โครงการ |
ระยะเวลา ดำเนินการเดิม |
ระยะเวลาที่ขอขยายอีก/ รวมระยะเวลาของโครงการทั้งสิ้น | เหตุผลที่ขอขยายเวลา |
3. โครงการประชาสัมพันธ์และรณรงค์ "โครงการภูเก็ตสีเขียว" งบประมาณ: 1.052 ล้านบาท หน่วยงาน: สป.พน. |
6 เดือน 24 ก.ย. 53 - 31 มี.ค. 54 |
3 เดือน 1 เม.ย. 54 -30 มิ.ย. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 9 เดือน |
ทำการประกาศสอบราคาจ้าง แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้มาขอรับเอกสาร ต้องดำเนินการสอบราคาใหม่อีกครั้ง |
4. โครงการสื่อสารเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในส่วนภูมิภาค งบประมาณ : 1.9 ล้านบาท หน่วยงาน : สป.พน. |
2 เดือน 24 ก.ย. 53 - 23 พ.ย. 53 |
6 เดือน 24 พ.ย. 53 - 22 พ.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 8 เดือน |
จัดทำ TOR จัดจ้างเสร็จแล้ว แต่พน. มีนโยบายให้ทบทวนแผนยุทธศาสตร์ในส่วนภูมิภาค จึงต้องจัดทำ TOR ใหม่ เพื่อให้เนื้อหาและรูปแบบในการสื่อสารสอดคล้องกับแผนใหม่ |
5. โครงการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของ กระทรวงพลังงานตามนโยบายรัฐบาล งบประมาณ: 2.0 ล้านบาท หน่วยงาน: สป.พน. |
4 เดือน 29 มิ.ย. 53 - 26 ต.ค. 53 |
6 เดือน 27 ต.ค. 53 - 25 เม.ย. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 10 เดือน |
ผู้บริหารให้มีการปรับปรุงเนื้อหาใหม่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงาน ตามนโยบายรัฐบาล |
6. โครงการพัฒนาพลังงานทดแทนบริเวณชายแดน งบประมาณ: 10.80 ล้านบาท หน่วยงาน: สป.พน. (สวภ.5) |
7 เดือน 30 มิ.ย. 53 - 26 ม.ค. 54 |
6 เดือน 27 ม.ค.54 - 25 ก.ค.54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 1 ปี 1 เดือน |
ฐานปฏิบัติการ จำนวน 30 ฐาน ที่จะติดตั้งเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ อยู่ในป่าเขาบริเวณตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งสถานการณ์อยู่ในภาวะตึงเครียด ทำให้กระบวนการติดตั้งและตรวจรับงานล่าช้า |
7. โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 6 โครงการ | |||
7.1 เรื่อง "อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จดทะเบียนใหม่ภายในประเทศไทย" งบประมาณ: 30,000 บาท หน่วยงาน : มจธ. |
1 ปี 1 ต.ค. 52- 30 ก.ย. 53 |
6 เดือน 1 ต.ค.53 - 31 มี.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 1 ปี 6 เดือน |
อยู่ระหว่างการจัดเตรียมบทความ เพื่อเผยแพร่ |
7.2 เรื่อง "การผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มในเอทานอลภาวะเหนือวิกฤตและกึ่งวิกฤตด้วย ตัวเร่งปฏิกิริยาแบบวิวิธพันธุ์ในเครื่องปฏิกรณ์เบดนิ่ง" งบประมาณ: 63,000 บาท หน่วยงาน : จุฬาฯ |
1 ปี 3 เดือน 1 มิ.ย. 52 - 31 ส.ค. 53 |
9 เดือน 1 ก.ย.53 - 31 พ.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 2 ปี |
ประสบปัญหาในขั้นตอนทดลองผลิตไบโอดีเซล ทำให้ไม่สามารถดำเนินงานวิจัยให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้ |
7.3 เรื่อง "การศึกษาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไพโรไลซิส สำหรับขยะพลาสติกในกิจกรรมเพาะเห็ด " งบประมาณ : 40,000 บาท หน่วยงาน : ม.ราชภัฏลำปาง |
1 ปี 1 ต.ค. 52 - 31 ก.ย. 53 |
6 เดือน 1 ต.ค.53 - 31 มี.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 1 ปี 6 เดือน |
อยู่ระหว่างการรอสอบตามกระบวนการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย และเพื่อให้ได้ผลงานวิจัยที่มีคุณภาพสามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดได้ |
7.4 เรื่อง "การผลิตไฮโดรเจนโดยสาหร่ายสีเขียวในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นแหล่งของพลังงานทดแทน" งบประมาณ: 177,000 บาท หน่วยงาน : มก. |
3 ปี
1 มิ.ย. 51 - 31 ธ.ค. 53 |
1 ปี
1 ม.ค. 54 - 31 ธ.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 4 ปี |
ได้เพิ่มเติมตัวอย่างสาหร่ายที่ใช้ในการวิจัย ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการแยกเซลล์สาหร่ายประมาณ 2-3 เดือน ก่อนจะนำมาทำการทดลองชักนำให้เกิดการผลิตไฮโดรเจน ทำให้ล่าช้า |
7.5 เรื่อง "การศึกษาการผลิตเอทานอลจากกากกาแฟ" งบประมาณ: 35,000 บาท หน่วยงาน : ม.ราชภัฏพระนคร |
1 ปี 1 ต.ค. 52 - 30 ก.ย. 53 |
6 เดือน 1 ต.ค.53 - 31 มี.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 1 ปี 6 เดือน |
ประสบปัญหาในขั้นตอนการย่อยเซลูโลสให้เป็นน้ำตาลไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ระยะเวลาการดำเนินงานล่าช้า |
7.6 เรื่อง "การผลิตไบโอดีเซลจากน้ำปาล์มโดยปฏิกิริยาทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นโดยตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธุ์ที่กำจัดออกได้" งบประมาณ: 64,000 บาท หน่วยงาน : ม.อุบลราชธานี |
1 ปี 1 มิ.ย. 52 - 31 พ.ค. 53 |
1 ปี 5 เดือน 1 มิ.ย. 53 - 31 ต.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 2 ปี 5 เดือน |
ผู้วิจัยลาคลอดบุตร จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินงานวิจัยให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาได้ |
8. โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ งบประมาณ: 4.65 ล้านบาท หน่วยงาน: มศก. |
4 ปี 27 ก.ย. 49 - 26 ก.ย. 53 |
1 ปี 27 ก.ย.53 - 26 ก.ย.54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 5 ปี |
เพื่อจัดทำวิทยานิพนธ์ให้แล้วเสร็จ |
9. โครงการส่งเสริมการแปรรูปขยะเป็นน้ำมัน เทศบาลนครขอนแก่น งบประมาณ: 30.10 ล้านบาท หน่วยงาน: เทศบาลนครขอนแก่น |
1 ปี 26 ก.ย. 51 - 26 ก.ย. 52 |
1 ปี 7 เดือน 27 ก.ย. 52 - 30 เม.ย. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 2 ปี 7 เดือน |
ขั้นตอนการจัดจ้าง และระเบียบราชการว่าด้วยการสรรหาผู้ร่วมทุน ซึ่งไม่เอื้ออำนวยต่อการจัดหาผู้ร่วมลงทุน และต้องมีการประกาศคัดเลือกให้มีผู้เสนอเข้ารับการคัดเลือกมากกว่า 1 ครั้ง นอกจากนี้ในช่วงที่ออกประกาศคัดเลือกนั้น ราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ผู้ลงทุนชะลอการลงทุนเนื่องจากเกรงว่าจะไม่คุ้มค่าการลงทุน ประกอบกับเครื่องจักรต้องมีการสั่งนำเข้าจากประเทศจีน ทำให้เกิดความล่าช้ากว่าแผนงานที่วางไว้ |
10. โครงการศึกษาระบบผลิตพลังงานทดแทนจากขยะ เทศบาลตำบลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา งบประมาณ: 2.50 ล้านบาท หน่วยงาน: สป.พน. (สำนักงานพลังงานจังหวัดสงขลา) |
8 เดือน 2 ส.ค. 53 - 2 เม.ย. 54 |
2 เดือน 3 เม.ย. 54 - 16 มิ.ย. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 10 เดือน |
สำนักงานพลังงานจังหวัดสงขลาเพิ่งดำเนินการว่า จ้างบริษัทที่ปรึกษาในการดำเนินงานได้ในวันที่ 15 ต.ค. 2553 และสัญญาสิ้นสุดในวันที่ 16 มิ.ย. 2554 |
11. โครงการพัฒนากำลังพลด้านพลังงานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง งบประมาณ: 30.00 ล้านบาท หน่วยงาน: กรมการพลังงานทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (พท.) |
3 ปี 27 ธ.ค. 50 - 30 ธ.ค.53 |
1 ปี 31 ธ.ค.53 - 30 ธ.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 4 ปี |
บริษัท บีเอ็นบี อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญาละทิ้งงานจากการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ดังนั้น พท. จึงต้องจัดหาบริษัทรับจ้างรายใหม่ เพื่อให้การดำเนินโครงการแล้วเสร็จ |
12. โครงการศูนย์สาธิตและพัฒนาพลังงานทดแทนจากข้าวครบวงจร งบประมาณ: 14.05 ล้านบาท หน่วยงาน : พพ. |
2 ปี 7 เดือน 27 ธ.ค.50 - 31 ก.ค.53 |
10 เดือน 1 ส.ค. 53 -31 พ.ค. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 3 ปี 5 เดือน |
มูลนิธิชัยพัฒนามีความจำเป็นต้องปรับปรุงแบบอาคารโรง คลุมระบบฯ และต้องรอให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาดำเนินการมอบโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินบริเวณ พื้นที่ดำเนินโครงการแล้วเสร็จก่อน จึงจะสามารถดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฯ ได้ |
13. โครงการสาธิตการใช้แก๊สซิไฟเออร์ผลิตเชื้อเพลิงแก๊สใช้ในด้านความร้อนสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก งบประมาณ: 6.55 ล้านบาท หน่วยงาน: สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มช. |
1 ปี 6 เดือน 29 ก.ย. 52 - 28 มี.ค. 54 |
6 เดือน 29 มี.ค. 54 - 27 ก.ย. 54 รวมระยะเวลาโครงการ ทั้งสิ้น 2 ปี |
มช. ต้องใช้เวลาในการคัดเลือกโรงงานต้นแบบที่เหมาะสมสำหรับติดตั้งและสาธิตระบบ แก๊สซิไฟเออร์ จำนวน 5 แห่ง ปัจจุบันติดตั้งระบบครบทั้ง 5 ระบบแล้ว และอยู่ระหว่างการทดลองการใช้งานทั้ง 5 ระบบ |
กลุ่มที่ 2 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จำนวน 3 โครงการ
มีสาเหตุจากผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำหนังสือยืนยันการรับทุนไว้แต่ละ หน่วยงาน ได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีเหตุสุดวิสัยและมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการดำเนินงาน
โครงการ | การขอเปลี่ยนแปลง |
1. โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 1 ทุน งบประมาณ : 35,000 บาท หน่วยงาน : ม.พะเยา |
ม.พะเยา ขอเปลี่ยนชื่อโครงการ จากเดิมเรื่อง "การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์โดยใช้กระจกเงาในการ สะท้อนรังสี" เป็น "การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์โดยใช้สังกะสีในการ สะท้อนรังสี" เนื่องจากประสบปัญหาการใช้กระจกเงาในการดำเนินงานวิจัย ซึ่งแตกหักเสียหายได้ง่าย จึงขอเปลี่ยนมาใช้สังกะสีในการสะท้อนรังสีแทน |
2. โครงการสนับสนุนทุนการศึกษา ต่างประเทศ จำนวน 1 ทุน งบประมาณ : 4.61 ล้านบาท หน่วยงาน : มศก. |
มศก. ขอเปลี่ยนสถานศึกษาให้กับนางพิมลศิริ ประจงสาร จาก University of Sheffield เป็นที่ University of Liverpool ตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 เป็นต้นไป เนื่องจากอาจารย์ที่ปรึกษาของผู้รับทุนจำเป็นต้องย้ายไปประจำอยู่ที่ University of Liverpool และเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษเกี่ยวกับหัวข้อวิจัยที่ผู้รับทุนกำลังศึกษา อยู่เพียงคนเดียว |
3. โครงการนำร่องเพื่อผลิตพลังงาน ทดแทนจากชีวมวลในระดับชุมชน งบประมาณ : 46.21 ล้านบาท หน่วยงาน : สนช. |
ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ยื่นข้อเสนอโครงการเฉพาะระบบที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากสาเหตุด้านศักยภาพของระบบ ความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐศาสตร์ และความยั่งยืนของระบบ ดังนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินโครงการ และสอดคล้องกับสภาพการณ์จริง สนช. จึงขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดการให้เงินสนับสนุนระบบผลิตพลังงานทดแทนจากชี วมวลในแต่ละขนาดของระบบ โดยใช้วงเงินสนับสนุนรวมเท่าเดิม และได้จำนวนระบบ และตัวชี้วัดโครงการไม่น้อยกว่าเป้าหมายเดิมที่ได้เสนอไว้ คือ มีจำนวนระบบไม่น้อยกว่า 11 ระบบ โดยแบ่งเป็นระบบผลิตความร้อน ไม่น้อยกว่า 8 ระบบ ระบบผลิตไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 3 ระบบ |
กลุ่มที่ 3 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ และขอขยายระยะเวลาดำเนินงาน จำนวน 4 โครงการ
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือ หนังสือยืนยันการรับทุนไว้แต่ละหน่วยงาน ได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน
โครงการ | การขอเปลี่ยนแปลง |
1. โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาในประเทศ จำนวน 1 ทุน งบประมาณรวม : 0.369 ล้านบาท หน่วยงาน : สนพ. |
1) สนข. ขอเปลี่ยนแปลงสาขาการศึกษาให้กับ ว่าที่ร้อยเอกณัฏฐพร บัวผุด จากเดิม สาขาวิศวกรรมขนส่ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็น สาขา โลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย |
2. โครงการกำหนดเกณฑ์และจัดทำฉลากเตาหุงต้ม LPG ประสิทธิภาพสูง งบประมาณ: 4.81 ล้านบาท หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) |
1) มจธ. ขอขยายเวลาโครงการ ออกไปอีก 9 เดือน จากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 20 มีนาคม 2553 เป็นสิ้นสุดในวันที่ 20 ธันวาคม 2553 เนื่องจาก มจธ. ต้องใช้เวลาในการปรับปรุงห้องปฏิบัติการสำหรับการทดสอบตัวอย่างเตา รวมทั้งอุปกรณ์และมาตรฐานการทดสอบทุกชนิดเพื่อให้มีความเหมาะสมกับเตาหุงต้ม แอลพีจีชนิดความดันสูง |
3. การดำเนินการสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปีที่ 3 งบประมาณ : 25 ล้านบาท หน่วยงาน : สำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (สพน.) |
1) สพน. ขอขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการฯ ออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2554 - 31 มีนาคม 2555 เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินงานในส่วนการประสานและกำกับดูแลการศึกษาโครงการ ต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน 16 โครงการ และงานในส่วนของการทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะกรรมการประสานงานฯ ในการประสานจัดประชุมของอนุกรรมการฯ และคณะทำงาน รวมทั้ง สพน. ยังต้องทำหน้าที่ในการปรับปรุงรายงานความพร้อมของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงาน นิวเคลียร์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่ IAEA ได้ส่งผลการพิจารณา INIR ฉบับสมบูรณ์ให้กับไทยในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2554 |
4. โครงการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรด้านการทดสอบถังและอุปกรณ์ NGV (ปีที่ 1) งบประมาณ : 7.00 ล้านบาท หน่วยงาน : ธพ. |
1) ขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงวดที่ 1 ไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2554 |
การพิจารณาของที่ประชุม
ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว มีความเห็น ดังนี้
1. เห็นควรให้ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการได้ ยกเว้นโครงการที่ขอขยายระยะเวลาภายหลังจากสิ้นสุดโครงการไปแล้ว คือ โครงการที่ 4 โครงการที่ 5 โครงการที่ 7.1-7.3 โครงการที่ 7.5-7.6 โครงการที่ 9 และ โครงการที่ 12 เนื่องจากหน่วยงานที่ได้รับทุนส่งเรื่องการขอขยายระยะเวลาโครงการภายหลังจาก สิ้นสุดระยะเวลาโครงการแล้ว และให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเรื่องการขอขยายระยะเวลาโครงการภายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการแล้ว หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้ความเห็นในการอนุมัติให้หน่วยงาน ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการย้อนหลัง ตามบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ต่อไป
2. การขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จำนวน 3 โครงการ เห็นควรให้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดได้ทั้ง 3 โครงการ นอกจากนี้ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอแนะสำหรับโครงการ สนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษา ในการดำเนิน "โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์โดยใช้กระจก เงาในการสะท้อนรังสี" ที่ขอเปลี่ยนจากกระจกเงาเป็นสังกะสี เนื่องจากเห็นว่า สังกะสี ไม่คงทนและผุง่าย ควรเปลี่ยนมาใช้แสตนเลส น่าจะเหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตาม ประธานอนุกรรมการฯ เห็นว่า ให้เป็นเงื่อนไขว่าสามารถเปลี่ยนเป็นสังกะสีหรือแสตนเลสก็ได้ ขึ้นกับความเหมาะสม ในการดำเนินงานของผู้รับทุนวิจัย
3. การขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและขยายระยะเวลาโครงการ จำนวน 4 โครงการ เห็นควรให้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดและขยายระยะเวลาดำเนินโครงการได้ ยกเว้นโครงการที่ 1 และ โครงการที่ 2 เนื่องจากหน่วยงานที่ได้รับทุนส่งเรื่องการขอขยายระยะเวลาโครงการภายหลังจาก สิ้นสุดระยะเวลาโครงการแล้ว และให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเรื่องการขอขยายระยะเวลาโครงการภายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการแล้ว หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้ความเห็นในการอนุมัติให้หน่วยงานขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการย้อน หลัง ตามบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ต่อไป
มติที่ประชุม
1. อนุมัติการขยายระยะเวลาโครงการ (กลุ่มที่ 1) จำนวน 9 โครงการ ดังนี้
โครงการ | หน่วยงาน | ระยะเวลาที่ขอขยายอีก | รวมระยะเวลาโครงการ |
1. โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในสวนพฤกษศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร. 9 จังหวัดนครราชสีมา | สป.พน. (สวภ.5) |
3 เดือน (27 ม.ค. 54 - 26 เม.ย. 54) | 10 เดือน |
2. โครงการรณรงค์สร้างการรับรู้ (Campaign) "เมืองไทย เมืองแห่งพลังงานทดแทน" | สป.พน. | 2 เดือน (29 ธ.ค. 53 - 28 ก.พ. 54) | 17 เดือน |
3. โครงการประชาสัมพันธ์และรณรงค์ "โครงการภูเก็ตสีเขียว" | สป.พน. | 3 เดือน (1 เม.ย. 54 - 30 มิ.ย. 54) | 9 เดือน |
4. โครงการพัฒนาพลังงานทดแทนบริเวณชายแดน | สป.พน. (สวภ.5) |
6 เดือน (27 ม.ค.54 - 25 ก.ค.54) | 1 ปี 1 เดือน |
5. โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา เรื่อง "การผลิตไฮโดรเจนโดยสาหร่ายสีเขียวในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นแหล่งของพลังงานทดแทน" | มก. | 1 ปี (1 ม.ค. 54 - 31 ธ.ค. 54) | 4 ปี |
6. โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ | มศก. | 1 ปี (27 ก.ย.53 -26 ก.ย.54) | 5 ปี |
7. โครงการศึกษาระบบผลิตพลังงานทดแทนจากขยะเทศบาลตำบลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา | สป.พน. | 2 เดือน (3 เม.ย. 54 - 16 มิ.ย. 54) | 10 เดือน |
8. โครงการพัฒนากำลังพลด้านพลังงานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง | พท. | 1 ปี (31 ธ.ค. 53 -30 ธ.ค. 54) | 4 ปี |
9. โครงการสาธิตการใช้แก๊สซิไฟเออร์ผลิตเชื้อเพลิงแก๊สใช้ในด้านความร้อนสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก | มช. | 6 เดือน (29 มี.ค. 54 - 27 ก.ย. 54) | 2 ปี |
2. อนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ (กลุ่มที่ 2) จำนวน 3 โครงการ ดังนี้
โครงการ | หน่วยงาน | การอนุมัติ |
1. โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา | ม.พะเยา | เปลี่ยนชื่อโครงการ จากเดิมเรื่อง "การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์โดยใช้กระจกเงา ในการสะท้อนรังสี" เป็น "การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์โดยใช้สังกะสีในการ สะท้อนรังสี" |
2. โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ | มศก. | เปลี่ยนสถานศึกษาให้กับนางพิมลศิริ ประจงสาร จาก University of Sheffield เป็นที่ University of Liverpool ตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 เป็นต้นไป |
3. โครงการนำร่องเพื่อผลิตพลังงานทดแทนจากชีวมวลในระดับชุมชน | สนช. | ปรับเปลี่ยนรายละเอียดการให้เงินสนับสนุนระบบผลิต พลังงานทดแทนจากชีวมวลในแต่ละขนาดของระบบ โดยใช้วงเงินสนับสนุนรวมเท่าเดิม และได้จำนวนระบบ และตัวชี้วัดโครงการ ไม่น้อยกว่าเป้าหมายเดิมที่ได้เสนอไว้ คือ มีจำนวนระบบไม่น้อยกว่า 11 ระบบ โดยแบ่งเป็นระบบผลิตความร้อน ไม่น้อยกว่า 8 ระบบ ระบบผลิตไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 3 ระบบ |
3. อนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ และขอขยายระยะเวลาดำเนินงาน (กลุ่มที่ 3) จำนวน 2 โครงการ ดังนี้
โครงการ | หน่วยงาน | การอนุมัติ |
1. การดำเนินการสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปีที่ 3 | สพน. |
|
2. โครงการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรด้านการทดสอบถังและอุปกรณ์ NGV (ปีที่ 1) | ธพ. |
|
4. ให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเรื่องดังกล่าวหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและให้ความเห็น ในการอนุมัติให้หน่วยงานขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการย้อนหลัง ตามบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ต่อไป ซึ่งหากไม่สามารถดำเนินการได้จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร
เรื่องที่ 5 การแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559
1. เนื่องจากแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3 (ปี 2548-2554) จะสิ้นสุดในปี 2554 ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในระยะต่อไป เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี และแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี รวมทั้งเพื่อให้การใช้จ่ายเงินกองทุนฯ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 และ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2550
2. ให้มีคณะทำงานจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้
(1) ปลัดกระทรวงพลังงาน หรือรองปลัดกระทรวงพลังงานที่ปลัดกระทรวงพลังงานมอบหมาย ประธานคณะทำงาน
(2) อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือผู้แทน คณะทำงาน
(3) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือผู้แทน คณะทำงาน
(4) ผู้แทนคณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน คณะทำงาน
(5) ผู้แทนกรมบัญชีกลาง คณะทำงาน
(6) ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คณะทำงาน
(7) ศ.ดร. พรายพล คุ้มทรัพย์ คณะทำงาน
(8) ศ.ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ คณะทำงาน
(9) รศ.ดร. สุวิทย์ เตีย คณะทำงาน
(10) ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ คณะทำงาน
(11) ผู้อำนวยการสำนักนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน สนพ. คณะทำงานและเลขานุการ
และมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) เสนอแนะนโยบายและทิศทางการจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2555-2559
(2) กำกับ เร่งรัด และติดตามความก้าวหน้า การจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
(3) รายงานความก้าวหน้า การจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานทราบเป็นระยะ
(4) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานได้ตามที่เห็นสมควร
(5) ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่คณะอนุกรรมการกองทุนฯ มอบหมาย
การพิจารณาของที่ประชุม
ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว และเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
มติที่ประชุม
เห็นชอบการแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ