มติคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 2/2550 (ครั้งที่ 46)
วันศุกร์ที่ 21 กันยายน 2550 เวลา 9.30 น.
ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
1. เกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2550
2. ขอความเห็นชอบแผนอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2551-2554 และขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2551
3. ขออนุมัติปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์) กระทรวงพลังงาน ผู้เข้าร่วมประชุม
เรื่องที่ 1 เกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2550
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า กรมบัญชีกลาง (บก.) ได้รายงานผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2549 โดยภาพรวมมีคะแนนอยู่ในระดับ 3.6036 สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.1 ผลการดำเนินงานด้านการเงิน (15%) ประกอบด้วย
ตัวชี้วัดที่ 1.1 ร้อยละของงบประมาณที่มีการผูกพันสัญญาต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนฯ ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2549 อยู่ในระดับร้อยละ 97.27 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.00
ตัวชี้วัดที่ 1.2 ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริหารกองทุนฯ ที่เกิดขึ้นจริงเทียบกับงบประมาณ ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2549 อยู่ในระดับร้อยละ 84.96 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 3.5413
1.2 ผลการดำเนินงานด้านปฏิบัติการ (35%) ประกอบด้วย
ตัวชี้วัดที่ 2.1 ร้อยละของจำนวนโครงการที่มีการทำสัญญาของแต่ละแผนงาน ต่อจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดของแต่ละแผนงาน ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2549 โดย แผนพลังงานทดแทน ได้คะแนน 3.0960 แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ได้คะแนน 3.8880 และแผนงานบริหารทางกลยุทธ์ ได้คะแนน 1.00
ตัวชี้วัดที่ 2.2 ร้อยละของจำนวนโครงการที่สามารถดำเนินงานได้ตามแผนภายในระยะเวลาที่กำหนดต่อจำนวนโครงการทั้งหมด โดยแผนพลังงานทดแทน ได้คะแนน 1.00 แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ได้คะแนน 1.0000 และ แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ ได้คะแนน 5.00
ตัวชี้วัดที่ 2.3 ร้อยละของการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ประจำปี 2549 ได้คะแนน 1.00
1.3 การสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (20%) ประกอบด้วย
ตัวชี้วัดที่ 3.1 การสำรวจความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้คะแนน 5.00
ตัวชี้วัดที่ 3.2 การจัดทำแผนการปรับปรุงการดำเนินงาน ได้คะแนน 4.00
1.4 การบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน (30%) ประกอบด้วย
ตัวชี้วัดที่ 4.1 การจัดทำแผนกลยุทธ์กองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2550-2554 ได้คะแนน 4.00
ตัวชี้วัดที่ 4.2 การจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีบัญชี 2550 กองทุนฯ ได้คะแนน 4.00
ตัวชี้วัดที่ 4.3 การติดตามประเมินผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ได้คะแนน 5.0000
2. ความเห็นคณะอนุกรรมการฯ ในการประชุมครั้งที่ 5/2550 (ครั้งที่ 11) เมื่อ 14 กันยายน 2550
2.1 รับทราบผลการประเมินฯ ประจำปีงบประมาณ 2549 และมีข้อสังเกตเรื่องคะแนนผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่อยู่ในระดับ 3.6036 เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้ชี้แจงว่า กองทุนหมุนเวียนที่มีลักษณะให้การส่งเสริมและเข้าสู่ระบบประเมินผลในปี 2549 มี 11 ราย กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมีผลการประเมินจัดอยู่ในอันดับที่ 6 โดยคะแนนตัวชี้วัดด้านการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการที่ได้รับไม่เต็ม เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ ล่าช้า คณะอนุกรรมการฯ ที่ประชุมรับทราบและให้คำแนะนำว่างบประมาณของกองทุนฯ ปี 2550 ได้รับอนุมัติล่าช้าประมาณ 3 เดือน อาจส่งผลให้การดำเนินงานไม่ผ่านเกณฑ์ ฝ่ายเลขานุการฯ ควรหารือกับกรมบัญชีกลางขอผ่อนผันเพื่อปรับเกณฑ์การประเมินตามตัวชี้วัดดังกล่าวด้วย
2.2 เห็นชอบเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2550 และให้ฝ่ายเลขานุการฯ รายงานให้คณะกรรมการกองทุนฯ รับทราบก่อน เสนอประธานกรรมการกองทุนฯ เพื่อโปรดพิจารณาลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินกับกระทรวงการคลัง
มติที่ประชุม
รับทราบผลการประเมินการดำเนินงานทุนหมุนเวียนของกองทุนฯ ประจำปี 2549 และเห็นชอบเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2550 และให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอประธานกรรมการกองทุน เพื่อโปรดพิจารณาลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินกับกระทรวงการคลัง ต่อไป
1. ผลการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2548-2550 ฝ่ายเลขานุการฯ ได้สรุปรายงานที่ประชุมเพื่อทราบ ดังนี้
1.1 การดำเนินงานแต่ละด้านเป็นไปตามแผนงานฯ ที่กำหนดไว้ ก่อเกิดผลลดการใช้พลังงานได้ประมาณ 1,518 ktoe และมีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น 3,713 ktoe ใกล้เคียงกับเป้าหมาย ณ ปี 2550 โดยเปรียบเทียบเป้าหมายกับผลประหยัดพลังงานที่คาดว่าจะได้รับ ณ ปี 2550 ได้ดังนี้
แผนงาน | เป้าหมาย ปี 54 | เป้าหมาย | ผล |
ปี 50 | ปี 50 | ||
ktoe | ktoe | ktoe | ktoe |
(1) แผนงานเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 7,693 | 1,557 | 1,518 |
1. อุตสาหกรรม | 3,832 | 492 | 567 |
2. ขนส่ง | 3,290 | 861 | 726 |
3. บ้านและการจัดการ | 571 | 204 | 225 |
(2) แผนงานด้านพลังงานทดแทน | 11,311 | 3,555 | 3,713 |
1. ส่งเสริม NGV | 4,348 | 405 | 540 |
2. ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน | 6,963 | 3,150 | 3,173 |
1.2 ผลงานที่สำคัญในการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานในช่วงปี 2548-2550 เช่น
(1) ปรับปรุงแก้ไข พรบ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 เพื่อให้บทบัญญัติบางประการเหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และผ่านขั้นตอนความเห็นชอบของรัฐสภาแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อทูลเกล้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ลงพระปรมาภิไธย
จากการแก้ไข พ.ร.บ.ฯ ฉบับดังกล่าว ต้องมีการปรับปรุงกฎหมายลำดับรองที่ออกตามมาด้วย ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ตามลำดับต่อไป
(2) กำหนดมาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้พลังงาน โดยจัดทำแผน 5 ปี (2550-2554) เพื่อออกกฎกระทรวงฯ กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ (MEPs) และการส่งเสริม (ติดฉลาก) เครื่องจักรและอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน รวมทั้งสิ้น 35 ผลิตภัณฑ์
- (3) การส่งเสริม ช่วยเหลือ อุดหนุน ด้านอนุรักษ์พลังงาน เช่น
โครงการอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม เกิดผลประหยัด 1,979 ล้านบาทต่อปี
โครงการสิทธิประโยชน์ทางภาษี เกิดผลประหยัดจากมาตรการ Cost based 375 ล้านบาทต่อปี มาตรการ Performance based 402 ล้านบาทต่อปี และสิทธิประโยชน์ด้านภาษี (BOI) 1,027 ล้านบาทต่อปี
โครงการเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เกิดผลประหยัดในระยะที่ 1 จำนวน 1,403 ล้านบาทต่อปี และระยะที่ 2 จำนวน 1,545 ล้านบาทต่อปี
(4) การลดการใช้พลังงานในภาคขนส่ง จากการใช้ระบบขนส่งมวลชนโดยมีผู้ใช้รถไฟฟ้าประมาณ 600,000 คนต่อวัน ใน 3 สายทาง การปรับปรุงระบบจราจร ทำให้ความเร็วเฉลี่ยเขตเมือง เพิ่มขึ้น จาก 10 กม./ชม. เป็น 15 กม./ชม. การจัดทำเวบไซต์ Thai Truck Center เพื่อลดการเดินรถเที่ยวเปล่า มีสมาชิกแล้วจำนวน 5,224 ราย และการจัดทำพื้นที่จอดแล้วจร 12 แห่ง รองรับรถยนต์ได้ 5,707 คัน
(5) ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ดำเนินการในหลายด้านๆ ทั้งการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง มาตรการส่งเสริมต่างๆ ทำให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น 3,713 ktoe เช่น
การขยายระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยขยาย จากไม่เกิน 1 MW เป็นไม่เกิน 10 MW ทำให้มี VSPP รายใหม่ ยื่นคำร้องขอขายไฟฟ้า 564 MW ตอบรับซื้อไฟฟ้า 45 ราย 231.7 MW
ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าด้วยระบบ Cogeneration จากการประกาศรับซื้อไฟฟ้ารอบแรก 500 MW นั้น มี SPP ยื่นคำร้องขอขายไฟฟ้า 31 ราย รวม 2,416 MW
การกำหนดส่วนเพิ่มอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้ง SPP และ VSPP ด้วยกลไกการแข่งขัน มี SPP ซื้อซอง 11 ราย ยื่นซอง 9 ราย เป็นชีวมวล 435 MW
การสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำเพื่อพลังงานทดแทน ให้เอกชน 62 ราย ลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเปลี่ยนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันเตาเป็นชีวมวล 36 ราย และเปลี่ยนมาใช้ก๊าซชีวภาพ 26 ราย
มาตรการอุดหนุนเงินลงทุน ค่าออกแบบ และค่าบริหารโครงการ ด้านพลังงานหมุนเวียน ช่วยให้มีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ณ ปี 2550 โดยเปรียบเทียบกับเป้าหมายได้ดังนี้
เป้าหมาย | ผลปี 50 | หน่วย | ||
ปี 54 | ปี 50 | |||
การผลิตไฟฟ้า | ||||
1) พลังงานแสงอาทิตย์ | 45 | 31 | 31 | MW |
2) พลังงานลม | 115 | 4 | 0.15 | MW |
3) พลังงานน้ำ | 156 | 104 | 62 | MW |
4) พลังงานชีวมวล | 2,800 | 2,077 | 1,977 | MW |
5) ขยะ | 100 | 10 | 4 | MW |
6) ก๊าซชีวภาพ | 30 | 8 | 29.20 | MW |
การใช้ความร้อน | ||||
7) พลังงานชีวมวล | 3,851 | 2,217 | 2,087 | ktoe/ปี |
การใช้น้ำมันและแอลกอฮอล์จากพืช | ||||
8) เอทานอล | 3.0 | 0.9 | 0.55 | ล้านลิตร/วัน |
9) ไบโอดีเซล | 4.0 | 0.5 | 0.07 | ล้านลิตร/วัน |
2. ฝ่ายเลขานุการฯ แจ้งต่อที่ประชุมว่า คณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติจัดสรรเงินงบประมาณประจำปี 2550 ให้ 3 หน่วยงาน คือ พพ. สนพ. และกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2549 ในวงเงิน 3,487,758,344 บาท และเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 ได้อนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯ ให้ พพ. เพิ่มเติม 3 โครงการ รวม 154,700,000 บาท รวมวงเงินจัดสรรในปีงบประมาณ 2550 รวมทั้งสิ้น 3,642,458,344 บาท จำแนกได้ดังนี้
หน่วยงาน | แผนพลังงานทดแทน | แผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ | แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ | รวม |
1) พพ. | 1,719,772,500 | 733,050,000 | - | 2,452,822,500 |
2) สนพ. | 529,500,000 | 472,611,000 | 186,405,104 | 1,188,516,104 |
3) กรมบัญชีกลาง | - | - | 1,119,740 | 1,119,740 |
รวม | 2,249,272,500 | 1,205,661,000 | 187,524,844 | 3,642,458,344 |
เนื่องจากระยะเวลาดำเนินการตามแผนปีงบประมาณ 2550 มีเวลาเพียง 9 เดือน งานส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจัดสรรทุน และการจัดหา จัดซื้อ จัดจ้าง การประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามระเบียบและประกาศของกระทรวงการคลัง จึงไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายได้ทันในเดือนกันยายน 2550 ฝ่ายเลขานุการฯ จึงใคร่เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาอนุมัติให้ทั้ง 3 หน่วยงาน ขยายเวลาการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ตามแผนงานต่างๆ ต่อไปได้ถึงเดือนธันวาคม 2550
3. แผนอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2551-2554 กระทรวงพลังงานได้พิจารณาศักยภาพและมาตรการที่จะดำเนินการในช่วงต่อไปกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว จึงเสนอปรับเป้าหมายและวิธีดำเนินการบางมาตรการเพื่อให้ผลที่คาดว่าจะได้รับชัดเจนและเร่งให้เร็วขึ้นได้ ดังนี้
3.1 เป้าหมายแผนอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2551-2554
แผนงาน | เป้าหมายเดิม (26 ธันวาคม 2549) |
เป้าหมายใหม่ (14 กันยายน 2550) |
||
ktoe | ร้อยละ | ktoe | ร้อยละ | |
(1) แผนงานเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 7,694 | 10.5 | 7,088 | 9.6 |
- สาขาอุตสาหกรรม | 3,832 | 5.2 | 2,581 | 3.5 |
- สาขาขนส่ง | 3,290 | 4.5 | 3,290 | 4.5 |
- การจัดการด้านการใช้พลังงาน | 572 | 0.8 | 1,217 | 1.6 |
(2) แผนงานด้านพลังงานทดแทน | 11,311 | 15.4 | 11,206 | 15.2 |
- ส่งเสริม NGV | 4,348 | 5.9 | 4,518 | 6.1 |
- พลังงานหมุนเวียน * | 6,963 | 9.5 | 6,688 | 9.0 |
* เป้าหมายของการใช้พลังงานหมุนเวียนจำแนกประเภทได้ดังนี้
ประเภทพลังงาน | ไฟฟ้า | ความร้อน | เชื้อเพลิงชีวภาพ | รวม | ||
MW | ktoe | ktoe | ล้านลิตร/วัน | ktoe | ktoe | |
แสงอาทิตย์ | 45 | 4 | 5 | - | - | 9 |
พลังลม | 115 | 13 | - | - | - | 13 |
ไฟฟ้าพลังน้ำ | 156 | 17 | - | - | - | 18 |
ชีวมวล | 2,800 | 941 | 3,660 | - | - | 4,601 |
ขยะ | 100 | 45 | - | - | - | 45 |
ก๊าซชีวภาพ * | 60 | 27 | 370 | - | - | 397 |
เอทานอล | - | - | - | 2.4 | 653 | 653 |
ไบโอดีเซล | - | - | - | 3.0 | 953 | 953 |
รวม | 3,276 | 1,047 | 4,035 | 5.4 | 1,606 | 6,688 |
3.2 เป้าหมายการประหยัดพลังงานในภาคอตุสาหกรรม ลดจาก 3,832 ktoe เป็น 2,581 ktoe เนื่องจากงานปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะประหยัดพลังงานได้ 1,400 ktoe ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา และในช่วงปี 2551-2554 จะเร่งดำเนินการและเพิ่มมาตรการที่คาดว่าจะลดการใช้พลังงานได้อีก 794 ktoe สรุปโครงการที่สำคัญ เช่น
3.1.1 เร่งรัดการจัดการออกกฎกระทรวงตาม พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. ... เพื่อให้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร และเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงาน ได้มาตรฐานมีประสิทธิภาพด้านพลังงาน
3.1.2 เร่งส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยใช้มาตรการส่งเสริม สนับสนุนและจูงใจทั้งด้านการเงิน มาตรการทางภาษี และการคำแนะนำทางด้านเทคนิค เพิ่มแนวทางใหม่เสริมกับมาตรการที่มีอยู่ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกลงทุนอนุรักษ์พลังงาน ดังนี้
(1) สนับสนุนธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน ESCO โดยจัดตั้งกองทุนเพื่อร่วมลงทุนและส่งเสริมการลงทุนให้โครงการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน โดยใช้เงินจากกองทุนฯ ไปเข้าร่วมทุนในโครงการ ในปี 2551 จะทดลองดำเนินการในวงเงิน 500 ล้านบาท คาดว่าจะเกิดการลงทุนด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนมากกว่า 2,500 ล้านบาท เกิดผลประหยัดด้านพลังงานมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท/ปี
(2) ส่งเสริมการจัดการด้านการใช้พลังงานโดยวิธีประกวดราคา โดยใช้เงินจากกองทุนฯ สนับสนุนอัตราต่อหน่วยพลังงานที่ประหยัดได้ ด้วยการเชิญชวนผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอวิธีการที่จะปรับปรุงการใช้พลังงาน และเสนอขอรับเงินสนับสนุนต่อค่าพลังงานที่ประหยัดได้ ตามอัตราที่ต้องการและไม่เกินวงเงินที่กองทุนฯ กำหนด คาดว่าจะช่วยลดการใช้พลังงานได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านหน่วย/ปี ลดความต้องการไฟฟ้าได้ 77 MW ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานความร้อน 1.7 ล้าน MMBTU/ปี เทียบเท่าน้ำมันดิบ 48 ล้านลิตร/ปี
(3) รณรงค์ให้มีการเปลี่ยนมาใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ T5 หรือหลอดผอมใหม่เบอร์ 5 แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ T8 หรือหลอดผอมเดิม เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าของประเทศ โดยมีเป้าหมายของ 100 ล้านหลอด หรือประมาณร้อยละ 50 ของจำนวนหลอดในระบบ คาดว่าจะลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 4,111 ล้านหน่วย/ปี นับตั้งแต่ปี 2555 ลดความต้องการไฟฟ้าสูงสุดได้ 891 เมกะวัตต์ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ 2.1 ล้านตัน/ปี
(4) ส่งเสริมลดการใช้พลังงานในสาขาขนส่ง ได้แก่ การจัดเตรียมพื้นที่จอดแล้วจร (Park&Ride) และศึกษากฎหมายเรื่องการกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะ เพื่อให้ความรู้กับผู้ใช้ยานพาหนะทราบเรื่องการขับ/ขี่ที่ความเร็วไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดในแต่ละเขตทาง สำหรับการขนส่งสินค้าจะเริ่มเข้าไปช่วยผู้ประกอบกิจการบริการขนส่งสินค้าโดยตรงเพื่อศึกษาความเหมาะสมวิธีลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และต้องนำผลการศึกษาไปทำจริง สร้างแนวทางจูงใจใหม่ให้ผู้ประกอบกิจการต่างๆ ลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในกิจการของตน พร้อมทั้งจัดโปรแกรมฝึกอบรมวิธีการขับประหยัดน้ำมันและปลอดภัยให้กับ ผู้ขับยานพาหนะของหน่วยงานรัฐและเอกชน
3.3 ด้านการใช้พลังงานทดแทนเป้าหมายลดลง 275 ktoe เนื่องจากปรับเป้าหมายการใช้น้ำมันไบโอดีเซลและเอทานอลลง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการน้ำมันที่ได้ชะลอตัวลงจากอดีตที่เคยคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2551-2554 จะเร่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและพัฒนาพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ด้วยการเร่งผลักดันพลังงานทดแทนที่เหมาะสมกับประเทศไทย ดังนี้
3.3.1 ส่งเสริมการก๊าซชีวภาพ จากฟาร์มสุกร โรงงานแป้งมันสำปะหลัง และน้ำเสียจากโรงงาน เป็นต้น โดยมีเป้าหมายจะผลิตก๊าซชีวภาพ 1,060 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ทดแทนพลังงานเทียบเท่าน้ำมันดิบปีละ 397,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 6,970 ล้านบาทต่อปี ทำให้เป้าหมายก๊าซชีวภาพทางด้านไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 30 MW เป็น 60 MW และด้านความร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 370 ktoe จาก 186 ktoe
3.3.2 การผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ การแปรรูปขยะเป็นพลังงาน การใช้พลังงานจากลม และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ได้มีแผนปฏิบัติการ รายละเอียดวิธีการดำเนินงาน และเป้าหมายในแต่ละปีที่ชัดเจนมากขึ้น
4. การดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานในช่วงปี 2551-2554 ตามข้อ 2 จะขอจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ไปดำเนินการในวงเงินรวมประมาณ 16,132 ล้านบาท โดยสรุปแผนการใช้จ่ายเงินได้ดังนี้
แผนใช้จ่ายเงิน ปี | 2551 | 2552 | 2553 | 2554 | 2555 | รวม 5 ปี |
1) แผนพลังงานทดแทน | 2,588 | 940 | 1,065 | 880 | 1,110 | 6,582 |
2) แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 5,838 | 2,356 | 428 | 351 | 328 | 9,300 |
3) แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ | 250 | - | - | - | - | 250 |
รวมทั้งสิ้น | 8,675 | 3,295 | 1,493 | 1,231 | 1,438 | 16,132 |
หมายเหตุ: แต่ละหน่วยงานสามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในแผนงาน/งานเดียวกันได้
5. ฐานะทางการเงินของกองทุนฯ ตามแผนงานและแผนการจัดสรรเงินในข้อ 3 และข้อ 4 ปรากฏดังตารางต่อไปนี้
หมายเหตุ :
(1) ประมารการรายรับล่วงหน้าปี 2551 ได้รับโอนเงินจำนวน 3,000 ล้านบาท จากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีมาสมทบเป็นรายได้ให้กับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
(2) ประมาณการรายจ่ายล่วงหน้าคาดว่าจะขออนุมัติเพิ่มเติมระหว่างปี 2552-2556 ประมาณปีละ 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเบิกจ่ายได้เฉลี่ยร้อยละ 70 ของงบประมาณที่ได้รับ
6. จากตารางตามข้อ 5 ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 ฐานะการเงินของกองทุนฯ ติดลบ ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเสนอแนวทางเพิ่มสภาพคล่องให้กับฐานะการเงินของกองทุนฯ โดยกำหนดอัตราส่งเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับน้ำมันเบนซินและดีเซล จาก 7 สตางค์ต่อลิตร เป็นอัตรา 25 สตางค์ต่อลิตร ก็จะทำให้ฐานะการเงินของกองทุนฯ เป็นบวก โดยดำเนินการวันเดียวกับการประกาศลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันเบนซินและดีเซลลง 18 สตางค์ต่อลิตร เพื่อไม่ให้มีผลต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อมีการชดใช้หนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหมดแล้ว คาดว่าประมาณเดือนธันวาคม 2550 - มกราคม 2551 ซึ่งจะทำให้ฐานะการเงินของกองทุนฯ ดังนี้
มติที่ประชุม
1. อนุมัติให้การใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ที่คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมครั้งที่ 3/2549 (ครั้งที่ 44) เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2549 และในการประชุมครั้งที่ 1/2550 (ครั้งที่ 45) เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 ได้อนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯ ให้ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และกรมบัญชีกลาง เพื่อใช้ตามแผนงานปีงบประมาณ 2550 รวมทั้งสิ้น 3,642,458,344 บาท (สามพันหกร้อยสี่สิบสองล้านสี่แสนห้าหมื่นแปดพันสามร้อยสี่สิบสี่บาทถ้วน) นั้น สามารถขยายระยะเวลาการผูกพันและใช้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวต่อไปได้ถึงเดือนธันวาคม 2550 สรุปได้ดังนี้
หน่วยงาน | แผนพลังงานทดแทน | แผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ | แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ | รวม |
1) พพ. | 1,719,772,500 | 733,050,000 | - | 2,452,822,500 |
2) สนพ. | 529,500,000 | 472,611,000 | 186,405,104 | 1,188,516,104 |
3) กรมบัญชีกลาง | - | - | 1,119,740 | 1,119,740 |
รวม | 2,249,272,500 | 1,205,661,000 | 187,524,844 | 3,642,458,344 |
2. เห็นชอบกรอบแผนอนุรักษ์พลังงานระยะที่ 3 ในช่วงปี 2551-2554 และอนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯ เพื่อใช้ตามแผนงานดังกล่าว ในวงเงินรวม 16,132,273,859 บาท (หนึ่งหมื่นหกพันหนึ่งร้อยสามสิบสองล้านสองแสนเจ็ดหมื่นสามพันแปดร้อยห้าสิบเก้าบาทถ้วน) และคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาจัดสรรเพิ่มเติมในแต่ละปี จะมีวงเงินเฉลี่ย 3,000 ล้านบาท/ปี สำหรับวงเงิน 16,132,273,859 บาท นำมาจัดสรรให้ 3 หน่วยงาน ดังต่อไปนี้
2.1 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อใช้ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปีงบประมาณ 2551-2555 ในวงเงินรวม 11,851,176,782 บาท (หนึ่งหมื่นหนึ่งพันแปดร้อยห้าสิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหกพันเจ็ดร้อยแปดสิบสองบาทถ้วน) ตามรายละเอียดแผนงาน/โครงการและแนวทางการใช้จ่ายเงินตามที่ปรากฏในเอกสารประกอบวาระ 4.1.2
2.2 ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เพื่อใช้ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ในปีงบประมาณ 2551 ในวงเงินรวม 4,279,988,401 บาท (สี่พันสองร้อยเจ็ดสิบเก้าล้านเก้าแสนแปดหมื่นแปดพันแปดสี่ร้อยหนึ่งบาทถ้วน) ตามรายละเอียดแผนงาน/โครงการและแนวทางการใช้จ่ายเงินตามที่ปรากฏในเอกสารประกอบวาระ 4.1.4-4.1.5 โดยมีเงื่อนไขให้ พพ. จัดทำรายละเอียดของโครงการเพิ่มเติมในบางโครงการฯ และเสนอคณะอนุกรรมการกองทุนฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการ
2.3 อนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯ แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ งานบริหารจัดการ ให้กรมบัญชีกลาง ในวงเงินรวม 1,108,676 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนแปดพันหกร้อยเจ็ดสิบหกบาทถ้วน) เพื่อใช้ในงานบริหารจัดการประจำปีงบประมาณ2551ตามรายละเอียดแผนงาน/โครงการที่ปรากฏในเอกสารประกอบวาระ 4.1.3
3. เห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พิจารณาการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับน้ำมันเบนซินและดีเซล จากเดิมเก็บในอัตรา 7 สตางค์/ลิตร เป็นอัตรา 25 สตางค์ต่อลิตร
4. ให้ สนพ. และ พพ. รายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานให้ฝ่ายเลขานุการฯ เพื่อสรุปรายงานคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ทุก 3 เดือน และคณะกรรมการกองทุนฯ ทุก 6 เดือน
เรื่องที่ 3 ขออนุมัติปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่า มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ไปแล้ว ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการไปจากที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติไว้ รวม 8 โครงการ ดังนี้
1.1 ขอเปลี่ยนแปลงระยะเวลาดำเนินงาน รวม 6 โครงการ คือ
โครงการ | หน่วยงาน | เดิม | ขยายถึง | |
(1) | โครงการการส่งเสริมการผลิตถ่านและการจัดการทรัพยากรไม้อย่างมีประสิทธิภาพ | สมาคมเทคโนโลยีที่เหมาะสม | กันยายน 2549 | กันยายน 2550 |
(2) | โครงการสร้างขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืนในถิ่นทุรกันดาร : กรณีศึกษาพื้นที่อำเภอบ่อเกลือ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน | ม. พระจอมเกล้าธนบุรี | กุมภาพันธ์ 2549 | กรกฎาคม2550 |
(3) | โครงการศึกษากระบวนการสร้างชุมชนเข้มแข็ง ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม |
ม. ราชมงคลล้านนา | กรกฎาคม 2550 | กันยายน 2550 |
(4) | โครงการส่งเสริมการเรียนการสอนเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน ในระดับอุดมศึกษา ด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ |
ม. ธรรมศาสตร์ | กันยายน 2550 | กันยายน 2551 |
(5) | การสนับสนุนทุนอุดหนุนการวิจัยแก่นักศึกษา จำนวน 4 หน่วยงาน | ม. ราชภัฏเลย
ม. เกษตรศาสตร์ ม. พระจอมเกล้าธนบุรี ม. สงขลานครินทร์ |
กรกฎาคม 2550
ธันวาคม 2550 พฤศจิกายน 2550 มกราคม 2551 |
|
(6) | ขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินเกิน 3 เดือน นับจากวันสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา จำนวน 24 ราย |
พพ. | 3 เดือนนับจากวันสิ้นสุดสัญญา |
1.2 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ รวม 2 โครงการ คือ
โครงการ | หน่วยงาน | ขอเปลี่ยนแปลง | |
(1) | โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาในประเทศ จำนวน 1 หน่วยงาน | พพ. | ขอใช้เงินคงเหลือจำนวน 23,580 บาท จากงบประมาณที่ได้รับอนุมัติไว้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาเพิ่มเติมอีก 1 ภาคการศึกษา เนื่องจากมหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนแผนการเรียน จากเดิม 4 ภาคปกติ และ 2 ภาคฤดูร้อน เป็นการเรียนในภาคเรียนปกติ 5 ภาคเรียน |
(2) | การสนับสนุนทุนอุดหนุนการวิจัยแก่นักศึกษา จำนวน 2 หน่วยงาน | ม. แม่ฟ้าหลวง | ขอขยายเวลาดำเนินโครงการวิจัยให้กับ นายธำรงศักดิ์ จินดาเพ็ชร ถึง ตุลาคม 2550 และขอเปลี่ยนชื่อโครงการวิจัย เป็น "สมบัติทางไฟฟ้าและเชิงกลของวัสดุ อิเล็กโทรไลต์ DGC ที่เติมด้วย TZP" |
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | ขอเปลี่ยนชื่อโครงการวิจัย ของ นางสาวลินดา เพ่งสุวรรณ เป็น "ประสิทธิผลของสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการประหยัดพลังงานในอาคาร : กรณีศึกษา นักศึกษาปริญญาโท ภาคปกติ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์" |
2. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมครั้งที่ ครั้งที่ 5/2550 (ครั้งที่ 11) เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 ได้พิจารณาการขอปรับรายละเอียดโครงการดังกล่าวแล้ว เห็นว่าโครงการตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2 รวม 8 โครงการ ที่ขอขยายระยะเวลาดำเนินงานและปรับรายละเอียดโครงการมานั้น ไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับแล้ว และไม่ได้ทำให้ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการลดลง จึงเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินงานและปรับรายละเอียดโครงการได้ตามที่เสนอมา และให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ ขออนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ต่อไป
มติที่ประชุม
อนุมัติให้ทั้ง 8 โครงการ ตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2 ขยายระยะเวลาดำเนินงานและปรับรายละเอียดได้ตามที่ขอมา
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2550 ได้เห็นชอบเรื่องแนวทางการออกประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (Independent Power Producer : IPP) สำหรับการจัดหาไฟฟ้าในช่วงปี พ.ศ. 2555 - 2557 ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เสนอ โดยมี สนพ. กระทรวงพลังงาน และคณะอนุกรรมการประเมินและคัดเลือกข้อเสนอการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน เป็นผู้ดำเนินการออกประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าจาก IPP และเห็นชอบให้ สนพ. สามารถนำรายได้ที่เกิดขึ้นในโครงการฯ ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษาเพื่อประเมินและคัดเลือกข้อเสนอฯ และหากมีรายได้คงเหลือ ให้ สนพ. นำส่งเป็นรายได้ของรัฐ
2. การดำเนินงานที่ผ่านมา
2.1 ขั้นตอนดำเนินงานออกประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าสำหรับ IPP กำหนดไว้ดังนี้
1) ออกประกาศเชิญชวน | 29 มิถุนายน 2550 |
2) กำหนดการ IPP ยื่นข้อเสนอ | 19 ตุลาคม 2550 |
3) ประเมินและคัดเลือกแล้วเสร็จ | 16 พฤศจิกายน 2550 |
4) ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วเสร็จ | มิถุนายน 2551 |
5) จัดหาเงินกู้แล้วเสร็จ (Financial Closed) | มิถุนายน 2552 |
6) เริ่มการก่อสร้างโรงไฟฟ้า | มิถุนายน 2552 |
7) วันเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ | พ.ศ. 2555 - 2557 |
2.2 เพื่อให้การออกประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าจาก IPP เป็นไปตามแผนงานฯ ซึ่งมีความเร่งด่วนในการดำเนินการ สนพ. จึงได้ดำเนินการจ้างที่ปรึกษาด้านระบบส่งสำหรับโครงการศึกษาสนับสนุนการดำเนินงานรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ITSA) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 83 วรรคสอง โดยวิธีตกลง และได้ทำสัญญาจ้างที่ปรึกษาเลขที่ KO. 2/2550 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2550 โดยใช้เงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
3. ปัญหาของการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาและข้อเสนอเพื่อพิจารณา
3.1 การจ้างที่ปรึกษาด้านระบบส่งฯ สนพ. ได้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 83 วรรคสอง ที่ให้หัวหน้าส่วนราชการทำรายงานชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นของการจ้างโดยวิธีตกลงให้ คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ทราบ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้มีการจ้าง โดย สนพ. ได้รายงานเสนอ กวพ. แล้วตามหนังสือลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2550
3.2 การพิจารณาเรื่องการจ้างที่ปรึกษา ITSA ดังกล่าวซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาโดยกรมบัญชีกลางเพื่อเสนอ กวพ. ให้ความเห็น ที่ใช้เวลามานานพอสมควร ประกอบกับ สนพ. ได้เคยหารือกับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติในการนำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพัสดุ พ.ศ.2535 มาอนุโลมใช้บังคับกับเงินกองทุนฯ ซึ่ง กวพ. ได้เคยตอบข้อหารือไว้แล้วว่า "การหารือเกี่ยวกับการดำเนินการด้านพัสดุ โดยใช้จ่ายจากเงินกองทุนซึ่งไม่อยู่ในข่ายบังคับของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพัสดุ พ.ศ.2535 กวพ. จึงไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาวินิจฉัยข้อหารือดังกล่าวได้"
3.3 สนพ. ได้พิจารณาทบทวนขั้นตอนการดำเนินการในเรื่องการจ้างที่ปรึกษา ITSA แล้วเห็นว่า กวพ. อาจไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาวินิจฉัยข้อหารือในเรื่องนี้เช่นกัน และเนื่องจากคณะกรรมการกองทุนฯ ยังไม่ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติตามระเบียบพัสดุ ข้อ 83 วรรคสอง ไว้ ฝ่ายเลขานุการฯ จึงอาศัยอำนาจตามระเบียบคณะกรรมการการกองทุนฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนพิจารณา
มติที่ประชุม
เห็นชอบให้ สนพ. จัดจ้างที่ปรึกษาด้านระบบส่งสำหรับโครงการศึกษาสนับสนุนการดำเนินงานรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ ตามสัญญาจ้างที่ปรึกษาเลขที่ KO. 2/2550 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2550 โดยวิธีตกลง ได้ตามที่ สนพ. เสนอ