มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 3/2557 (ครั้งที่ 3)
วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.30 น.
รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ) พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง เป็นประธานที่ประชุม
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายชวลิต พิชาลัย เป็นกรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
1. รัฐบาลมีนโยบายในการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นธรรมสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นผู้พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ โดยให้คำนึงถึง (1) สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก (2) ภาวะเงินเฟ้อ (3) การส่งเสริมพลังงานทดแทน และ (4) ฐานะกองทุนน้ำมันฯ
2. จากการพิจารณาโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2557 พบว่าค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 0.4887 บาทต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม ดังนั้น กบง. ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2557 จึงได้มีมติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลลง 0.81 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2557 อยู่ที่ 1.2393 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกไม่เปลี่ยนแปลง
3. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2557 เมื่อเปรียบเทียบราคา น้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2557 พบว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลง 6.01 3.78 และ 5.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 104.70 123.48 และ 118.34 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 อยู่ที่ 32.3002 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 0.3128 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ ของกรดไขมันของวันที่ 16 กรกฎาคม 2557 อยู่ที่ 31.21 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 1.44 บาทต่อลิตร เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 23 มิถุนายน 2557 ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2557 อยู่ที่ 2.5272 บาทต่อลิตร ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าค่าการตลาดที่เหมาะสม โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าการตลาด ประกอบด้วย (1) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่แข็งค่าขึ้น 0.3128 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 0.22 บาทต่อลิตร (2) ราคาน้ำมันดีเซล (MOPS) เฉลี่ย 3 วันลดลง 5.7267 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 1.10 บาทต่อลิตร (3) การเปลี่ยนแปลงราคา B100 เพิ่มขึ้น 1.4400 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ ค่าการตลาดลดลง 0.09 บาทต่อลิตร ดังนั้นต้นทุนน้ำมันที่ปรับตัวลดลงดังกล่าว เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ที่ระดับ 1.50 บาทต่อลิตร ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้นลิตรละ 1.00 บาท ซึ่งผลจากการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว จะทำให้ค่าการตลาด ของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.5272 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นประมาณ 58.99 ล้านบาท จากมีรายจ่ายวันละ 31.20 ล้านบาท เป็นมีรายรับวันละ 27.79 ล้านบาท ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2557 มีทรัพย์สินรวม 7,059 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 15,881 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นติดลบ 8,822 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลขึ้น 1.00 บาทต่อลิตร จาก 0.00 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่อัตรา 1.00 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป