มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 27/2556 (ครั้งที่ 161)
วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.00 น.
ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
2. แนวทางการปฏิบัติงานของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 กรณีปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ กรรมการและเป็นประธานที่ประชุม แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นางสาวจิระภาพร ไหลมา เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
เรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ข้อ 1.7.3 ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคและผู้ผลิต และ ข้อ 3.5.3 กำกับราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม เป็นธรรมและมุ่งสู่การสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยปรับบทบาทกองทุนน้ำมันฯ ให้เป็นกองทุนสำหรับรักษาเสถียรภาพราคา ส่วนการชดเชยราคานั้นจะดำเนินการอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติมากขึ้นในภาคขนส่งและส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอลและไบโอดีเซลในภาคครัวเรือน
2. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
2.1 น้ำมันดีเซล การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง. พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร2.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอล การปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับ เพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมัน แก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
3. เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 กบง. ได้พิจารณาโครงสร้างราคา และค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง และได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ราคาปิดตลาดของน้ำมันตลาดโลก และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่อ่อนค่าลง ส่งผลทำให้โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2556 เป็นดังนี้
4. ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาด ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2556 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และ น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 106.39, 115.83 และ 123.25 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.50, 0.70 และ 0.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากการประชุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 (ราคาปิดตลาดวันที่ 12 สิงหาคม 2556) ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 20 สิงหาคม 2556 อยู่ที่ 31.7499 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลง 0.4018 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ จากวันที่ 12 สิงหาคม 2556 ซึ่งอยู่ที่ 31.3481 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ โดยตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2556 ผู้ค้าน้ำมันฯ ไม่มีการปรับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง
5. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2556 มีทรัพย์สินรวม 21,238 ล้านบาท หนี้สินรวม 14,341 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นบวก 6,897 ล้านบาท
6. จากราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง และอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง มีผลทำให้โครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2556 เป็นดังนี้
จากโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2556 พบว่าค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นเพื่อให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลลง 0.40 บาทต่อลิตร ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จะทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.44 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดเฉลี่ยกลุ่มเบนซินอยู่ที่ประมาณ 1.45 บาทต่อลิตร และ ค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1.44 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ จะมีรายรับลดลงประมาณวันละ 22.29 ล้านบาท จากมีรายรับวันละ 50.75 ล้านบาท เป็นมีรายรับวันละ 28.46 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลลง 0.40 บาทต่อลิตร จาก 1.30 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 0.90 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและ แผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป
เรื่อง แนวทางการปฏิบัติงานของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 กรณีปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ได้มีมติเห็นชอบให้ทยอยปรับราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 เป็นต้นไป จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม และกำหนดเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซ LPG ไว้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครัวเรือนผู้มีรายได้น้อย ช่วยเหลือตามการใช้จริง แต่ไม่เกิน 18 กิโลกรัมต่อ 3 เดือน และกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ช่วยเหลือตามการใช้จริงไม่เกิน 150 กิโลกรัมต่อเดือน โดยใช้ถังขนาดใดก็ได้แต่ไม่เกินขนาดถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้รับมอบหมาย ให้จัดทำแนวทางการป้องกันการทุจริต และให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดทำระบบช่วยเหลือผ่านผู้ค้าน้ำมัน ตามมาตรา 7
2. ธพ. ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (สบพน.) ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 สมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว และผู้ให้บริการเกี่ยวกับการจัดส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ (Service Provider) ในการจัดระบบช่วยเหลือให้กับผู้มีสิทธิ์ ซึ่งกำหนดขั้นตอนการเข้าใช้สิทธิ์ผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 กรณีปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน ดังนี้
2.1 ให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 สำรองจ่ายเงินส่วนลดโดยโอนเงินเข้าบัญชีให้กับร้านจำหน่ายก๊าซ LPG เพื่อให้ผู้ได้รับสิทธิ์สามารถซื้อก๊าซ LPG ได้ในราคาเดิม การแบ่งความรับผิดชอบร้านจำหน่ายก๊าซ LPG ตามส่วนแบ่งการตลาดของผู้ค้าแต่ละราย ซึ่งมีร้านจำหน่ายก๊าซ LPG รวมทั้งสิ้นจำนวน 38,926 ร้านค้า2.2 การสำรองจ่ายของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ให้รับผิดชอบทั้งร้านจำหน่ายก๊าซ LPG กล่าวคือ ไม่ว่าผู้ใช้สิทธิ์จะซื้อก๊าซ LPG ยี่ห้อใด ร้านจำหน่ายก๊าซ LPG จะจำหน่ายให้ในราคาเดิม ในการนี้ ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 จะโอนเงินเข้าบัญชีร้านจำหน่ายก๊าซ LPG ทุกเดือนและประมาณเดือนละ 2 ครั้ง2.3 ธพ. จะสรุปผลการจำหน่ายก๊าซ LPG จากระบบของร้านจำหน่ายก๊าซ LPG ส่งให้ผู้ค้าน้ำมัน ตามมาตรา 7 เป็นรายสัปดาห์ทุกวันอังคารและรายเดือนทุกวันที่ 5 ของเดือนถัดไป ทาง E-mail เพื่อให้ผู้ค้าน้ำมัน ตามมาตรา 7 ใช้ในการพิจารณาโอนเงินสำรองจ่ายให้แก่ร้านจำหน่ายก๊าซ LPG
มติของที่ประชุม
รับทราบแนวทางการปฏิบัติงานของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 กรณีปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน