Super User
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 17 สิงหาคม 2547
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 4-10 กรกฎาคม 2554
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 31 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556
กบง. ครั้งที่ 109 - วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2555
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 12/2555 (ครั้งที่ 109)
เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 14.00 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
1. การชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอลจากมันสำปะหลัง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโย(นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ)บายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอลจากมันสำปะหลัง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 มีมติเห็นชอบแนวทางการชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอลจากมันสำปะหลัง โดย (1) การชดเชยราคาแก๊สโซฮอลที่สูงขึ้นจากการใช้เอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลังในโครงการมาผสม เมื่อเทียบกับเอทานอลที่ผลิตจากกากน้ำตาลในแต่ละเดือน ให้แก่ผู้ค้ามาตรา 7 ที่เข้าร่วมโครงการ โดยคำนวณจากปริมาณเอทานอลที่ขอชดเชยแล้ว จะไม่เกินกว่าปริมาณเอทานอลที่รับซื้อจากผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังที่ซื้อจากคลังกลาง (อคส.) (ปตท. ไม่เกิน 16.2 ล้านลิตร บางจาก ไม่เกิน 7.4 ล้านลิตร และไทยออยล์ไม่เกิน 0.8 ล้านลิตร) (2) อัตราการชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล โดยใช้ราคามันเส้นที่โรงงานเอทานอลซื้อจากคลังกลางเฉลี่ยในเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม 2555 เท่ากับ 7.3165 บาทต่อกิโลกรัม และ (3) อนุมัติเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอลจากมันสำปะหลัง ในวงเงิน 180 ล้านบาท
2. เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการให้ระบายมันเส้นจากสต๊อคของรัฐบาลที่จำนำไว้ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2554/55 เพื่อนำไปผลิตเอทานอลจำนวนประมาณ 65,000 ตัน ในราคาตันละ 7,947.90 บาท ซึ่งเป็นราคาตามที่คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังได้มีมติเห็นชอบไว้ ในส่วนการชดเชยต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้พิจารณาดำเนินการตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอเพิ่มเติม โดยให้กระทรวงพาณิชย์หารือในรายละเอียดกับกระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วดำเนินการต่อไปได้ แล้วให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
3. คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังในการประชุมครั้งที่ 6/2555 เห็นชอบให้จำหน่ายมันเส้นแก่ผู้ผลิตเอทานอลที่ราคา 7,947.90 ต่อตัน หรือ 7.9479 บาทต่อกิโลกรัม ประกอบด้วย (1) ราคาหัวมันสด 6.8365 บาทต่อกิโลกรัม (2) ค่าแปลงสภาพหัวมันสดเป็นมันเส้น 0.3800 บาทต่อกิโลกรัม (3) ค่าขนมันเส้นจากลานมันมาส่งมอบ อคส. 0.2465 บาทต่อกิโลกรัม (4) ค่าเก็บรักษามันเส้นและค่าบริการจัดการของ อคส. 0.3115 บาทต่อกิโลกรัม และ (5) ค่าใช้จ่ายด้านการเงินของธนาคาร ธกส. 0.1734 บาทต่อกิโลกรัม
4. จากมติ กบง. เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบแนวทางการชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลที่ผสมอทานอลจากมันสำปะหลัง โดยใช้ราคามันเส้นที่โรงงานเอทานอลซื้อจากคลังกลางเฉลี่ยเท่ากับ 7.3165 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษามันเส้นและค่าบริหารจัดการ (อคส.) ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการเงิน (ธกส.) และมีการปรับต้นทุนค่าขนส่งมันเส้นจากลานมันมาส่งมอบที่คลังสินค้ากลาง ทำให้มีต้นทุนมันเส้นเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.631 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 7.9479 บาทต่อกิโลกรัม และคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบที่จะจำหน่ายมันเส้นให้แก่ผู้ผลิตเอทานอลในราคา 7.9479 บาทต่อกิโลกรัม เป็นราคาต้นทุนที่คำนวณจากราคาหัวมันสด ค่าแปลงสภาพหัวมันสดเป็นมันเส้น ค่าขนส่งมันเส้นจากลานมันมาส่งมอบที่คลังสินค้ากลาง และรวมค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษามันเส้น และค่าบริหารจัดการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ตลอดจนต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เป็นส่วนต่างดังกล่าว โดยขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนน้ำมันฯ ในการชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอลจากผลิตจากมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นจากเดิมในวงเงิน 180 ล้านบาท เป็น ในวงเงิน 222 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลัง ในวงเงินชดเชย 180 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 ซึ่งใช้ราคามันเส้นที่โรงงานเอทานอลซื้อจากคลังกลางในราคา 7,316.50 บาทต่อตัน
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 12 สิงหาคม 2547
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 27 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2554
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 24-30 ธันวาคม 2555
กบง. ครั้งที่ 108 - วันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2555
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 11/2555 (ครั้งที่ 108)
เมื่อวันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 16.00 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 ที่เห็นชอบเรื่องการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล ดังนี้
1.1 เห็นชอบให้ยกเลิกมติ กพช. เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2554 เรื่องแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เห็นชอบให้ทยอยปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลเดือนละ 1 บาทต่อลิตร และปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว อัตรา 0.60 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 เป็นต้นไป
1.2 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
(1) น้ำมันดีเซล การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควร ให้ กบง. พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซล ให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลง ให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร
(2) น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอล การปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับเพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าวให้คำนึงถึงสถานการณ์ราคาน้ำมัน ในตลาดโลกและภาวะเงินเฟ้อของประเทศ การส่งเสริมพลังงานทดแทนและฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
1.3 มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ประเมินผลการดำเนินงานตามการมอบหมายข้างต้น เสนอ กพช. และคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาทุกไตรมาส
2. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง กบง. ได้มีมติปรับเพิ่มอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2555 และวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ดังนี้
ชนิดน้ำมัน/วันที่ประชุม | เดิม | 24 พ.ค. 55 | 1 มิ.ย. 55 |
น้ำมันเบนซิน 95 | 4.00 | 4.50 | 5.00 |
น้ำมันเบนซิน 91 | 4.00 | 4.50 | 5.00 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 | 2.20 | 2.20 | 2.20 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 | 0.60 | 0.60 | 0.60 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 | -0.80 | -0.80 | -0.80 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 | -12.60 | -12.60 | -12.60 |
น้ำมันดีเซล | 0.60 | 0.90 | 1.20 |
มีผลบังคับใช้ | 25 พ.ค. 55 | 2 มิ.ย. 55 |
3. ราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง โดยราคา ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2555 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 95.05 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 109.81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 109.88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศปรับลดตามไปด้วย ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ในระดับสูง โดยค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันเบนซิน 91 ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2555 อยู่ที่ 2.8426, 6.0584 และ 2.8614 บาทต่อลิตร ตามลำดับ
4. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2555 มีทรัพย์สินรวม 5,016 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 26,721 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 16,389 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 332 ล้านบาท และเงินกู้ยืม 10,000 ล้านบาท ดังนั้น กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิติดลบ 21,705 ล้านบาท
5. จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ดังนั้นเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของกองทุนน้ำมันฯ ให้ดีขึ้น และส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน 95, 91 ขึ้น 0.90 บาทต่อลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล ขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้ สนพ. รับไปดำเนินการออกประกาศ กบง. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลและเบนซิน 95, 91 ลดลง 0.30 บาทต่อลิตร และราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอลลดลง 0.40 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ จะมีรายรับเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 62 ล้านบาท จากวันละ 81 ล้านบาท เป็นวันละ 143 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
ชนิดน้ำมัน | เดิม | ใหม่ | เปลี่ยนแปลง (+/-) |
น้ำมันเบนซิน 95 | 5.00 | 5.90 | +0.90 |
น้ำมันเบนซิน 91 | 5.00 | 5.90 | +0.90 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 | 2.20 | 2.50 | +0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 | 0.60 | 0.90 | +0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 | -0.80 | -0.50 | +0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 | -12.60 | -12.30 | +0.30 |
น้ำมันดีเซล | 1.20 | 2.10 | +0.90 |
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป