มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 39/2556 (ครั้งที่ 173)
วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.00 น.
ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคาร B กระทรวงพลังงาน
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
2. หลักเกณฑ์การคำนวณอัตราเงินชดเชยก๊าซ LPG สำเร็จรูปนำเข้า
3. ขอแก้ไขชื่อในหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
4. สรุปผลการดำเนินโครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังในไตรมาสที่ 3/2556
ปลัดกระทรวงพลังงาน นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ กรรมการและเป็นประธานที่ประชุม แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ เป็นกรรมการและเลขานุการ
เรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ข้อ 1.7.3 ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคและผู้ผลิต และ ข้อ 3.5.3 กำกับราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม เป็นธรรมและมุ่งสู่การสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยปรับบทบาทกองทุนน้ำมันฯ ให้เป็นกองทุนสำหรับรักษาเสถียรภาพราคา ส่วนการชดเชยราคานั้นจะดำเนินการอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติมากขึ้นในภาคขนส่งและส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอลและไบโอดีเซลในภาคครัวเรือน
2. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
2.1 น้ำมันดีเซลการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง. พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร2.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอลการปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับ เพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
3. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2556 กบง. ได้พิจารณาโครงสร้างราคา และค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง และได้มีมติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลลง 0.60 บาทต่อลิตร ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง ส่งผลทำให้โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2556 เป็นดังนี้
4. ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาด ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2556 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 106.57, 116.97 และ 124.64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบ และน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง 0.64 และ 3.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ และน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2556 (ราคาปิดตลาดวันที่ 2 ธันวาคม 2556) ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในวันที่ 16 ธันวาคม 2556 อยู่ที่ 32.1614 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 0.18 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ จากวันที่ 2 ธันวาคม 2556 ที่ 32.3411 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันวันที่ 16 ธันวาคม 2556 อยู่ที่ 37.03 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 1.54 บาทต่อลิตร (จากวันที่ 2 ธันวาคม 2556)
5. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2556 มีทรัพย์สินรวม 20,433 ล้านบาท หนี้สินรวม 17,503 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นบวก 2,930 ล้านบาท
6. จากราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงและอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น มีผลทำให้โครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2556 เป็นดังนี้
จากโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2556 พบว่าค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับสูง ดังนั้นเพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเสนอปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้นลิตรละ 0.40 บาท ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จะทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอลอยู่ที่ประมาณ 1.62 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.57 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1.59 บาทต่อลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายลดลงประมาณวันละ 22.27 ล้านบาท จากมีรายจ่ายวันละ 159.92 ล้านบาท เป็นมีรายจ่ายวันละ 137.66 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล ดังนี้
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป
เรื่อง หลักเกณฑ์การคำนวณอัตราเงินชดเชยก๊าซ LPG สำเร็จรูปนำเข้า
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556 เห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) นำเข้า ดังนี้ (1) อัตราเงินชดเชยราคาก๊าซ LPG จากการนำเข้า เท่ากับส่วนต่างระหว่างราคาก๊าซ LPG นำเข้าและราคาก๊าซ LPG ณ โรงกลั่นที่ทำในราชอาณาจักร และ (2) หลักเกณฑ์การคำนวณราคาก๊าซ LPG นำเข้า เป็นดังนี้
ราคาก๊าซ LPG นำเข้า = CP + Premium + ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
โดยที่1) CP = ราคาประกาศเปโตรมิน ณ ราสทานูรา ซาอุดิอาระเบียเป็นสัดส่วนระหว่างโพรเพน กับ บิวเทน 60 ต่อ 40 ณ เดือนที่มีการนำเข้า2) Premium = ค่าขนส่งและค่าธรรมเนียม ณ เดือนที่นำเข้า3) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ได้แก่ Insurance, Loss, Demurrage, Import duty, Surveyor/witness fee & Lab expenses, Management Fee, Depot Operating Expenses และAdjust Demurrage (ส่วนต่างระหว่างค่า Demurrage ที่เกิดขึ้นจริงกับค่าประมาณการของเที่ยวเรือก่อนหน้าที่สามารถเจรจาจนได้ข้อยุติแล้ว)4) อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ขายให้ลูกค้าธนาคารทั่วไป ที่ประกาศโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย เฉลี่ยเดือนก่อนหน้าเดือนที่นำเข้า
2. เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2556 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือหารือสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อขอทบทวนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการนำเข้า LPG สำเร็จรูป ณ คลังก๊าซเขาบ่อยา เนื่องจาก ปตท. ได้รับมอบหมายให้นำเข้าก๊าซ LPG เพื่อจำหน่ายในประเทศให้เพียงพอ โดยที่ผ่านมา ปตท. นำเข้าก๊าซ LPG รูปของก๊าซโพรเพนและบิวเทนเพื่อผลิตเป็น LPG ที่คลังก๊าซเขาบ่อยา จังหวัดชลบุรี แต่เนื่องจากสภาวะ LPG ในตลาดโลกเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2556 ค่อนข้างตึงตัว ทำให้มีผู้เสนอขายก๊าซ LPG เพียงรายเดียวเท่านั้นที่สามารถส่งมอบในช่วงที่ ปตท. กำหนดวันที่ 16 - 18 ธันวาคม 2556 โดยขายเป็น LPG สำเร็จรูป ขนส่งด้วยเรือ Refrigerated จำนวน 30,000 เมตริกตัน จากประเทศไนจีเรีย และเสนอราคาต่ำกว่าเที่ยวอื่นๆ ประมาณ 10 - 20 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ปตท. จำเป็นต้องซื้อก๊าซ LPG นำเข้าเที่ยวนี้เพื่อป้องกันการขาดแคลน โดยจะเป็นการนำเข้า LPG สำเร็จรูปครั้งแรกที่คลังก๊าซเขาบ่อยา
3. การดำเนินการตามข้อ 2 ข้างต้น มีข้อจำกัดในการปฎิบัติดังนี้ (1) คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 4/2547 ข้อ 9 กำหนดให้การส่งเงินเข้ากองทุนสำหรับก๊าซที่นำเข้าให้ส่งแก่ผู้รับชำระอากรขาเข้าพร้อมกับการชำระภาษีอากร ตามระเบียบกรมศุลกากร แต่ประกาศ กบง. กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ทำในราชอาณาจักรและนำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร ตามข้อ 2(2) และข้อ 2(3) กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ส่งออกจากคลังก๊าซจังหวัดชลบุรีไปยังคลังก๊าซภูมิภาคหรือไปยังที่อื่นๆ เพื่อให้ราคาขายส่งก๊าซ LPG ที่คลังภูมิภาคเท่ากันทั่วประเทศ ซึ่งกรมศุลกากรไม่มีระเบียบปฏิบัติ เนื่องจากคลังก๊าซจังหวัดชลบุรีอยู่ในการดูแลของกรมสรรพสามิต ส่งผลให้เมื่อ ปตท. จ่าย LPG เที่ยวที่นำเข้านี้ออกจากคลังก๊าซเขาบ่อยา จังหวัดชลบุรี ปตท. จะไม่สามารถส่งเงินเข้ากองทุนได้ตามประกาศที่กำหนด และ (2) ระบบ Thai Customs Electronic Systems (TCES) ของกรมศุลกากร สามารถบันทึกอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพียงอัตราเดียว หากการดำเนินพิธีการนำเข้าของก๊าซ LPG เที่ยวนี้ใช้ 2 อัตรา คือ อัตรานำส่งเข้ากองทุนและอัตราชดเชยส่วนต่างราคานำเข้า กรมศุลกากรจึงไม่สามารถดำเนินการในระบบ TCES ได้ครบถ้วน
4. เพื่อให้ไม่เกิดการขาดแคลนและมีปริมาณก๊าซ LPG เพียงพอกับความต้องการใช้ภายในประเทศ รวมทั้งสามารถดำเนินการส่งเงินหรือขอเงินชดเชยกองทุนน้ำมันฯ ได้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2556 สนพ. ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมธุรกิจพลังงาน กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน และ ปตท. โดยมีข้อสรุปคือ ให้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การคำนวณการนำเข้าก๊าซ LPG สำเร็จรูป และแก้ไขประกาศ กบง. เรื่อง “การกำหนดราคา อัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ผลิตในราชอาณาจักรหรือนำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร อัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ส่งไปยังคลังก๊าซ” และขอเพิ่มเติมประกาศ กบง. เรื่อง “การกำหนดอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในราชอาณาจักร” โดยมีรายละเอียดดังนี้
4.1 หลักเกณฑ์การคำนวณอัตราเงินชดเชยก๊าซ LPG สำเร็จรูปจากการนำเข้า
โดยที่1) ราคาก๊าซ LPG สำเร็จรูปนำเข้า
- CP = ราคาประกาศเปโตรมิน ณ ราสทานูรา ซาอุดิอาระเบียเป็นสัดส่วนระหว่างโพรเพนกับบิวเทน ณ เดือนที่มีการนำเข้า- Premium = ค่าขนส่งและค่าธรรมเนียม ณ เดือนที่นำเข้า- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ได้แก่ Insurance, Loss, Demurrage, Import duty, Surveyor/witness fee & Lab expenses, Management Fee และ Depot Operating Expenses- อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ขายให้ลูกค้าธนาคารทั่วไป ที่ประกาศโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย เฉลี่ยเดือนก่อนหน้าเดือนที่นำเข้า2) ราคาก๊าซ LPG ที่ทำในราชอาณาจักร คือ ราคาก๊าซ LPG ณ โรงกลั่น ที่ กบง. กำหนด3) อัตราเฉลี่ยเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน คือ อัตราเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันตามประกาศ กบง. ข้อ 2 (1) เรื่อง การกำหนดราคา อัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ผลิตในราชอาณาจักรหรือนำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร ัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ส่งไปยังคลังก๊าซ ตามระยะเวลาที่จ่ายก๊าซออกจากคลัง4.2 แก้ไขประกาศ กบง. ข้อ 2 เรื่อง การกำหนดราคา อัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ผลิตในราชอาณาจักรหรือนำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร อัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ส่งไปยังคลังก๊าซ ดังนี้จากเดิม ข้อ 2 ให้กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชย ทั้งนี้ไม่รวมถึงก๊าซปิโตรเลียมเหลว ก๊าซโปรเปน และก๊าซบิวเทนที่ผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงหรือโรงแยกก๊าซธรรมชาติเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในโรงอุตสาหกรรมเคมีปิโตรเลียมดังต่อไปนี้ (1) กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน สำหรับก๊าซที่ผลิตในราชอาณาจักร ยกเว้นก๊าซที่ส่งไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดชลบุรี และก๊าซที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชรและโรงแยกก๊าซขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช กิโลกรัมละ ............. บาทแก้ไขเป็น ข้อ 2 ให้กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชย สำหรับก๊าซที่ผลิตในราชอาณาจักร ทั้งนี้ไม่รวมถึงก๊าซปิโตรเลียมเหลว ก๊าซโปรเปน และก๊าซบิวเทนที่ผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงหรือโรงแยกก๊าซธรรมชาติเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในโรงอุตสาหกรรมเคมีปิโตรเลียมดังต่อไปนี้ (1) กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนสำหรับก๊าซที่ผลิตในราชอาณาจักร ยกเว้นก๊าซที่ส่งไปยังคลังก๊าซที่จังหวัดชลบุรีและก๊าซที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชรและโรงแยกก๊าซขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช กิโลกรัมละ .......... บาท4.3 เพิ่มเติมประกาศ กบง. เรื่อง การกำหนดอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในราชอาณาจักร
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณอัตราเงินชดเชยก๊าซ LPG สำเร็จรูปจากการนำเข้า ดังนี้
โดยที่1) ราคาก๊าซ LPG สำเร็จรูปนำเข้า
CP = ราคาประกาศเปโตรมิน ณ ราสทานูรา ซาอุดิอาระเบียเป็นสัดส่วนระหว่างโพรเพนกับบิวเทน ณ เดือนที่มีการนำเข้าPremium = ค่าขนส่งและค่าธรรมเนียม ณ เดือนที่นำเข้าค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ได้แก่ - Insurance - Loss - Demurrage - Import duty - Surveyor / witness fee & Lab expenses - Management Fee - Depot Operating Expensesอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ขายให้ลูกค้าธนาคารทั่วไป ที่ประกาศโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย เฉลี่ยเดือนก่อนหน้าเดือนที่นำเข้า2) ราคาก๊าซ LPG ที่ทำในราชอาณาจักร คือ ราคาก๊าซ LPG ณ โรงกลั่น ที่ กบง. กำหนด3) อัตราเฉลี่ยเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน คือ อัตราเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันตามประกาศ กบง. ข้อ 2 (1) เรื่อง การกำหนดราคา อัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ผลิตในราชอาณาจักรหรือนำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร อัตราเงินส่งเข้ากองทุนและอัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ส่งไปยังคลังก๊าซ ตามระยะเวลาที่จ่ายก๊าซออกจากคลัง
2. มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ไปหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานให้มีความถูกต้อง และดำเนินการออกประกาศให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
เรื่อง ขอแก้ไขชื่อในหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ดังนี้
โดยที่X คือ ค่าเฉลี่ยร้อยละของไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน ตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงานP1 คือ ราคาอ้างอิงไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน ตามประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน (บาทต่อลิตร)P2 คือ ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ (บาทต่อลิตร) โดยคำนวณจากราคา MOPS GO 0.5% + พรีเมียม ที่ 60 0 F x อัตราแลกเปลี่ยน/158.984โดยที่- ราคา MOPS GO 0.5% คือ ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วซัลเฟอร์ 0.5% จาก Mean of Platt’s Singapore (เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล)- พรีเมียม คือ ค่าปรับคุณภาพน้ำมัน ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย และ ค่า Loss • ค่าปรับคุณภาพน้ำมัน 1.70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล • ค่าขนส่ง World Scale กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ (เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล) • ค่าประกันภัย ร้อยละ 0.084 ของ C&F • ค่า Loss ร้อยละ 0.5 ของ CIF- อัตราแลกเปลี่ยน อ้างอิงอัตราขายถัวเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทย(บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ)- Conversion factor 60 0 F / 86 0 F
โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 เพื่อให้หลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วสอดคล้องกับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงาน
2. เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 กบง. ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว โดย น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เท่ากับ (ราคา MOPS Gasoil 500 ppm + พรีเมียม) ที่ 600F x อัตราแลกเปลี่ยน/158.984 โดยที่ (1) ค่าพรีเมียม เท่ากับค่าปรับคุณภาพน้ำมัน 2.88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล + ค่าขนส่ง World Scale กรุงเทพฯ - สิงคโปร์ + ค่าประกันภัยร้อยละ 0.084 ของ C&F + ค่า Loss ร้อยละ 0.5 ของ CIF (2) อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงอัตราขายถัวเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ) และ (3) Conversion factor 600 F / 860 F ทั้งนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556
3. เนื่องจากหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ตามข้อ 1 และ 2 กำหนดคำว่า “น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว” เหมือนกัน แต่หลักเกณฑ์การคำนวณต่างกัน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนและถูกต้อง ฝ่ายเลขานุการฯ ขอเสนอแก้ไขหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ตามข้อ 2 ดังนี้ จากเดิม “ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เท่ากับ (ราคา MOPS Gasoil 500 ppm + พรีเมียม) ที่ 600F x อัตราแลกเปลี่ยน /158.984” แก้ไขเป็น “น้ำมันดีเซลหมุนเร็วอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ เท่ากับ (ราคา MOPS Gasoil 500 ppm + พรีเมียม) ที่ 600F x อัตราแลกเปลี่ยน /158.984”
4. ตามที่กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้ดำเนินการประกาศมาตรฐานคุณภาพของไบโอดีเซลและน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี7 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป ประกอบกับให้หลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วสอดคล้องกับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงาน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ดังนี้
โดยที่- ค่าพรีเมียม = ค่าปรับคุณภาพน้ำมัน 2.88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล + ค่าขนส่ง World Scale กรุงเทพฯ - สิงคโปร์ + ค่าประกันภัยร้อยละ 0.084 ของ C&F + ค่า Loss ร้อยละ 0.5 ของ CIF- อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงอัตราขายถัวเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ)- Conversion factor 600 F / 860 F
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้แก้ไขชื่อในหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เป็นดังนี้
โดยที่- P2 = น้ำมันดีเซลอ้างอิงตลาดสิงคโปร์- ค่าพรีเมียม = ค่าปรับคุณภาพน้ำมัน 2.88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล + ค่าขนส่ง World Scale กรุงเทพฯ - สิงคโปร์ + ค่าประกันภัยร้อยละ 0.084 ของ C&F + ค่า Loss ร้อยละ 0.5 ของ CIF- อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงอัตราขายถัวเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ)- Conversion factor 600 F / 860 F
เรื่อง สรุปผลการดำเนินโครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังในไตรมาสที่ 3/2556
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินการโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2555/56 กำหนดเป้าหมายการรับจำนำหัวมันสด 10 ล้านตัน และอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ครั้งที่ 16/2555 ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงพลังงานจัดทำแผนการใช้มันสำปะหลังในการผลิตเอทานอล โดยในปี 2556 กระทรวงพลังงานกำหนดเป้าหมายส่งเสริมให้ใช้เอทานอล 2 ล้านลิตรต่อวัน และขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันให้ใช้เอทานอลจากกากน้ำตาลและจากมันสำปะหลังในสัดส่วนร้อยละ 62 : 38 ดังนั้น โรงงานเอทานอลใช้วัตถุดิบมันสำปะหลังจะผลิตเอทานอลเฉลี่ย 0.76 ล้านลิตรต่อวัน หรือ 255.60 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นปริมาณการใช้หัวมันสด 1.6 ล้านตันต่อปี
2. เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเห็นชอบการปรับสูตรราคาเอทานอลตามสัดส่วนการใช้เอทานอลมันสำปะหลังที่เพิ่มขึ้น โดยกำหนดสูตรราคาเอทานอลตามสัดส่วนการใช้เอทานอลจากกากน้ำตาลต่อมันสำปะหลังเป็น 62 : 38 และมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ประสานกรมการค้าภายในเพื่อตรวจสอบผู้ผลิตเอทานอลที่ใช้มันสำปะหลังในโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง โดยผู้ผลิตเอทานอลจากมันเส้นให้ใช้มันเส้นจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) ผู้ผลิตเอทานอลจากมันสดให้เปิดจุดรับซื้อมันสดที่หน้าโรงงาน และผู้ผลิตเอทานอลจากน้ำอ้อยให้ถือว่าอยู่ในกลุ่มกากน้ำตาล พร้อมทั้งให้รวบรวมรายงานยอดการซื้อมันสำปะหลังของโรงงานเอทานอลรายเดือน และรายงานให้ กบง. ทราบเป็นรายไตรมาส โดยในไตรมาส 3/2556 มีการใช้เอทานอล 2.66 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 0.08 ล้านลิตรต่อวัน และสัดส่วนเอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลังอยู่ที่ร้อยละ 30 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 3 ส่งผลให้ปริมาณหัวมันสดอยู่ที่ 499,791 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 90,908 ตัน
3. ปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินโครงการฯ มีดังนี้ (1) บริษัท อี85 จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังหยุดการผลิตเอทานอลในเดือนกรกฎาคม 2556 เพื่อปรับปรุงระบบบ่อบำบัดตามคำสั่งของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี (2) คลังกลางมันเส้น อคส. ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานเอทานอล มีมันเส้นไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ผลิตเอทานอล ผู้ผลิตเอทานอลจำเป็นต้องรับมันเส้น อคส. ในพื้นที่หรือจังหวัดอื่น ทำให้มีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มมากขึ้น และ (3) ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 บางราย ไม่สามารถซื้อเอทานอลจากมันสำปะหลังได้ตามสัดส่วน กรมธุรกิจพลังงานได้แจ้งผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 เพื่อขอความร่วมมือให้รับซื้อเอทานอลตามสัดส่วนเอทานอลจากกากน้ำตาลต่อมันสำปะหลังที่ 62 : 38 และต่อมาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 กบง. ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณราคาเอทานอล โดยเป็นราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการซื้อขายจริง โดยมีผลตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 เพื่อให้สะท้อนต้นทุนราคาเอทานอลที่แท้จริงของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ