มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 12/2557 (ครั้งที่ 186)
วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.30 น.
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
2. แนวทางการปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคขนส่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายณรงค์ชัย อัครเศรณี กรรมการและเป็นประธานที่ประชุม
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายชวลิต พิชาลัย เป็นกรรมการและเลขานุการ
เรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. กบง. ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.70 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2557 อยู่ที่ 1.5235 บาทต่อลิตร
2. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 29 กันยายน 2557 เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 11 กันยายน 2557 พบว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง 1.80 1.56 และ 2.52 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 94.00 108.83 และ 108.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราวันที่ 29 กันยายน 2557 อยู่ที่ 32.4933 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลง 0.2062 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันของวันที่ 29 กันยายน 2557 อยู่ที่ 29.04 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 1.61 บาทต่อลิตร เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 11 กันยายน 2557 ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 อยู่ที่ 1.9123 บาทต่อลิตร ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าค่าการตลาดที่เหมาะสม
ดังนั้น เพื่อรักษาค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้นลิตรละ 0.40 บาทต่อลิตร ซึ่งผลจากการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว จะทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1.5123 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 21.44 ล้านบาท หรือ 643 ล้านบาทต่อเดือน จากมีรายรับ 2,841 ล้านบาทต่อเดือน เป็นมีรายรับ 3,484 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 28 กันยายน 2557 มีทรัพย์สินรวม 11,125 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 15,321 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นติดลบ 4,196 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จาก 1.70 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2.10 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป
เรื่อง แนวทางการปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคขนส่ง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ได้มีมติให้ปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคขนส่งเพิ่ม 0.62 บาทต่อกิโลกรัม จาก 21.38 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 22.00 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557
2. เพื่อให้เป็นไปตามมติ คสช. ตามข้อ 1 และราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคขนส่งสะท้อนต้นทุนการจัดหามากขึ้น ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับก๊าซ LPG ภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 0.5794 บาทต่อกิโลกรัม จาก 3.0374 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 3.6168 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป โดยผู้จำหน่ายเป็นจะผู้นำส่งเงินส่วนที่เพิ่มขึ้นเข้ากองทุนน้ำมันฯ ซึ่งการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับก๊าซ LPG ดังกล่าว จะทำให้มีภาษีของค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 0.0406 บาทต่อกิโลกรัม รวมเป็นราคาขายปลีกที่เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 0.62 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ราคาขายปลีก LPG ภาคขนส่ง อยู่ที่ 22.00 บาทต่อกิโลกรัม และทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเพิ่มขึ้นประมาณ 95 ล้านบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่งในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจเช็ค สต๊อกคงเหลือ เนื่องจากราคาขายปลีกที่เปลี่ยนแปลงมาจากการปรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งหากเกิดจากการปรับภาษีสรรพสามิตจำเป็นต้องเช็คสต๊อกคงเหลือ
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (2) สำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่จำหน่ายให้ภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 0.5794 บาทต่อกิโลกรัม จาก 3.0374 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 3.6168 บาท ต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
2. เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เรื่อง การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนสำหรับก๊าซที่จำหน่ายให้ภาคขนส่ง
เรื่อง แนวทางการปรับราคาก๊าซ NGV
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ได้มีมติให้ปรับโครงสร้างราคาก๊าซ NGV ดังนี้ เป้าหมายคือราคาขายปลีกเป็นไปตามกลไกตลาดที่ 16.00 บาทต่อกิโลกรัม โดย (1) ปรับราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล 10.50 บาทต่อกิโลกรัม ให้ปรับขึ้นราคาขายปลีก 1 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 11.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 และ (2) คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม
2. เพื่อให้เป็นไปตามมติ คสช. ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอแนวทางการปรับราคาขายปลีกก๊าซ NGV ดังนี้ (1) ปรับราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล 10.50 บาทต่อกิโลกรัม ให้ปรับขึ้นราคา ขายปลีก 1 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 11.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 (2) ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม
ซึ่งจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ดังกล่าว จะส่งผลให้ราคาพลังงานสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น และภาระการอุดหนุนราคาก๊าซ NGV จาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ลดลง โดยจะนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นไปขยายสถานีบริการ และร่วมลงทุนขยายท่อก๊าซ เพื่อให้การบริการทั่วถึงทุกภูมิภาค
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบแนวทางการปรับราคาขายปลีกก๊าซ NGV โดยให้ปรับราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลขึ้น 1.00 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมอยู่ที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ 11.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 และให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม
2. ขอความร่วมมือให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินการขยายสถานีบริการและร่วมลงทุน ขยายท่อส่งก๊าซ เพื่อให้การบริการทั่วถึงทุกภูมิภาค