รายงานผลการประชุม กบง. วันที่ 9 มกราคม 2560
รายงานผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 9 มกราคม 2560
วันนี้ (10 มกราคม 2560) นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน และนายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งมี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม กบง. ได้มีการพิจารณาวาระสำคัญ และรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานด้านพลังงาน ดังนี้
โครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนมกราคม 2560
• เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 กบง. ได้เห็นชอบแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG โดยให้ลดการควบคุมธุรกิจการผลิตและจัดหาลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้กระทบถึงราคาขาย จนนำไปสู่การเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG ทั้งระบบ โดยจะแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านก่อนจะเปิดเสรีทั้งระบบ: เปิดเสรีเฉพาะส่วนการนำเข้า แต่ยังคงควบคุมราคาโรงกลั่นน้ำมันและราคาโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โดยยกเลิกการชดเชยส่วนต่างราคาจากการนำเข้า รวมถึงยกเลิกระบบโควตาการนำเข้าของประเทศ และสามารถส่งออกเนื้อก๊าซ LPG ภายใต้การควบคุมของกรมธุรกิจพลังงาน และระยะที่ 2 เปิดเสรีทั้งระบบ: ยกเลิกการควบคุมราคาและปริมาณของทุกแหล่งผลิตและจัดหา เปิดเสรีการนำเข้าและส่งออกโดยสมบูรณ์ รวมถึงยกเลิกการประกาศราคาก๊าซ LPG ณ โรงกลั่นและราคาขายส่ง ณ คลังก๊าซ โดยจะเริ่มดำเนินการเมื่อตลาดมีความพร้อมด้านการแข่งขันที่เพียงพอทั้งในส่วนการผลิตและจัดหา ทั้งนี้ ให้เริ่มดำเนินการในระยะที่ 1 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เป็นต้นไป
• เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560 กบง. ได้ดำเนินการตามแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG ในระยะที่ 1 โดยได้พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดราคาก๊าซ LPG ณ โรงกลั่น ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นก๊าซ LPG ของประเทศ จากเดิมที่ใช้ราคาต้นทุนเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการผลิตและจัดหา (LPG Pool) มาเป็นอ้างอิงราคานำเข้า (Import Parity) ดังนี้
- โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงและโรงอะโรเมติก: ปรับหลักเกณฑ์การกำหนดราคาจาก CP-20 เหรียญสหรัฐฯ/ตันเป็น CP
- การนำเข้า: ปรับหลักเกณฑ์การกำหนดราคาจาก CP+85 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เป็นราคา CP+X (X คือ ค่าใช้จ่ายในการนำเข้า ซึ่งประกอบด้วย ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าการสูญเสีย และค่าใช้จ่ายในการนำเข้าอื่นๆ)
- โรงแยกก๊าซธรรมชาติ: ใช้หลักเกณฑ์ต้นทุนที่แท้จริง (Cost Plus) ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2559 – มกราคม 2560 ต้นทุนอยู่ที่ 13.2638 บาท/กก. ปรับตัวลดลง 0.1183 บาท/กก. จากเดิม 13.3821 บาท/กก. เนื่องมาจากราคา เนื้อก๊าซ และค่าเชื้อเพลิงในการผลิตที่ปรับตัวลดลง
- ปตท.สผ.สยาม: ใช้หลักเกณฑ์ต้นทุนที่แท้จริง (Cost Plus) ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2559 – มกราคม 2560) ต้นทุนคงที่ที่ 15.00 บาท/กก.
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก (CP) เดือนมกราคม 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 69 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน มาอยู่ที่ระดับ 465 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนธันวาคม 2559 อ่อนค่าลงจากเดือนก่อน 0.4769 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 35.9820 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่นที่อ้างอิงราคานำเข้า (Import Parity) ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นก๊าซ LPG ปรับเพิ่มขึ้น 4.6959 บาท/กก. จาก 13.6077 บาท/กก. เป็น 18.3036 บาท/กก. ดังนั้น เพื่อไม่ให้การผันผวนของราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก และการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG มีผลกระทบต่อราคาขายปลีกก๊าซ LPG ในประเทศ ที่ประชุม กบง. จึงเห็นควรให้คงราคาขายปลีกก๊าซ LPG เดือนมกราคม 2560 ไว้ที่ 20.29 บาท/กก. โดยปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ อีก 4.6959 บาท/กก. จากเดิมกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 0.2887 บาท/กก. เป็นกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 4.9846 บาท/กก. ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ทำให้กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG มีรายจ่ายประมาณ 440 ล้านบาท/เดือน โดยฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 8 มกราคม 2560 อยู่ที่ 41,069 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG อยู่ที่ 7,361 ล้านบาท และ 2) ในส่วนของบัญชีน้ำมันสำเร็จรูป อยู่ที่ 33,708 ล้านบาท
การส่งเสริมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง
• กบง. ได้พิจารณาทบทวนต้นทุนการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติกในปี 2559 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 14.55 บาท/ลิตร หรือเทียบเท่าราคาน้ำมันดิบดูไบที่ประมาณ 65 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ปรับเพิ่มขึ้น 0.05 บาทต่อลิตร จากสูตรเดิมที่กำหนดไว้ที่ 14.50 บาท/ลิตร แต่ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 2559 อยู่ที่ประมาณ 40 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน (9.00 บาท/ลิตร) ส่งผลทำให้การผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติกไม่สามารถแข่งขันกับราคาน้ำมันดิบดูไบได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติก และจูงใจให้ผู้ผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติกผลิตและจำหน่ายให้โรงกลั่น อีกทั้งเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ประชุม กบง. จึงได้เห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณอัตราเงินชดเชยให้แก่โรงกลั่นน้ำมันที่รับซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตได้จากการแปรรูปขยะพลาสติก ดังนี้
อัตราเงินชดเชย = 14.55 – ราคาน้ำมันดิบ |
โดยที่ - ราคาน้ำมันดิบ หมายถึง ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยเดือนก่อนหน้า (บาท/ลิตร) |
ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันดิบดูไบสูงกว่า 14.55 บาท/ลิตร จะไม่มีการชดเชยต้นทุนการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติก โดยให้ใช้หลักเกณฑ์การคำนวณใหม่ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เป็นต้นไป และให้มีการทบทวนต้นทุนฯ ทุกๆ 1 ปี
รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2558 – 2579 (Gas Plan 2015) ไตรมาสที่ 4 ปี 2559 และสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)
ที่ประชุม กบง. รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผน Gas Plan 2015 ไตรมาสที่ 4 ปี 2559 พบว่า อัตราการใช้ก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 11 เดือน (ณ เดือนพฤศจิกายน 2559) อยู่ที่ระดับ 4,745 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งใกล้เคียงกับแผนที่คาดการณ์ไว้เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4,789 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน สำหรับแนวทางในการบริหารจัดการสัมปทานที่จะสิ้นสุดอายุ ในปี 2565 - 2566 ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมและพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ของ สนช. ซึ่งขยายเวลาการดำเนินงานออกไปถึงสิ้นเดือนมกราคม 2560 โดยจะมีการแก้ไขหลักการในประเด็นของระบบ Service Contract จากระบบสัญญาจ้างสำรวจและผลิตเป็นสัญญาจ้างบริการ ส่วนการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่นั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมการด้านกฎหมาย และยกร่างกฎหมายลำดับรองที่จำเป็นให้เป็นไปอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ คาดว่าการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ได้ ภายหลังจากร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมและพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียมมีการประกาศใช้
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ยังได้รับทราบรายงานสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ดังนี้
• ประมาณการความต้องการใช้ LNG ของประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 จะอยู่ที่ปริมาณ 5 ล้านตันต่อปี ในปี 2561 อยู่ที่ปริมาณ 6.1 ล้านตัน/ปี ในปี 2564 อยู่ที่ปริมาณ 14.2 ล้านตัน/ปี และในปี 2568 อยู่ที่ปริมาณมากกว่า 20 ล้านตัน/ปี ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องจัดหา LNG ในสัญญาระยะยาวเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ
• ปตท. จึงได้มีแผนการจัดหา LNG ในปี 2560 ประกอบด้วย 1) สัญญาซื้อขาย LNG ระยะยาว (LNG SPA) กับบริษัท Qatargas ปริมาณ 2.0 ล้านตัน 2) สัญญา LNG SPA กับบริษัท Shell ปริมาณ 0.375 ล้านตัน 3) สัญญา LNG SPA กับบริษัท BP ปริมาณ 0.317 ล้านตัน 4) สัญญา LNG SPA บริษัท PETRONAS ปริมาณ 0.24-0.36 ล้านตัน และ 5) ตลาด Spot ปริมาณ 1.6-1.9 ล้านตัน ทั้งนี้ ในปี 2560 ประมาณการราคา LNG นำเข้าเฉลี่ยประมาณ 7.53 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู ซึ่งคิดเป็นประมาณการราคานำเข้าเฉลี่ยจากสัญญาระยะยาว เท่ากับ 7.77 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู และประมาณการราคานำเข้าเฉลี่ยจากสัญญา Spot เท่ากับ 7.00 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู แต่อย่างไรก็ตาม ราคา LNG ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี 2559 ได้มีการปรับตัวสูงขึ้น และคาดการณ์ว่าราคา LNG ในไตรมาสแรกของปี 2560 จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป
รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558–2579 (PDP 2015) ไตรมาสที่ 4 ปี 2559
ที่ประชุม กบง. รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผน PDP 2015 ไตรมาสที่ 4 ปี 2559 ดังนี้ - กำลังผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบ ณ ตุลาคม 2559 อยู่ที่ 3,852 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายตามแผนที่กำหนดไว้ที่ 4,073 เมกะวัตต์ และมีสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าในปี 2559 ในส่วนของก๊าซธรรมชาติ ประมาณ ร้อยละ 63.6 ในขณะที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย - โครงการระบบส่งไฟฟ้าเป็นไปตามแผนงาน แต่มีบางโครงการที่การดำเนินการล่าช้า เนื่องจากการคัดค้านของชุมชน และการขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น - การพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าของภาคใต้ มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 2 โครงการ คือ 1) โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้ เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ก่อสร้างสายส่ง 500 เควี วงจรคู่ จากจอมบึง - บางสะพาน 2 – สุราษฎร์ธานี 2 – ภูเก็ต 3 กำหนดแล้วเสร็จในปี 2562 และระยะที่ 2 ก่อสร้างสายส่ง 500 เควี วงจรคู่ จาก บางสะพาน 2- สุราษฎร์ธานี 2 กำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 และ 2) โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้าระยะที่ 12 ซึ่งมีโครงการย่อย คือ การก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า 230 เควี คลองแงะ – สตูล ซึ่งปัจจุบัน กฟผ. อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง