Super User
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 12-18 สิงหาคม 2556
รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 29 มกราคม 56
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 5-11 สิงหาคม 2556
กบง. ครั้งที่ 9 - วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 9/2558 (ครั้งที่ 9)
วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10.00 น.
1. โครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนตุลาคม 2558
2. แนวทางการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล
3. แผนการใช้จ่ายเงินบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปีงบประมาณ 2559
4. ขอเสนอแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธานที่ประชุม
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายทวารัฐ สูตะบุตร เป็นกรรมการและเลขานุการ
เรื่อง โครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนตุลาคม 2558
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 เห็นชอบการคำนวณราคา ณ โรงกลั่น ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นของก๊าซ LPG โดยใช้ต้นทุนจากแหล่งผลิตและแหล่งจัดหา (โรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงและโรงอะโรเมติก การนำเข้า และ ปตท.สผ.) เฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการผลิตและจัดหาเฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน โดยราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก (CP) เดือนตุลาคม 2558 อยู่ที่ 362 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ปรับตัวเพิ่มจากเดือนก่อน 35 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน และอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย เดือนกันยายน 2558 อยู่ที่ 36.1765 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนสิงหาคม 2558 ที่ 0.6021 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่น ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นของก๊าซ LPG (LPG Pool) ปรับเพิ่มขึ้น 0.8435 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 14.2619 บาทต่อกิโลกรัม (400.9046 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน) เป็น 15.1054 บาทต่อกิโลกรัม (417.5477 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน)
2. จากราคาก๊าซ LPG Pool ของเดือนตุลาคม 2558 ที่ปรับเพิ่มขึ้น 0.8435 บาทต่อกิโลกรัม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเสนอให้ปรับลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 0.8435 บาทต่อกิโลกรัม จาก 0.9262 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 0.0827 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาขายปลีกคงเดิมอยู่ที่ 22.29 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่าย 54 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ของก๊าซ LPG ณ วันที่ 27 กันยายน 2558 มีฐานะกองทุนสุทธิ 8,221 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนสำหรับก๊าซ LPG ที่ผลิตในราชอาณาจักรกิโลกรัมละ 0.0827 บาท โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
เรื่อง แนวทางการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล
สรุปสาระสำคัญ
จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 กับ น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 กับ น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ตามโครงสร้างราคา ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ใกล้เคียงกันมาก ทำให้ต้นทุนต่อค่าความร้อนของน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 แพงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ไม่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เพื่อส่งเสริมและเพิ่มแรงจูงใจในการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และ น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าควรเพิ่มส่วนต่างของราคาให้มากขึ้น ดังนี้ (1) เพิ่มส่วนต่างราคา ขายปลีกระหว่างน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 กับน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 จาก 1.82 บาทต่อลิตร เป็น 2.36 บาทต่อลิตร โดยการปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 เพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จากชดเชย 1.90 บาทต่อลิตร เป็น 2.40 บาทต่อลิตร และ (2) เพิ่มส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 กับน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 จาก 4.32 บาทต่อลิตร เป็น 6.46 บาทต่อลิตร โดยการเพิ่มอัตราเงินชดเชยแก๊สโซฮอล E85 เพิ่มขึ้น 2.00 บาทต่อลิตร จากชดเชย 7.23 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 9.23 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง มีสภาพคล่องลดลงประมาณ 114.38 ล้านบาทต่อเดือน (หรือ 3.81 ล้านบาทต่อวัน) จากมีรายจ่าย 62.25 ล้านบาทต่อเดือน (หรือ 2.07 ล้านบาทต่อวัน) เป็นมีรายจ่าย 176.62 ล้านบาทต่อเดือน (หรือ 5.89 ล้านบาทต่อวัน)
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้ดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
เรื่อง แผนการใช้จ่ายเงินบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปีงบประมาณ 2559
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2556 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้อนุมัติกรอบแผนการ ใช้จ่ายเงินงบบริหารกองทุนน้ำมันฯ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2557 – 2561) ของ 5 หน่วยงาน ได้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน (สป.พน.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) เป็นจำนวนเงินรวม 189,130,600 บาท และงบค่าใช้จ่ายอื่น จำนวนเงินปีละ 300,000,000 บาท เพื่อเป็นเงินสำรองกองกลาง โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (อบน.) บริหารจัดการงบประมาณตามกรอบแผนการใช้จ่ายเงินงบบริหารกองทุนน้ำมันฯ ระยะ 5 ปี และให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้จ่ายเงินกองทุนน้ำมันฯ
2. เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 กบง. ได้รับทราบผลการใช้จ่ายเงินกองทุนน้ำมันฯ ประจำปีงบประมาณ 2557 ดังนี้ (1) งบบริหาร มีผลการเบิกจ่ายเงินทั้งสิ้น 21,200,200 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 59.77 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติรวม 35,802,400 บาท และ (2) งบค่าใช้จ่ายอื่น มีผลการเบิกจ่ายเงินทั้งสิ้น 43,162,400 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29.18 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติรวม 147,908,900 บาท รวมทั้งอนุมัติแผนการใช้จ่ายเงินกองทุนน้ำมันฯ ปีงบประมาณ 2558 เป็นงบบริหารจำนวน 37,641,200 บาท และงบค่าใช้จ่ายอื่น จำนวน 300,000,000 บาท ทั้งนี้ ผลการใช้จ่ายเงินกองทุนน้ำมันฯ ประจำปีงบประมาณ 2558 มีดังนี้ (1) งบบริหาร มีผลการเบิกจ่ายเงิน 15,790,900 บาท คิดเป็นร้อยละ 41.95 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ (2) งบค่าใช้จ่ายอื่น อบน. ได้อนุมัติงบค่าใช้จ่ายอื่น จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 23,500,000 บาท มีผลการเบิกจ่ายจำนวน 2,680,000 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.40
3. เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 อบน. ได้อนุมัติแผนการใช้จ่ายเงินบริหารกองทุนน้ำมันฯ งบบริหาร ปีงบประมาณ 2559 ให้กับ 5 หน่วยงาน เป็นจำนวนเงิน 27,161,600 บาท ดังนี้ (1) สป.พน. 10,532,400 บาท (2) สนพ. 7,639,100 บาท (3) กรมสรรพสามิต 6,687,800 บาท (4) กรมศุลกากร 1,032,300 บาท และ (5) สบพน. 1,270,000 บาท โดยงบประมาณทุกหมวดรายจ่ายให้สามารถนำมาถัวจ่ายได้ทุกรายการ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 และได้อนุมัติงบค่าใช้จ่ายอื่น วงเงิน 300,000,000 บาท โดยในเบื้องต้นได้พิจารณาและอนุมัติให้ดำเนินงานโครงการจำนวน 3 โครงการ จำนวนเงินรวม 10,075,820 บาท ได้แก่ (1) โครงการศึกษาการปรับปรุงโครงสร้างราคา ณ โรงกลั่น น้ำมันเชื้อเพลิง (สนพ.) 6,875,820 บาท (2) โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลราคาพลังงานต่างประเทศ (สนพ.) 2,000,000 บาท และ (3) โครงการจัดจ้างที่ปรึกษาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) 1,200,000 บาท
มติของที่ประชุม
1. อนุมัติแผนการใช้จ่ายเงินบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปีงบประมาณ 2559 ดังนี้ (1) งบบริหาร ให้กับ 5 หน่วยงาน เป็นจำนวนเงินรวม 27,161,600 บาท โดยงบประมาณทุกหมวดรายจ่ายให้สามารถนำมาถัวจ่ายได้ทุกรายการ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 และ (2) งบค่าใช้จ่ายอื่น วงเงิน 300,000,000 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของการอนุมัติให้ดำเนินโครงการในปีงบประมาณ 2559 โดยคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภายใต้งบค่าใช้จ่ายอื่น มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ แจ้งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานเพื่อทราบเป็นระยะ
2. อนุมัติให้ดำเนินงานโครงการจำนวน 3 โครงการ จำนวนเงินรวม 10,075,820 บาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง งบค่าใช้จ่ายอื่น ปีงบประมาณ 2559 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เรื่อง ขอเสนอแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. สืบเนื่องมาจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ทำการศึกษาวิเคราะห์และจัดทำรายงานการปฏิรูป ในวาระที่ 10 : ระบบพลังงาน ได้เสนอประเด็นการปฏิรูป บทบาท หน้าที่ และการใช้ประโยชน์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยให้มีการตราพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้มีหลักการที่ชัดเจนเนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปัจจุบันจัดตั้งตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมา สปช. ได้ดำเนินการแล้ว จะมีหน่วยงานที่รับช่วงในการที่จะดำเนินการต่อ โดยทางสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (สบพน.) ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการที่จะรับแนวคิดเหล่านั้นให้มาเป็นการร่าง พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากนั้นทาง สบพน. ได้ประสานกับทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ว่าการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว ควรจะมีการจัดตั้งคณะทำงานหรือคณะอนุกรรมการฯ โดยตรงเป็นการเฉพาะเนื่องจากเห็นว่าจะมีประเด็นที่เกี่ยวกับคณะกรรมการบริหารนโยบาย (กบง.) โดยเฉพาะการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จึงเสนอให้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการหนึ่งชุดเพื่อดำเนินการ
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ขอเสนอร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) สำนักงานคณะกรรมการการกฤษฎีกา กรมสรรพสามิต กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมธุรกิจพลังงาน สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน กรมบัญชีกลาง กรมศุลกากร กรมการพลังงานทหาร และผู้ทรงคุณวุฒิ (นายเมตตา บันเทิงสุข) เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์พิจารณาร่าง พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันฯ ที่จะปรับปรุง ร่าง พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันฯ (ฉบับแรก) ที่มีการดำเนินการมาแล้ว เพื่อให้พร้อมที่จะมีการนำเสนอ ร่าง พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันฯ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการเสนอร่างคำสั่งให้ประธานกรรมการบริหารนโยบายพลังงานลงนามต่อไป