Super User
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 6 ตุลาคม 2554
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 3 พฤศจิกายน 2552
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 5 ตุลาคม 2554
ครั้งที่ 82 - วันศุกร์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 24/2554 (ครั้งที่ 82)
เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 15.30 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
รองปลัดกระทรวงพลังงาน (นายเมตตา บันเทิงสุข) รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงพลังงาน กรรมการ เป็นประธานในที่ประชุม
รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายชวลิต พิชาลัย) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในฐานะประธานกรรมการบริหารนโยบายพลังงานติดภารกิจเร่งด่วน ที่ประชุมฯ จึงได้มีมติเห็นชอบให้รองปลัดกระทรวงพลังงาน (นายเมตตา บันเทิงสุข) รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงพลังงาน ทำหน้าที่ประธานกรรมการในการประชุมครั้งนี้
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2554 มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 550 ล้านบาท
2. มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 เห็นชอบให้ปรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง 5.3050 บาทต่อลิตร จาก 5.3100 บาทต่อลิตร เป็น 0.0050 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูง โดย ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2554 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 111.34 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 124.25 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 130.45 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาปิดตลาดครึ่งวัน ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2554 ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับเพิ่มขึ้น 0.92 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 112.53 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 3.14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 133.59 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้น โดยที่ระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 29.99 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ ราคาปิดตลาดครึ่งวันของวันที่ 10 มิถุนายน 2554 อยู่ที่ 0.1429 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วันทำการ อยู่ที่ 0.8033 บาทต่อลิตร
4. เพื่อเป็นการลดต้นทุนราคาน้ำมัน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.30 บาทต่อลิตร จาก 1.40 บาทต่อลิตร เป็น 1.10 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 0.4429 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วันทำการ อยู่ที่ 0.9296 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลง 35 ล้านบาทต่อวัน จากเงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯ สุทธิ 29 ล้านบาทต่อวัน เป็นติดลบ 6 ล้านบาทต่อวัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.30 บาท ต่อลิตร จาก 1.40 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1.10 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2554 เป็นต้นไป
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 2 พฤศจิกายน 2552
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 30 ตุลาคม 2552
ครั้งที่ 81 - วันพุธ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 23/2554 (ครั้งที่ 81)
เมื่อวันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 16.00 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
ปลัดกระทรวงพลังงาน (นายณอคุณ สิทธิพงศ์) กรรมการ เป็นประธานในที่ประชุม
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
ปลัดกระทรวงพลังงาน (นายณอคุณ สิทธิพงศ์) ได้แจ้งให้ที่ประชุมฯ ทราบว่า เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในฐานะประธานกรรมการบริหารนโยบายพลังงานติดภารกิจเร่งด่วน จึงขอให้ที่ประชุมฯ แต่งตั้งกรรมการขึ้นทำหน้าที่ประธานกรรมการในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบให้ปลัดกระทรวงพลังงานทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2554 มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 550 ล้านบาท
2. มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 เห็นชอบให้ปรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง 5.3050 บาทต่อลิตร จาก 5.3100 บาทต่อลิตร เป็น 0.0050 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.40 บาทต่อลิตร จาก 2.20 บาทต่อลิตร เป็น 1.80 บาทต่อลิตร โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2554 ต่อมาสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูง โดย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2554 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 109.51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 123.31 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 128.02 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น ที่ระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 29.99 บาท ต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2554 อยู่ที่ 0.7291 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วัน อยู่ที่ 0.8230 บาทต่อลิตร
4. เพื่อเป็นการลดต้นทุนราคาน้ำมัน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 50 บาทต่อลิตร จาก 1.80 บาทต่อลิตร เป็น 1.30 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 1.2291 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วัน อยู่ที่ 0.9230 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลง 27 ล้านบาทต่อวัน จากเงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯ สุทธิ 51 ล้านบาทต่อวัน เป็น 24 ล้านบาทต่อวัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.40 บาทต่อลิตร จาก 1.80 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1.40 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2554 เป็นต้นไป