มติคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 2/2552 (ครั้งที่ 17)
วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เวลา 09.30 น.
ณ ห้องประชุม 603 ชั้น 6 อาคาร 7 กระทรวงพลังงาน
1. การปรับปรุงแก้ไขระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537
2. แนวทาง/หลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
3. การขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
4. โครงการวิจัยและสาธิตการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานอนุกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) อนุกรรมการและเลขานุการ
1. พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ได้กำหนด "ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งเรียกว่า 'กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน' ในกระทรวงพลังงาน เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายช่วยเหลือหรืออุดหนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน..." และมาตรา 24/1 กำหนด "ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และเงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในกระทรวงการคลัง ไปเป็นของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานตาม พ.ร.บ.นี้" และปลัดกระทรวงพลังงาน เห็นชอบและให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ดำเนินการรับโอนงานจากกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551
2. สนพ. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. ... เพื่อปรับปรุงระเบียบฯ ให้มีความถูกต้อง สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550
3. คณะทำงานฯ ได้มีการประชุมเพื่อปรับปรุงร่างระเบียบ โดยมีสาระสำคัญในการแก้ไขระเบียบ ดังนี้
3.1 เปลี่ยนชื่อหน่วยงานผู้ดำเนินการตามร่างระเบียบ ดังนี้
"สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ" เป็น "สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน"
"กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน" เป็น "กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน"
"กรมบัญชีกลาง" เป็น "สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน"
3.2 เพิ่มเติมคำนิยามในร่างระเบียบฯ ดังนี้
"คณะอนุกรรมการกองทุน" หมายความว่า คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานแต่งตั้งตามมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550
3.3 ให้ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานหรือผู้ที่ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจอนุมัติการจ่ายเงินกองทุนตามประมาณการรายจ่ายประจำปี และรายจ่ายตามโครงการที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ตามที่ผู้เบิกเงินกองทุนแจ้งมา
3.4 ปรับปรุงการใช้เงินทดรองจ่ายในส่วนของค่าบริหารงานกองทุนให้มีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น
ตามร่างระเบียบข้อ 15 ให้หน่วยงานที่ได้รับอนุมัติประมาณการรายจ่ายประจำปี มีเงินทดรองจ่ายในวงเงินตามที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ เพื่อใช้ทดรองจ่ายตามประมาณการรายจ่ายประจำปีได้ตามความจำเป็น
กรณีที่คณะกรรมการกองทุนยังมิได้มีมติอนุมัติประมาณการรายจ่ายประจำปี ให้นำเงินทดรองจ่ายไปจ่ายเป็นค่าบริหารงานกองทุนที่จำเป็นและเร่งด่วนตามกรอบประมาณการรายจ่ายประจำปีที่ผ่านมาได้ ไปพลางก่อนภายในวงเงินทดรองจ่ายที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ
3.5 กำหนดให้เพิ่มอำนาจคณะอนุกรรมการกองทุนไว้ในร่างระเบียบฯ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน และสอดคล้องตามมาตรา 34 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ดังนี้
(1) ด้านการรับเงินกองทุน
ตามร่างระเบียบข้อ 7 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดบัญชีเงินฝาก "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ประเภทเงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ หรือเงินฝากประจำกับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามที่คณะอนุกรรมการกองทุนเห็นสมควรและให้รายงานคณะกรรมการกองทุนรับทราบต่อไป
ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์อื่นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุน โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
(2) ด้านการเบิกจ่ายเงินกองทุน
ตามร่างระเบียบข้อ 18 กรณีผู้เบิกเงินกองทุนก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายประจำปี หรือรายจ่ายตามโครงการภายในปีงบประมาณแต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณนั้นๆ ให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นต่อไปได้ภายใน 3 เดือน นับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญาซึ่งนับรวมระยะเวลาตรวจรับงานไว้แล้ว หากไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันภายใน 3 เดือน ที่ได้ขยายเวลาการเบิกจ่ายแล้วให้เป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการกองทุนที่จะพิจารณาอนุมัติ
ตามร่างระเบียบข้อ 19 การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว โดยไม่เกินวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนจัดสรรให้จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะอนุกรรมการกองทุนก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
กรณีที่เปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่ต้องเพิ่มวงเงินให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกองทุน
(3) ด้านการเบิกจ่ายเงินกองทุนสำหรับผู้ได้รับจัดสรรเงินกองทุน
ตามร่างระเบียบข้อ 26 การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว โดยไม่เกินวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนจัดสรรให้จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะอนุกรรมการกองทุนก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
กรณีที่เปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่จะต้องเพิ่มวงเงิน ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกองทุน โดยให้ผู้ได้รับจัดสรรเงินกองทุนยื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการผ่านผู้เบิกเงินกองทุน
3.6 เพิ่มเติมรายละเอียดการดำเนินการด้านการบัญชี
ตามร่างระเบียบข้อ 30 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานจัดทำบัญชีกองทุนให้เป็นไปตามหลักการและนโยบายบัญชีสำหรับหน่วยงานภาครัฐ ตามที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนด
ตามร่างระเบียบข้อ 31 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานนำข้อมูลเกี่ยวกับการบัญชีของกองทุนเข้าระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ (GFMIS) ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด
ตามร่างระเบียบข้อ 33 ให้คณะกรรมการกองทุนโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน จัดทำงบการเงินเพื่อส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือบุคคลภายนอกซึ่งคณะกรรมการกองทุนแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีของกองทุน และให้ทำการตรวจสอบและรับรองบัญชีและการเงินทุกประเภทของกองทุนภายใน 90 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณทุกปี
ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้สอบบัญชีตามวรรคหนึ่ง จัดทำรายงานผลการสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุน เสนอต่อคณะกรรมการกองทุน ภายใน 150 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี เพื่อทราบ
รายงานผลการสอบบัญชีและการเงินตามวรรคสอง ให้รัฐมนตรีเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภา เพื่อทราบ และจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตามร่างระเบียบข้อ 34 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานจัดให้มีการตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี และการพัสดุของกองทุน และรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการทราบอย่างน้อยปีละครั้ง
มติที่ประชุม
เห็นชอบร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. ... ตามที่คณะทำงานเพื่อปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. ... ได้ปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 และให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
เรื่องที่ 2 แนวทาง/หลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
1. กระทรวงพลังงาน ในฐานะผู้เก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของ "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" จะพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้มีงบประมาณสำหรับการจัดทำโครงการเพื่อสนับสนุนแผนอนุรักษ์พลังงาน และดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน มาตรา 25 แห่ง "พรบ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" โดยจัดทำรายละเอียดเสนอคณะอนุกรรมการกองทุนฯ และคณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติตามลำดับ
2. สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองทุนฯ ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อเสนอโครงการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การผลิตและการใช้พลังงานทดแทน และจะรวบรวมและจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ เสนอคณะอนุกรรมการกองทุนฯ และคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาต่อไป
3. เพื่อให้การจัดสรรเงินกองทุนฯ เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอกรอบการพิจารณาโครงการฯ ตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ดังนี้
3.1 กำหนดแนวทาง/หลักเกณฑ์การวิเคราะห์ในการจัดทำลำดับความสำคัญของโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและการเงินของประเทศในปัจจุบัน ประกอบด้วย
(1) การจัดลำดับความสำคัญตามนโยบายและแผน โดยทำการพิจารณาถึงความสอดคล้องของโครงการกับภารกิจที่สำคัญ ดังนี้
- ภารกิจตามข้อกำหนดและ พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
- ภารกิจตามยุทธศาสตร์ระดับชาติ นโยบายรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน
- ภารกิจตามเจตนารมณ์ของกองทุนฯ ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และตามแผนและเป้าหมายอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2551-2554
- ภารกิจตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี (พ.ศ. 2551-2565)
(2) ระยะเวลาการเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยใช้เป็นเกณฑ์ในการแบ่งช่วงเวลาที่โครงการดังกล่าวสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงหรือขยายผลได้ในอนาคต โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะ "สั้น" (เกิดผลสัมฤทธิ์ได้ใน 1-2 ปี) ระยะ "กลาง" (เกิดผลสัมฤทธิ์ได้ใน 3-5 ปี) และ ระยะ "ยาว" (เกิดผลสัมฤทธิ์ต้องใช้เวลามากกว่า 5 ปี)
(3) ศักยภาพในการขยายผล โดยเน้นโครงการวิจัยและ/หรือดำเนินการแล้วสามารถที่จะนำไปปฏิบัติได้จริงหรือขยายผลได้จริง (Deployment Potential) โดยแบ่งตามศักยภาพการขยายผลเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีศักยภาพในการขยายผล "มาก" และกลุ่มที่มีศักยภาพในการขยายผล "น้อย"
(4) โครงการต่อเนื่อง โดยพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ถ้ามีความก้าวหน้าเกินกว่า ร้อยละ 50 ของแผนงาน และผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดี จึงจะได้รับงบประมาณสำหรับปีต่อไป
3.2 ให้มีคณะทำงานที่ทำหน้าที่ในการกลั่นกรองงบประมาณ และพิจารณาแผนการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ที่จะขอจัดสรรจากกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ 2553 และเมื่อพิจารณากลั่นกรองแล้ว ให้จัดทำความเห็นเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกองทุนฯ โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้
(1) รองปลัดกระทรวงพลังงาน (นายณอคุณ สิทธิพงศ์) ประธานคณะทำงาน
(2) ผู้แทนคณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน คณะทำงาน
(3) ผู้แทนสำนักงบประมาณ คณะทำงาน
(4) อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน คณะทำงาน
(5) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน คณะทำงาน
(6) ผู้อำนวยการสำนักนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน สนพ. คณะทำงานและเลขานุการ
(7) ผู้อำนวยการสำนักนโยบายยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน คณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ
มติที่ประชุม
เห็นชอบแนวทาง/หลักเกณฑ์การพิจารณากลั่นกรองโครงการฯ และการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 3 การขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ไปแล้ว ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการจากที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้พิจารณาและอนุมัติไว้ รวมจำนวน 32 โครงการ โดยตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินฯ ตามข้อ 1.3 (2) หมวด 3 ข้อ 24 กำหนดว่า การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้พิจารณาเหตุผลและรายละเอียดที่เจ้าของโครงการฯ ทั้ง 32 โครงการ ได้แจ้งขอเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยจำแนกเรื่องที่ขอเปลี่ยนแปลงออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
2.1 ขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เกิน 3 เดือน นับจากวันสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา จำนวน 9 โครงการ ดังนี้
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 4 โครงการ
(1) โครงการพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน (งานปรับปรุงห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์)
(2) โครงการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขนาดใหญ่ จ. ปัตตานี
(3) โครงการไฟฟ้าพลังน้ำระดับหมู่บ้านอย่างยั่งยืน (งานว่าจ้างปรับปรุงเครื่องกังหันน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ประกอบโครงการไฟฟ้าพลังน้ำระดับหมู่บ้าน โครงการดอยลาง)
(4) โครงการศึกษาการผลิตแก๊สชีวภาพจากกากมันสำปะหลัง
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน จำนวน 5 โครงการ
(1) โครงการให้คำปรึกษา ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของเครือข่ายสารสนเทศด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย (ระยะที่ 3)
(2) โครงการศึกษาอิทธิพลของตัวแปรที่มีผลต่อการนำแสงธรรมชาติทางด้านข้างมาใช้ในอาคาร
(3) โครงการใช้แสงธรรมชาติผ่านแผงควบคุมช่องเปิดด้านบน
(4) โครงการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะรูปทรงและวัสดุหลังคาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
(5) โครงการศึกษาและวิจัยรูปแบบเปลือกอาคารที่เหมาะสมกับการอนุรักษ์พลังงาน
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้กับ พพ. และ สนพ. ได้ส่งงาน/รายงานตามเวลาที่กำหนดไว้แล้ว แต่การตรวจรับงานของ พพ. และ สนพ. พบว่าผลงานยังไม่สมบูรณ์ตามข้อตกลง เช่น ขาดรายละเอียด ขาดข้อมูลหรือเอกสารอ้างอิง ขาดประเด็นสำคัญ ฯลฯ และให้คู่สัญญาหรือผู้ได้รับจัดสรรเงินนั้น ดำเนินการปรับปรุงรายงานสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลให้เลยกำหนดระยะเวลา 3 เดือน นับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญาหรือหนังสือยืนยันการรับทุน พพ. และ สนพ. จึงได้เสนอขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นๆ
การปฏิบัติข้างต้น เป็นการดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 16 ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายเงินกองทุนไว้ "ให้ผู้เบิกเงินกองทุนใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายประจำปีได้ ภายในวงเงินและปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ กรณีผู้เบิกเงินกองทุนก่อหนี้ผูกพันภายในปีงบประมาณแต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณนั้นๆ ให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นๆ ต่อไปได้ ภายในสามเดือนนับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา"
2.2 ขอขยายระยะเวลาโครงการ จำนวน 16 โครงการ
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้กับ พพ. และ สนพ. ดังนี้
โครงการ | หน่วยงาน | เดิม | ขยายถึง |
(1) โครงการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำระดับหมู่บ้านอย่างยั่งยืน | พพ. | กันยายน 2553 | ธันวาคม 2553 |
(2) โครงการติดตั้งกังหันลม ผลิตไฟฟ้าจ่ายขนานเข้าระบบจำหน่าย | กฟภ. | มีนาคม 2554 | ธันวาคม 2554 |
(3) โครงการสร้างองค์ความรู้ด้านพลังงานสำหรับโรงเรียนในเขตภาคเหนือตอนบน | มช. | กันยายน 2551 | พฤศจิกายน 2552 |
(4) โครงการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้และขยายเครือข่ายการสื่อสารด้านพลังงานในกลุ่มเยาวชนและครู ประจำปี 2551 | สป.พน. | ตุลาคม 2552 | ธันวาคม 2552 |
(5) โครงการจัดสัมมนา 6 ปี นโยบายพลังงานกับการพัฒนาประเทศ | สป.พน. | 26 พฤศจิกายน 2551 | 26 ธันวาคม 2552 |
(6) โครงการสร้างความเข้าใจนโยบาย E85 | สป.พน. | 26 มกราคม 2552 | 26 กันยายน 2552 |
(7) โครงการรณรงค์สร้างความเข้าใจในนโยบายการประหยัดพลังงาน | สป.พน. | 26 ตุลาคม 2552 | 26 กรกฎาคม 2553 |
(8) โครงการลดใช้พลังงานในภาครัฐในหน่วยงานภาครัฐขนาดเล็ก | สวภ. 12 | 30 กันยายน 2552 | 31 มกราคม 2553 |
(9) โครงการลดใช้พลังงานในภาครัฐในหน่วยงานภาครัฐขนาดเล็ก | สวภ. 6 | 30 กันยายน 2552 | 31 ธันวาคม 2552 |
(10) โครงการให้คำปรึกษา ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของเครือข่ายสารสนเทศด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย (ระยะที่ 3) | มจธ. | กันยายน 2551 | มิถุนายน 2552 |
(11) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาในประเทศ จำนวน 2 ทุน | สนพ. | - | - |
(12) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ จำนวน 3 ทุน | สนพ. | - | - |
(13) โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 10 ทุน | สนพ. | - | - |
(14) โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการปลูกไม้โตเร็วเพื่อเป็นพลังงานชีวมวล | มทส. | สิงหาคม 2550 | สิงหาคม 2552 |
(15) โครงการศึกษาแนวทางบริหารจัดการเชื้อเพลิงชีวมวลเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน (ระดับชุมชน) | มทส. | ธันวาคม 2551 | ธันวาคม 2552 |
(16) โครงการสนับสนุนการดำเนินงานของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กที่ใช้พลังงานหมุนเวียน | สนพ. | มิถุนายน 2552 | ธันวาคม 2554 |
แต่ละหน่วยงานได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น ต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูลสำหรับการทำวิทยานิพนธ์ การรอเวลาเพื่อนำผลงานวิจัยไปตีพิมพ์ทั้งในและต่างประเทศ การปรับรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่เป้าหมาย การทำงานวิจัยแล้วผลการทดลองมีความคลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จำเป็นต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ผลการทดลองเพิ่มเติม เป็นต้น
2.3 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จำนวน 3 โครงการ
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้แต่ละหน่วยงาน ได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดกิจกรรมย่อยให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน เป็นต้น
โครงการ | การขอเปลี่ยนแปลง |
(1) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 9 หน่วยงาน : สวภ.9 |
ขอปรับแผนการใช้เงินโครงการโดยนำงบประมาณส่วนที่เหลือจ่ายภายหลังการดำเนินโครงการแล้วไปจัดซื้อครุภัณฑ์พาหนะโดยสาร (ตู้) ขนาด 11 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซิน จำนวน 1 คัน เป็นเงิน 1,290,000 บาท |
(2) โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการใช้หัวเผาไหม้ประสิทธิภาพสูงในเตาเผาเซรามิก หน่วยงาน : มช. |
ขอปรับแผนในส่วนของจำนวนเทคโนโลยีที่ให้การสนับสนุนจากเดิม 3 เทคโนโลยี เป็น 5 เทคโนโลยี พร้อมทั้งขอเพิ่มขนาดของเตาที่จะให้การสนับสนุนจาก 5 ขนาดเป็น 8 ขนาด |
(3) โครงการจัดงานประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการ ภายใต้หัวข้อ "พลังงาน กู้วิกฤตไทย" หน่วยงาน : สป.พน. |
ขอปรับลดการจัดงานประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการ ภายใต้หัวข้อ "พลังงาน กู้วิกฤตไทย" จากเดิม 2 ครั้ง (กรุงเทพ 1 ครั้ง และ ต่างจังหวัด 1 ครั้ง) เป็นจัดงาน 1 ครั้ง ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2552 |
2.4 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ และขอขยายระยะเวลาดำเนินงาน จำนวน 4 โครงการ
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้แต่ละหน่วยงาน ได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดกิจกรรมย่อยให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน เป็นต้น พร้อมทั้งขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการด้วย
โครงการ | การขอเปลี่ยนแปลง |
(1) โครงการส่งเสริมการใช้หลอดผอมใหม่เบอร์ 5 หน่วยงาน : กฟผ. |
(1) ขอขยายระยะเวลาโครงการจากเดิม 5 ปี (60 เดือน) เป็น 6 ปี (72 เดือน) (2) ขอปรับเป้าหมายโครงการ จากเดิมที่มุ่งส่งเสริมภาคที่อยู่อาศัย ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นมุ่งเน้นเฉพาะภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยปรับเปลี่ยนเป้าหมายในรายละเอียด ดังนี้ (2.1) เดิมส่งเสริมการใช้หลอดผอมจำนวน 110 ล้านหลอด เป็น 83 ล้านหลอด (2.2) เดิมประหยัดพลังงานไฟฟ้า 4,790 ล้านหน่วย เป็น 4,842 ล้านหน่วย (2.3) เดิมลดความต้องการไฟฟ้าสูงสุด 1,039 เมกกะวัตต์ เป็น 1,141 เมกกะวัตต์ (3) ขอปรับรายการงบประมาณในส่วนของเงินให้เปล่า 1,400 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายและแผนการดำเนินการ ดังนี้ (3.1) ปรับลดงบประชาสัมพันธ์ฯ จากเดิม 750 ล้านบาท เป็น 150 ล้านบาท (3.2) กิจกรรมสาธิตการเปลี่ยนหลอด เพิ่มงบจาก 150 ล้านบาท เป็น 225 ล้านบาท (3.3) ปรับลดงบประมาณส่วนค่าภาษีอากรและค่าธรรมเนียม จาก 250 ล้านบาท เหลือ 150 ล้านบาท (3.4) ปรับลดค่าควบคุมงานและการกำจัดซาก จาก 250 ล้านบาท เหลือ 200 ล้านบาท โดยยกเลิกค่าควบคุมงาน เหลือเพียงค่ากำจัดซาก (3.5) เพิ่มรายการงบประมาณในส่วนของการสร้างแรงจูงใจด้วยค่า Rebate 675 ล้านบาท |
ขอปรับวิธีการดำเนินการใน 2 ส่วน คือ (4.1) เพิ่มการส่งเสริมเอกชนรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการไม่เกิน 1,000 หลอด ด้วยการให้เงินสนับสนุน (Rebate) 50 บาทต่อหลอด (4.2) ปรับเกณฑ์มาตรฐานหลอดเข้าร่วมโครงการได้จากเดิมเฉพาะหลอดที่ผ่านมาตรฐานเบอร์ 5 ปรับเพิ่มเป็น หลอดมาตรฐานทั่วไปขั้นต่ำสามารถเข้าร่วมได้ในระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นจะลดเหลือเฉพาะหลอดที่ผ่านมาตรฐานเบอร์ 5 |
|
(2) โครงการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านพลังงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุครบ 70 พรรษา หน่วยงาน : AIT |
(1) ขอปรับจำนวนทุน จากระดับปริญญาโทที่เหลือจำนวน 2 ทุน เป็นทุนระดับปริญญาเอก จำนวน 1 ทุน (2) ขอขยายเวลาการเปิดรับสมัคร จากเดิมสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2552 เป็นสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2552 (3) ขยายเวลาโครงการฯ จากเดิมสิ้นสุดเดือนกันยายน 2552 เป็นสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2555 เพื่อให้ครอบคลุมระยะเวลาการสำเร็จการศึกษาของหลักสูตรปริญญาเอก |
(3) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ จำนวน 3 ทุน หน่วยงาน : สนพ. |
(1) มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอขยายระยะเวลาการศึกษาให้แก่ นายสัทธา ปัญญาแก้ว ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่ 27 กันยายน 2552 ถึง 26 กันยายน 2553 พร้อมทั้งขออนุมัติเพิ่มวงเงินทุนการศึกษาในช่วงที่ขอขยายเวลา จำนวนเงิน 502,228 บาท (2) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขอขยายเวลาการศึกษาให้แก่ นายมานิตย์ ลีกิจวัฒนะ ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่ 30 กันยายน 2552 ถึง 29 กันยายน 2553 พร้อมทั้งขออนุมัติเพิ่มวงเงินทุนการศึกษาในช่วงที่ขอขยายเวลา จำนวนเงิน 1,530,260 บาท (3) มก. ขอขยายเวลาการศึกษาให้แก่ นางสาวพรพรรณ พรรณภัทราพงษ์ ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่ 22 กันยายน 2552 ถึง 21 กันยายน 2553 พร้อมทั้งขออนุมัติเพิ่มวงเงินทุนการศึกษาในช่วงที่ขอขยายเวลา จำนวนเงิน 1,561,755 บาท |
(4) โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 1 ทุน หน่วยงาน : สนพ. |
มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเปลี่ยนแปลงโครงการ "การผลิตก๊าซไฮโดรเจนทางชีวภาพจากน้ำเสียของกระบวนการผลิต อาหารและเครื่องดื่ม" ดังนี้
(1) ขอเปลี่ยนนักศึกษาผู้รับทุน จากนายชิษณุพงศ์ ประทุม เป็นนางสาวมรรษมน คำป้อง (2) ขอขยายเวลาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2553 |
ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียด และการขอขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ เห็นควรอนุมัติขยายเวลาการศึกษาให้แก่ผู้ได้รับทุนการศึกษาทั้ง 3 รายได้ ตามที่ขอมา โดยไม่ให้เบิกเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติไว้ เนื่องจากผู้รับทุนได้เบิกจ่ายทุนการศึกษาครบตามที่ กองทุนฯ ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแล้ว
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบให้โครงการตามข้อ 2.1 จำนวน 9 โครงการ ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ กรณีผู้เบิกเงินกองทุนฯ ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในสามเดือนนับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญาได้ ตามที่ขอมา
2. เห็นชอบให้โครงการตามข้อ 2.2 โครงการที่ 2-16 จำนวน 15 โครงการ ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการได้ ตามที่ขอมา
3. เห็นชอบให้โครงการตามข้อ 2.3 โครงการที่ 1-2 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการได้ตามที่ขอมา ส่วนโครงการที่ 3 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาได้ตามที่ขอมา และ เห็นควรให้ สป.พน. ดำเนินการตามแผนงานเดิม
4. เห็นชอบให้โครงการตามข้อ 2.4 โครงการที่ 2 และ 4 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการและขยายระยะเวลาดำเนินการได้ ตามที่ขอมา ส่วนโครงการที่ 1 เห็นชอบให้ กฟผ. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการและขยายระยะเวลาดำเนินการได้ โดยการเพิ่มหลอดมาตรฐานทั่วไปขั้นต่ำ ให้สามารถเข้าร่วมได้เฉพาะในส่วนเงินทุนหมุนเวียนในระยะเวลา 2 ปี สำหรับหลอดที่สนับสนุนในส่วนการสาธิตการใช้หลอดผอมใหม่ ให้กับหน่วยงานราชการ วัด มัสยิด และการส่งเสริมเอกชนรายย่อยด้วยการให้เงินสนับสนุน (Rebate) นั้น ให้เป็นหลอดที่ผ่านมาตรฐานหลอดผอมใหม่เบอร์ 5 สำหรับโครงการที่ 3 เห็นชอบให้ มศก. และ มก. ขยายระยะเวลาการศึกษาให้กับผู้รับทุนได้ ตามที่เสนอมา โดยไม่ให้เบิกเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติไว้ เนื่องจากผู้รับทุนได้เบิกจ่ายทุนการศึกษาครบตามที่ กองทุนฯ ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแล้ว
5. ให้ฝ่ายเลขานุการฯ เวียนเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาอนุมัติต่อไป
เรื่องที่ 4 โครงการวิจัยและสาธิตการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์
1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ได้ยื่นข้อเสนอ "โครงการวิจัยและสาธิตการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์" ไว้กับ สนพ. เพื่อขอสนับสนุนทุนดำเนินโครงการฯ จากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในวงเงิน 35,000,000 บาท ภายในระยะเวลา 23 เดือน โดยสรุปสาระสำคัญของโครงการฯ ได้ดังนี้
1.1 ปัจจุบันแนวท่อก๊าซธรรมชาติบนบกมีจำกัดอยู่เพียงในบางพื้นที่ จึงส่งผลให้การขยายสถานีบริการ NGV ให้มีทั่วประเทศตามแนวนโยบายของรัฐบาลนั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีต้นทุนในการขนส่ง NGV ไปยังพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลแนวท่อก๊าซค่อนข้างสูง ดังนั้น ปตท. จึงจะจัดทำโครงการวิจัยและสาธิตการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ขึ้น โดยมุ่งเน้นที่พื้นที่ห่างไกลจากแนวท่อก๊าซธรรมชาติ โดยนำร่องในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีต้นทุนสูงสุดถึง 17.45 บาท/กิโลกรัม
ทั้งนี้ ปตท. จะติดตั้งระบบสาธิตการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพและผลิต CBG สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกในรถยนต์ และรับซื้อก๊าซชีวภาพที่ผลิตจากระบบบำบัดน้ำเสียโรงงงานแป้งมันสำปะหลังในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี คาดว่าจะสามารถลดต้นทุน NGV ลงเหลือ 16.64 บาท/กิโลกรัม ในกรณีที่ไม่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนฯ และ 14.58 บาท/กิโลกรัม ในกรณีที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนฯ โดย ปตท. จะทำการทดสอบและเก็บข้อมูลการใช้ CBG ในรถยนต์จริง พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลทางด้านเศรษฐศาสตร์ ก่อนขยายผลไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพอื่นๆ ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชุมพร กระบี่ เป็นต้น
1.2 วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาวิจัยและสาธิตการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพและผลิตก๊าซชีวภาพอัด (Compressed Bio-methane Gas: CBG) สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกในรถยนต์ เป็นการนำร่องในการขยายการใช้ CBG สำหรับพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติและมีต้นทุนการดำเนินงานลดลง ผลิต CBG ได้ประมาณ 5-8 ตันต่อวัน
1.3 งบประมาณ ปตท. ขอรับการสนับสนุน 35,000,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 42 ของมูลค่าการลงทุนรวมโครงการทั้งสิ้น 83,000,000 บาท ซึ่งประกอบด้วย
หน่วยปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพ 68,000,000 บาท
หน่วยอัดความดันก๊าซ 15,000,000 บาท
ทั้งนี้ ปตท. จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและบำรุงรักษาหน่วยปรับปรุงและสถานีเพิ่มความดันก๊าซชีวภาพ ต่อเนื่อง 15 ปี
1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ (1) เมื่อสามารถผลิต CBG เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน NGV จำนวน 2.64 ล้านกิโลกรัมต่อปี ทดแทนการใช้น้ำมันดีเซลได้ 2.58 ล้านลิตรต่อปี (2) กระตุ้นและดึงดูดให้เอกชนสนใจลงทุนผลิต CBG มากขึ้น ส่งผลให้ขยายการพัฒนาการใช้ NGV ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากแนวท่อส่งก๊าซ ต่อไป
2. สนพ. ได้แต่งตั้งคณะผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อร่วมวิเคราะห์ประเมินคุณภาพของข้อเสนอ รวมถึงการให้ข้อแนะนำกับเจ้าของโครงการฯ เพื่อทำให้แผนงานและผลที่คาดว่าจะได้รับมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบด้วย
(1) รศ.ดร.สุวิทย์ เตีย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
(2) รศ.ดร.อนุชา พรหมวังขวา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
(3) นายรังสรรค์ สโรวิกสิต กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
3. ผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นว่า วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายการขยายสถานีบริการ NGV ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้พลังงานทางเลือกของประชาชนและการส่งเสริมการใช้ก๊าซชีวภาพในการคมนาคม จึงเห็นควรที่กองทุนฯ จะสนับสนุนให้ดำเนินการ และควรให้ ปตท. ดำเนินการปรับปรุงข้อเสนอตามข้อสังเกตของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ดังนี้
(1) เพิ่มเติมตัวชี้วัดที่บ่งชี้ผลการทำงานของชุดอุปกรณ์/เครื่องจักร ในเชิงปริมาณและคุณภาพ ที่สอดคล้องกับความสำเร็จของการดำเนินการของโครงการ
(2) เพิ่มเติมรายละเอียดทางด้านเทคนิคของแต่ละเทคโนโลยีในการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพ รวมทั้งการเปรียบเทียบเทคโนโลยีต่างๆ ข้อดี/ข้อเสีย ประสิทธิภาพ สมรรถนะ และค่าใช้จ่ายในระยะสั้นและระยะยาว
(3) เพิ่มแผนประชาสัมพันธ์ในแผนดำเนินการของโครงการ โดยมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไปยังนักวิชาการ ผู้สนใจ และกลุ่มเป้าหมายที่จะใช้ CBG และให้ทราบถึงความเหมือนและความแตกต่างเปรียบเทียบกับ CNG
(4) ระบุรายละเอียดคุณลักษณะ (Specification) ของหน่วยปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพ และใบเสนอ ราคาจากผู้ผลิต
(5) ปรับงวดการเบิกจ่ายให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงาน
(6) เพิ่มเติมการมีส่วนร่วมของหน่วยงานวิจัยของ ปตท. ในผังองค์กรและการบริหาร เพื่อร่วมเรียนรู้เทคโนโลยีการปรับปรุงก๊าซชีวภาพ เพื่อพัฒนาไปสู่การผลิตได้เองในประเทศ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและทำให้การผลิต CBG มีความคุ้มค่ามากขึ้นในอนาคต
(7) วิเคราะห์และเสนอแนวทางการบริหารความเสี่ยงในการตกลงซื้อขายก๊าซชีวภาพ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของโครงการ โดยคำนึงถึงปัจจัยภายนอก เช่น ผลกระทบจากราคาขายปลีกน้ำมันปิโตรเลียม เป็นต้น
4. ปตท. ได้ดำเนินการปรับปรุงข้อเสนอโครงการฯ ตามข้อสังเกตของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ และ สนพ. ได้นำเสนอคณะผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาเห็นชอบแล้ว
มติที่ประชุม
เห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนฯ แผนพลังงานทดแทน โครงการสนับสนุนการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ปีงบประมาณ 2552 ให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในวงเงิน 35,000,000 บาท (สามสิบห้าล้านบาทถ้วน) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายใน "โครงการวิจัยและสาธิตการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์"