มติการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 8/2559 (ครั้งที่ 20)
เมื่อวันพุธที่ 30 มีนาคม 2559
1. รายงานความคืบหน้าโครงการเพิ่มขีดความสามารถการนำเข้า การจ่าย และระบบขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)
2. สถานภาพการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
3. ความก้าวหน้า Roadmap การเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG
4. ความก้าวหน้าการรับฟังข้อคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ....
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ
(พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์)
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
(นายทวารัฐ สูตะบุตร)
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 เรื่องการเพิ่มขีดความสามารถการนำเข้า การจ่าย และระบบขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยการดำเนินการระยะยาวได้มอบหมายให้ ปตท. เร่งดำเนินการ ดังนี้ (1) ขยายระบบคลังและท่าเรือนำเข้าเขาบ่อยา ให้มีกำลังนำเข้าสูงสุด 250,000 ตันต่อเดือน และก่อสร้างคลังและท่าเรือนำเข้าแห่งใหม่ มีกำลังนำเข้าสูงสุด 250,000 ตันต่อเดือน (2) ขยายระบบคลังจ่ายก๊าซ บ้านโรงโป๊ะ โดยการขยายกำลังการจ่ายทั้งทางรถยนต์และรถไฟ ซึ่งจะทำให้สามารถจ่าย LPG ได้ 276,000 ตันต่อเดือน (3) ขยายระบบคลังภูมิภาค ได้แก่ คลังก๊าซบางจาก คลังก๊าซขอนแก่น คลังก๊าซนครสวรรค์ คลังก๊าซสุราษฏร์ธานี และคลังก๊าซสงขลา (4) ขยายระบบขนส่งก๊าซ LPG จากโรงแยกก๊าซฯ ไปคลังจ่ายก๊าซบ้านโรงโป๊ะและคลังก๊าซเขาบ่อยา
2. เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ครม. มีมติเห็นชอบตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2555 เรื่อง หลักเกณฑ์การคำนวณผลตอบแทนการลงทุน LPG Facility และมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราผลตอบแทนการลงทุน LPG Facility รวมทั้งวิธีการจ่ายผลตอบแทนการลงทุน โดยมีกรอบวงเงินการลงทุนเพื่อใช้ในการดำเนินการรวมทั้งสิ้น 48,599 ล้านบาท และแบ่งการลงทุนเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 ลงทุน 20,954 ล้านบาท และระยะที่ 2 ลงทุน 27,645 ล้านบาท
3. ความคืบหน้าในการก่อสร้าง ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ร้อยละ 98.89 และพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนเมษายน 2559 โดยมีรายละเอียดของส่วนการขยายคลังก๊าซ ดังนี้ (1) งานขยายคลังก๊าซเขาบ่อยาและท่าเรือ ประกอบด้วย การก่อสร้างท่าเรือ สำหรับการรับก๊าซเพิ่ม 1 ท่า และสำหรับจ่ายก๊าซเพิ่ม
1 ท่า การก่อสร้างถังเก็บก๊าซทรงกลม ขนาด 2,000 ตันเพิ่ม 2 ถัง การก่อสร้างถังเย็นเก็บก๊าซขนาด 25,000 ตันเพิ่ม
2 ถัง การติดตั้งระบบท่อ อุปกรณ์รับก๊าซโปรเพน บิวเทน LPG การติดตั้งเครื่องสูบก๊าซโปรเพนและบิวเทน การติดตั้งชุด BOG compressor และ TR compressor และการติดตั้งเครื่องสูบก๊าซ LPG จากคลังก๊าซเขาบ่อยาไปคลังก๊าซ
บ้านโรงโป๊ะ (2) งานขยายคลังก๊าซบ้านโรงโป๊ะ เป็นการปรับปรุงระบบขนส่งทางรถไฟและจัดซื้อตู้รถไฟ (3) งานขยายคลังก๊าซภูมิภาค ประกอบด้วย คลังปิโตรเลียมขอนแก่น เพิ่มถังเก็บก๊าซทรงกลมขนาด 3,000 ตัน 1 ถัง และขยายลานบรรจุก๊าซเพิ่ม 4 ช่องจ่าย คลังปิโตรเลียมขอนแก่นขยายสะพานชั่งเพิ่ม 1 เครื่อง คลังปิโตรเลียมนครสวรรค์ ขยายลานบรรจุก๊าซเพิ่ม 2 ช่องจ่าย และขยายสะพานชั่งเพิ่ม 1 เครื่อง คลังปิโตรเลียมสุราษฎร์ธานี เพิ่มถังเก็บก๊าซทรงกลมขนาด 3,000 ตัน 1 ถัง และขนาด 1,000 ตัน 1 ถัง และขยายสะพานชั่งเพิ่ม 1 เครื่อง และคลังปิโตรเลียมสงขลา เพิ่มถังเก็บก๊าซทรงกลมขนาด 2,000 ตัน 1 ถัง ขยายลานบรรจุก๊าซเพิ่ม 1 ช่องจ่าย ขยายสะพานชั่งเพิ่ม 1 เครื่อง และติดตั้ง Marine Loading Arm เพิ่ม 1 ชุด
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ
เรื่องที่ 2 สถานภาพการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
สรุปสาระสำคัญ
1. ปัจจุบันประเทศไทยมีความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้านใน 2 รูปแบบ ได้แก่
(1) การซื้อขายไฟฟ้าจากโครงการที่พัฒนาขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าผ่านสายส่งเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เพื่อร่วมมือในการพัฒนาด้านพลังงานไฟฟ้ากับประเทศนั้นๆ และขายไฟฟ้าให้กับประเทศไทย ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) 7,000 เมกะวัตต์ สาธารณรัฐประชาชนจีน 3,000 เมกะวัตต์ และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และราชอาณาจักรกัมพูชา ไม่ระบุปริมาณรับซื้อไฟฟ้า และ (2) การแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าระหว่างประเทศผ่านการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้ากำลังระหว่างสองประเทศ (Grid to Grid) ปัจจุบันมีการแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.) ซึ่งเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าแบบ Non-Firm นอกจากนี้ยังมีการขายพลังงานไฟฟ้าระหว่าง กฟผ. และการไฟฟ้ากัมพูชาเป็นปริมาณมากผ่านการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า จากสถานีไฟฟ้าแรงสูงวัฒนานครของ กฟผ. เข้าไปยังเมืองบันเตียนเมียนเจย (ศรีโสภณ) พระตะบอง และเสียมราฐ
2. สถานภาพการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านในปัจจุบัน สรุปได้ดังนี้ (1) การซื้อขายไฟฟ้าฯ ปัจจุบัน กฟผ. ได้มีการตกลงซื้อขายไฟฟ้ากับผู้พัฒนาโครงการ กำลังผลิตรวม 5,421 เมกะวัตต์ และ (2) การแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าฯ ปัจจุบัน กฟผ. ได้มีการแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ทั้งสิ้นจำนวน 5 จุด และ กฟภ.
มีจำนวนจุดซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศ ทั้งสิ้น 21 จุด (3) โครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาการรับซื้อไฟฟ้า
ซึ่งคณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านได้มอบหมายให้ กฟผ. ไปดำเนินการเจรจาในรายละเอียดกับผู้พัฒนาโครงการ และให้นำผลการเจรจามารายงานและเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป และ (4) โครงการที่มีศักยภาพ มีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน ดังนี้ (1) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้แก่ โครงการเซนาคาม โครงการเซกอง 4 โครงการเซกอง 5 และโครงการน้ำกง 1 กำลังผลิต 660 240 330 และ 75เมกะวัตต์ ตามลำดับ (2) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้แก่ โครงการมายตง โครงการมายกก โครงการเชียงตุง โครงการทะนินทะยี และโครงการมะริด กำลังผลิต 6,300 390 200-600 600 และ 1,200-2,000 เมกะวัตต์ ตามลำดับ และ
(3) ราชอาณาจักรกัมพูชา ได้แก่ โครงการสตึงมนัม กำลังผลิต 94 เมกะวัตต์
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ
เรื่องที่ 3 ความก้าวหน้า Roadmap การเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2559 กบง. ได้เห็นชอบในหลักการ เรื่อง Roadmap การดำเนินการเพื่อเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG โดยมีแผนยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมการแข่งขันให้มีผู้นำเข้ามากกว่าหนึ่งราย มีขั้นตอนการดำเนินการเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ยกเลิกมาตรการต่างๆ ที่ไม่เอื้อต่อการให้ผู้ค้าก๊าซ LPG รายอื่นนำเข้าระยะที่ 2 เปิดส่วนแบ่งปริมาณนำเข้าให้ผู้ประกอบการรายอื่น (นอกเหนือจาก ปตท.) ด้วยระบบโควต้า โดยใช้ราคานำเข้าที่ CP+85 เหรียญสหรัฐต่อตันระยะที่ 3 เปิดส่วนแบ่งปริมาณนำเข้าให้ผู้ประกอบการรายอื่น (นอกเหนือจาก ปตท.) ด้วยระบบโควต้า โดยใช้ราคานำเข้าที่ CP+X เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่ง X เป็นสูตรคงที่อ้างอิงกับดัชนีที่เหมาะสม สะท้อนต้นทุนการขนส่งและจัดหาซึ่งปรับตามตลาดโลกระยะที่ 4 เปิดการประมูลการนำเข้าก๊าซ LPG เมื่อมีผู้ค้ามาตรา 7 สามารถนำเข้าได้มากกว่าหนึ่งราย และประสงค์จะนำเข้ามากกว่าปริมาณนำเข้าที่ประเทศต้องการ
2. ดำเนินการยกเลิกการชดเชยค่าขนส่งแล้วเสร็จ ตามมติ กบง. เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 เรื่อง โครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนกุมภาพันธ์ 2559 และการดำเนินการตาม Roadmap ในขั้นที่ 2 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ (1) ยกเลิกการชดเชยค่าขนส่งทุกคลังทั่วประเทศ (2) ยกเลิกประกาศ กบง. ฉบับที่ 54 พ.ศ. 2546 ฉบับที่ 20 พ.ศ. 2551 และฉบับที่ 91 พ.ศ. 2551 (3) กำหนดบัญชีค่าขนส่งก๊าซ LPG ไปยังคลังต่างๆ เพื่อใช้ประกอบการกำกับดูแลราคา ณ คลังภูมิภาค สำหรับให้กระทรวงพาณิชย์ใช้เป็นข้อมูลควบคุมราคาขายปลีกก๊าซ LPG
3. เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2558 บริษัท พี เอ พี แก๊สแอนด์ออยล์ จำกัด ได้จัดทำหนังสือถึงกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เพื่อขอนำเข้าก๊าซ LPG มาจำหน่ายในประเทศปริมาณ 2,000 ตันต่อเดือน ตลอดปี 2559 ต่อมา
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2559 ธพ. แจ้งให้นำเข้าก๊าซ LPG ได้ในปริมาณ 2,000 ตันต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน
โดยเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 แต่ทั้งนี้ บริษัท พี เอ พี แก๊สแอนด์ออยล์ จำกัด ไม่สามารถดำเนินการนำเข้า
ตามแผนที่วางไว้ได้
4. เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2559 บริษัทสยามแก๊สฯ แอนด์ ปิโตรเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อขอนำเข้าก๊าซ LPG เป็นเวลา 3 เดือน โดยในแต่ละเดือนประสงค์จะนำเข้ามาในปริมาณเที่ยวละ 22,000 ตันจำนวนสองเที่ยว โดยจะเริ่มนำเข้าในเดือนพฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป แต่ ธพ. ได้พิจารณาแล้วเห็นควรให้ชะลอคำขอการนำเข้าออกไปก่อน เนื่องจากต้องรอการพิจารณาอัตราค่าบริการและกฎระเบียบการใช้คลังก๊าซนำเข้าเขาบ่อยาที่เหมาะสม นอกจากนั้น ธพ. ได้มอบหมายให้ ปตท. นำเข้าก๊าซ LPG ในปี 2559 โดย ปตท. ได้ทำสัญญาระยะยาวในการซื้อก๊าซ LPG ก่อนที่ กบง. จะมีมติเห็นชอบเปิดเสรีให้มีการนำเข้ามากกว่าหนึ่งราย รวมถึงความต้องการใช้ก๊าซ LPG ของประเทศที่ลดลง ส่งผลให้ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2559 นี้ เหลือปริมาณการนำเข้าที่สามารถนำมาประมูลได้ไม่เกินสองลำเรือขนาดลำละ 44,000 ตัน
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ
เรื่องที่ 4 ความก้าวหน้าการรับฟังข้อคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ....
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 กบง. ได้ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้มีการศึกษาแนวทางในการปฏิรูปบทบาท หน้าที่ และการใช้ประโยชน์ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และการยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการประชุม
เพื่อร่วมพิจารณายกร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... จำนวน 4 ครั้ง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 -กุมภาพันธ์ 2559 ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559 กบง. ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฯ โดยให้นำข้อสังเกตุของ กบง. ไปปรับปรุงให้เรียบร้อยก่อนและให้นำเสนอ กพช. เพื่อพิจารณา ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2559 กพช. ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฯ และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 ต่อไป
2. เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2559 สนพ. ได้ดำเนินการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติฯ โดยได้เชิญหน่วยงานจากภาครัฐ ผู้ประกอบการ นักวิชาการ สถาบันการศึกษา และองค์กรเอกชน ที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมสัมมนารับฟังความคิดเห็น โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมการสัมมนาจำนวนประมาณ 130 คน นอกจากนี้ สนพ. ยังได้นำร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว เผยแพร่ทางเว็บไซด์ของ สนพ. ตั้งแต่วันทื่ 14 มีนาคม 2559 – 28 มีนาคม 2559 และจัดพิมพ์เผยแพร่ให้แก่ผู้สนใจทั่วไป รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็น เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติฯ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรต่างๆ ได้นำเสนอความเห็นเพิ่มเติม ได้แก่ สภาอุตสาหกรรม กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน สำนักงานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ
3. จากการเปิดรับฟังความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติฯ จากช่องทางต่างๆ สามารถสรุปประเด็นหลักๆ ได้ ดังนี้ (1) ควรเพิ่มหลักการและเหตุผลให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ (2) ควรเพิ่มนิยามคำว่า วิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิง ให้ชัดเจน (3) ในวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ และโครงสร้างพื้นฐานมีทั้งส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยผู้ที่ไม่เห็นด้วยขอให้ดำเนินการโดยใช้งบประมาณแผ่นดิน (4) ในนิยามคำว่าโรงกลั่นน้ำมัน ไม่ควรรวมโรงอะโรเมติก และโรงอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและสารละลาย มีทั้งส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยผู้ที่ไม่เห็นด้วย เห็นว่าจะทำให้เกิดการเพิ่มต้นทุนและลดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบริษัทปิโตรเคมีขนาดกลาง (5) การเรียกเก็บเงินเข้ากองทุน หรือการจ่ายชดเชย ควรดำเนินการเฉพาะน้ำมันที่จำหน่ายเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น ไม่ควรรวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้เองในขบวนการผลิต และที่ใช้เป็นวัตถุดิบ เนื่องจากอยู่ในกระบวนการผลิต และ (6) กองทุนควรมีมาตรการป้องกันการแทรกแซงจากภาคการเมือง
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ