มติคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 2/2553 (ครั้งที่ 19)
วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13.30 น.
ณ ห้องประชุมบุญรอด-นิธิพัฒน์ ชั้น 11 อาคาร 7 กระทรวงพลังงาน
1. คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
2. รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว
3. โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
4. เกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2553
นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานอนุกรรมการ
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน อนุกรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการกองทุนฯ ได้ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่ 1/2553 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 และฝ่ายเลขานุการฯ ได้มีหนังสือแจ้งอนุกรรมการทุกท่าน ทราบแล้ว โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
องค์ประกอบ คณะอนุกรรมการกองทุนฯ
(1) | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน | ประธานอนุกรรมการ |
(2) | ปลัดกระทรวงพลังงาน | อนุกรรมการ |
(3) | รองปลัดกระทรวงพลังงาน ที่ได้รับมอบอำนาจให้สั่งการงานในราชการของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน | อนุกรรมการ |
(4) |
อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน |
อนุกรรมการ |
(5) |
ผู้แทนกรมบัญชีกลาง |
อนุกรรมการ |
(6) |
ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย |
อนุกรรมการ |
(7) |
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ |
อนุกรรมการ |
(8) |
นายสวัสดิ์ ตันตระรัตน์ |
อนุกรรมการ |
(9) | ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน | อนุกรรมการและเลขานุการ |
อำนาจและหน้าที่คณะอนุกรรมการกองทุนฯ
(1) เสนอเป้าหมาย แผนอนุรักษ์พลังงาน และแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ แต่ละปี ภายใต้กรอบแผนงานที่คณะกรรมการกองทุนฯ กำหนด พร้อมทั้งจัดทำแนวทางการจัดสรรเงินกองทุนฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณา เพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535
(2) พิจารณา กำหนดระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการขอจัดสรร ขอเงินช่วยเหลือ หรือขอเงินอุดหนุนจากกองทุนฯ และเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณา
(3) พิจารณากลั่นกรองและเสนอความเห็นเกี่ยวกับ แผน/งาน/โครงการ ต่อคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติให้แก่ผู้ขอรับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ที่เสนอขอรับการสนับสนุน ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 25 หรือมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ จะต้องสอดคล้องตามแผนอนุรักษ์พลังงาน และแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว
(4) พิจารณาเห็นชอบ/อนุมัติ แผน/งาน/โครงการและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ หรือผู้รับทุนเสนอขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ และขยายระยะเวลาโครงการที่แตกต่างไปจากเดิมที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบ/อนุมัติไว้ ได้เท่าที่ไม่เกินจากวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนฯ จัดสรรให้
(5) กำกับ ดูแล การใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ให้เป็นไปตามแผนอนุรักษ์พลังงาน และแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว
(6) เชิญผู้แทนของส่วนราชการตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง คำอธิบาย คำแนะนำ หรือจัดส่งเอกสารตามที่เห็นสมควร
(7) รายงานผลการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานในแต่ละปีให้คณะกรรมการกองทุนฯ ทราบ
(8) ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการกองทุนฯ รือประธานกรรมการกองทุนฯ มอบหมาย
การพิจารณาของที่ประชุม
ประธานอนุกรรมการฯ ได้ขอให้ผู้แทนกรมบัญชีกลางเร่งพิจารณาร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการเก็บรักษาเงิน และทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. ... ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ ได้จัดส่งให้กรมบัญชีกลางไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2553
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
1. พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 กำหนดให้คณะกรรมการกองทุนฯ จัดทำงบการเงินส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือบุคคลภายนอกซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ แต่งตั้งโดยความเห็นชอบของ สตง. เป็นผู้สอบบัญชีของกองทุนฯ และให้ทำการตรวจสอบและรับรองบัญชีและการเงินทุกประเภทของกองทุนภายใน 90 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณทุกปี
ให้ สตง. หรือผู้สอบบัญชี จัดทำรายงานผลการสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุนฯ เสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ภายใน 150 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
รายงานผลการสอบบัญชีและการเงิน ให้รัฐมนตรีเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภาเพื่อทราบและจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
2. สตง. ได้ตรวจสอบรับรองบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 เรียบร้อยแล้ว ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 ดังนี้
2.1 งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
หน่วย : ล้านบาท
รายได้จากการดำเนินงาน
รายได้จากผู้ผลิตและผู้นำเข้า 11,678.77
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 82.87
รายได้อื่น (เงินเหลือจ่าย) 66.08
รวม 11,827.72
ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน
ค่าใช้จ่ายตามแผนงานและโครงการของ สนพ. และ พพ. 3,070.62
รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 8,757.10
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย จำนวนเงิน 8,757.10 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวนเงิน 3,999.02 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ตามโครงการพัฒนาระบบการขนส่ง
2.2 งบแสดงฐานะการเงินของกองทุนฯ
หน่วย: ล้านบาท
เงินสด | 15,528.29 |
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น | 5,730.90 |
รายได้ค้างรับ | 79.72 |
หนี้สิน | (40.60) |
รวมสินทรัพย์สุทธิ | 21,298.31 |
สินทรัพย์สุทธิปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 สูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ.2551 จำนวนเงิน 8,757.10 ล้านบาท เนื่องจาก (1) ได้มีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ตามโครงการพัฒนาระบบการขนส่งตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2551-13 สิงหาคม 2552 (2) มีการผลิตน้ำมันออกจากโรงกลั่นและจำหน่ายมากขึ้น และ (3) คณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติเงินกองทุนฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 จึงมีระยะเวลาในการเบิกจ่ายเงิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพียง 5 เดือน
2.3 งบกระแสเงินสด
หน่วย: ล้านบาท
รายได้จากการดำเนินงาน
รายได้จากผู้ผลิตและผู้นำเข้า 11,678.77
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 75.38
รายได้อื่น (เงินเหลือจ่าย) 71.99
รวม 11,826.14
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ค่าใช้จ่ายตามแผนงานและโครงการของ สนพ. และ พพ. 3,115.33
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 398.71
หนี้สินหมุนเวียนอื่นและเงินฝากลดลง 13.19
รวม 3,527.23
กระแสเงินสดได้มาจากการดำเนินงาน 8,298.91
เงินสด ณ 1 ตุลาคม 2551 7,229.38
เงินรายได้มาจากการดำเนินงาน 8,298.91
เงินสด ณ 30 กันยายน 2552 15,528.29
กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวนเงิน 8,298.91 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลเนื่องมาจากกองทุนฯ มีรายรับสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการจ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามโครงการต่างๆ ต่ำกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวนเงิน 319.34 ล้านบาท
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 ที่ สตง. ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 3 โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
1. คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 ได้มีมติเห็นชอบให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่เกี่ยวกับโครงการประชาสัมพันธ์ ในแผนพลังงานทดแทน 250 ล้านบาท และแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 250 ล้านบาท ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารของกระทรวงพลังงาน" ที่ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน โดยให้สามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในแผน/งานเดียวกันได้ ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เห็นชอบแล้ว ให้เสนอต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อนดำเนินโครงการต่อไป และให้กระทรวงพลังงานดำเนินการประเมินผลการประชาสัมพันธ์ที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนฯ ต่อไปด้วย
2. คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2553 ได้พิจารณาโครงการประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจด้านพลังงาน ผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ และ ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2553 ได้พิจารณาโครงการประชาสัมพันธ์ ภายใต้แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและแผนพลังงานทดแทน จำนวน 3 โครงการ คือ 1) โครงการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานตามนโยบายรัฐบาล 2) โครงการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และ 3) โครงการบริหารศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหารสอง ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการดังกล่าว และให้นำเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อนดำเนินโครงการต่อไป โดยสรุปสาระสำคัญของโครงการ ดังนี้
1) โครงการประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจด้านพลังงาน ผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
(1) เพื่อร่วมเทิดพระเกียติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย"
(2) เพื่อสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจใช้พลังงานที่มีอยู่อย่างรู้ค่า และใช้เท่าที่จำเป็น ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้ประชาชนชาวไทยดำเนินรอยตามพระราชกิจวัตรในการใช้พลังงานอย่างพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
(3) เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องพลังงาน และใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
(4) เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับกระทรวงพลังงาน
หน่วยงานที่รับผิดชอบ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน
งบประมาณ ในวงเงิน 35,000,000 บาท
2) โครงการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานตามนโยบายรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
(1) เพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงในการดำเนินการตามนโยบายพลังงาน
(2) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานทดแทน และการประหยัดพลังงาน
(3) เพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานการณ์พลังงานของประเทศ และการแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน เช่น ราคาน้ำมัน ราคาไฟฟ้า ฯลฯ ของกระทรวงพลังงาน
(4) เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่กระทรวงพลังงานในการดำเนินนโยบายพลังงานต่อไป
หน่วยงานรับผิดชอบ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน
งบประมาณ ในวงเงิน 2,000,000 บาท
3) โครงการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานโดยมีขอบเขตงาน ดังนี้
(1) ผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ เอกสารเผยแพร่ คู่มือ โปสเตอร์ แผ่นพับ สติ๊กเกอร์ ส.ค.ส. ไดอารี่ ปฏิทินปีใหม่
(2) ผลิตและเผยแพร่ของที่ระลึก สำหรับประชาชนและเยาวชน โดยมีข้อความรณรงค์หรือบอกวิธีการประหยัดพลังงาน เพื่อให้ผู้ได้รับเกิดแนวคิด ริเริ่มการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง และย้ำเตือนให้กลุ่มเป้าหมายใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
(3) ผลิตวิดีทัศน์และเอกสารแนะนำองค์กร สนพ. เพื่อเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจ บทบาท หน้าที่ และภารกิจขององค์กร
(4) ดำเนินการประชาสัมพันธ์ และ/หรือให้การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาต่างๆ ในรูปแบบการเผยแพร่ผ่านสื่อ อาทิ โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ และ/หรืออื่นๆ อย่างเหมาะสม และตามสถานการณ์
(5) พัฒนาและบริหาร www.eppo.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของ สนพ. ภายในเว็บประกอบด้วย การเสนอความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงาน นโยบายพลังงาน หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์กร และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน และมีการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ผ่าน webpage Thaienergynews การสื่อสารผ่านเว็บไซต์นี้จะเป็นอีกหนึ่งในช่องทางประชาสัมพันธ์ที่รวดเร็วฉับไว
หน่วยงานที่รับผิดชอบ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
งบประมาณ ในวงเงิน 20,000,000 บาท
4) โครงการบริหารศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหารสอง โดยมีขอบเขตงาน ดังนี้
(1) จัดทำแผนประชาสัมพันธ์เชิงรุกในส่วนที่เกี่ยวกับผลงานโครงการอนุรักษ์พลังงาน วิธีการประหยัดพลังงานในมุมต่างๆ ที่น่าสนใจ และวิธีการใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง และนำไปเผยแพร่ต่อยังบุคคลใกล้ชิด หรือสาธารณชนต่อไป
(2) บริหารจัดการกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ กิจกรรมประชาสัมพันธ์ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสาร จัดเตรียมประเด็น แนวคำถาม-คำตอบ แนวในการชี้แจง และให้รายละเอียดแก่สื่อมวลชน ประสานงานสื่อมวลชน การจัดทำข่าวแจก (Press Release) ภาพข่าว (Photo Release) การจัดแถลงข่าว จัดสัมมนา หรือเสวนาสื่อมวลชน ดำเนินการจัดทำกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการสำหรับกรณีที่มีประเด็นสำคัญเร่งด่วน ข่าวเชิงลบ (PR Crisis Management) และอื่นๆ
(3) ให้คำปรึกษา แนะนำ และช่วยเหลือในการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลการดำเนินงานภายใต้โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และ/หรือกิจกรรมอื่นๆ ไปยังสื่อมวลชน และประชาชน
(4) ดำเนินการติดตาม รวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านพลังงาน ในสื่อชนิดต่างๆ โดยจัดทำ News Clipping พร้อมสรุปประเด็น และวิเคราะห์ข่าวสำคัญรายวัน
หน่วยงานที่รับผิดชอบ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
งบประมาณ ในวงเงิน 15,000,000 บาท
การพิจารณาของที่ประชุม
ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดของโครงการทั้ง 4 โครงการแล้ว และมีข้อคิดเห็น สรุปได้ดังนี้
1. ข้อเสนอโครงการได้ผ่านการพิจารณา และเห็นชอบจากคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ แล้ว จึงเห็นควรอนุมัติให้ สป.พน. และ สนพ. ดำเนินโครงการ ตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เสนอมา
2. เนื่องจากรายละเอียดการของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ ในแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน วงเงิน 250 ล้านบาท มิได้บรรจุการดำเนินกิจกรรม "โครงการประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจด้านพลังงาน ผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์" และ "โครงการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานตามนโยบายรัฐบาล"ไว้ ดังนั้น จึงเห็นควรให้เปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณในโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานรูปแบบต่างๆ ในวงเงิน 44,000,000 บาท เพื่อมาดำเนิน "โครงการประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจด้านพลังงาน ผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์" ในวงเงิน 35,000,000 บาท และ "โครงการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานตามนโยบายรัฐบาล" ในวงเงิน 2,000,000 บาท ทั้งนี้ การขอเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณเพื่อมาดำเนินโครงการดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม ผลลัพธ์ของโครงการไม่ลดลง และไม่มีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ
3. โครงการประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจด้านพลังงาน ผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ ควรเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึงในเรื่องพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้รับสมญานาม "พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย" และรณรงค์ให้ประชาชนได้ทราบถึงโครงการต่างๆ ในด้านการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทดแทน
4. โครงการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานตามนโยบายรัฐบาลนั้น จะทำให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบถึงผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานในปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานด้านพลังงานและสร้างความเชื่อมั่นต่อไป
5. โครงการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ควรเผยแพร่ความรู้ในเรื่องพลังงานให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดทำสื่อเป็นชุด ที่ประกอบด้วย คู่มือ และ CD ที่บรรจุข้อมูลความรู้ต่างๆ ตลอดจนใช้เป็นข้อมูลสำหรับสื่อวิทยุชุมชนที่สามารถนำไปเผยแพร่ให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึง
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณในโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานรูปแบบต่างๆ ในวงเงิน 44,000,000 บาท เพื่อมาดำเนิน "โครงการประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจด้านพลังงาน ผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์" ในวงเงิน 35,000,000 บาท และ "โครงการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานตามนโยบายรัฐบาล" ในวงเงิน 2,000,000 บาท ตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เสนอมา
2. เห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนฯ แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2553 ที่คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมครั้งที่ 1/2553 (ครั้งที่ 50) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 ได้อนุมัติให้ สนพ. ไว้แล้ว จำนวน 250 ล้านบาท มาใช้สำหรับดำเนินโครงการ
(1) โครงการประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจด้านพลังงาน ผ่านบทเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์" โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นผู้ดำเนินโครงการ ในวงเงิน 35,000,000 บาท (สามสิบห้าล้านบาทถ้วน)
(2) โครงการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานตามนโยบายรัฐบาล โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นผู้ดำเนินโครงการ ในวงเงิน 2,000,000 บาท (สองล้านบาทถ้วน)
(3) โครงการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นผู้ดำเนินโครงการ ในวงเงิน 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาทถ้วน)
3. เห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนฯ แผนพลังงานทดแทน งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ปีงบประมาณ 2553 ที่คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมครั้งที่ 1/2553 (ครั้งที่ 50) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 ได้อนุมัติให้ สนพ. ไว้แล้ว จำนวน 250 ล้านบาท มาใช้สำหรับ "โครงการบริหารศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหารสอง" โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นผู้ดำเนินโครงการ ในวงเงิน 15,000,000 บาท (สิบห้าล้านบาทถ้วน)
เรื่องที่ 4 เกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2553
1. คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 มีมติอนุมัติให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีเงินนอกงบประมาณ ถือปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลเงินนอกงบประมาณออย่างเคร่งครัด โดยให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติติดตามผลการดำเนินการ โดยกองทุนฯ เป็นทุนหมุนเวียนที่เข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงานตั้งแต่ ปีบัญชี 2549
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้ประชุมหารือกับ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ทริส) เพื่อจัดทำร่างเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2553 และตัวชี้วัดที่จะต้องทำการประเมินที่เหมาะสม ถูกต้อง ตามสภาพความเป็นจริงของการดำเนินงานตามแผนการอนุรักษ์พลังงาน
3. กรมบัญชีกลาง ได้มีหนังสือเรื่อง "การลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2553" เพื่อให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอประธานกรรมการกองทุนฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานฯ และส่งคืนกรมบัญชีกลางภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553
4. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้มีหนังสือเวียนถึง "คณะทำงานเตรียมการเพื่อดำเนินการตามระบบประเมินผล การดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน)" เพื่อขอความเห็นชอบร่างเกณฑ์การประเมินผลฯ แล้ว และคณะทำงานได้มีมติเห็นชอบร่างเกณฑ์การประเมินผลฯ โดยจะประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน 4 ด้าน 11 ตัวชี้วัด สรุปได้ ดังนี้
1) ผลการดำเนินงานด้านการเงิน (ร้อยละ 15)
ตัวชี้วัดที่ 1.1 ร้อยละของงบประมาณที่มีการผูกพันสัญญาต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนฯ (ร้อยละ 10)
ตัวชี้วัดที่ 1.2 ค่าใช้จ่ายบริหารที่เกิดขึ้นจริงและผูกพันเทียบกับงบประมาณ (ร้อยละ 5)
2) ผลการดำเนินงานด้านปฏิบัติการ (ร้อยละ 35)
ตัวชี้วัดที่ 2.1 ร้อยละของจำนวนโครงการที่มีการทำสัญญาของแต่ละแผนงานต่อจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดของแต่ละแผนงาน (ร้อยละ 18)
ตัวชี้วัดที่ 2.2 ร้อยละความสำเร็จของจำนวนโครงการที่ผูกพันและดำเนินงานได้ตามแผนภายในปีบัญชี 2553 ต่อจำนวนโครงการที่ผูกพันและมีแผนดำเนินงานภายในปีบัญชี 2553 (ร้อยละ 17)
3) การสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ร้อยละ 10)
ตัวชี้วัดที่ 3.1 การสำรวจความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประจำปีบัญชี 2553 (ร้อยละ 5)
ตัวชี้วัดที่ 3.2 การจัดทำแผนการปรับปรุงการให้บริการจากผลสำรวจความพึงพอใจและการดำเนินงานตามแผนการปรับปรุง ประจำปีบัญชี 2553 (ร้อยละ 5)
4) การบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน (ร้อยละ 40)
ตัวชี้วัดที่ 4.1 การดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีบัญชี 2553 (ร้อยละ 10)
ตัวชี้วัดที่ 4.2 การติดตามประเมินผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ (ร้อยละ 10)
ตัวชี้วัดที่ 4.3 บทบาทคณะกรรมการทุนหมุนเวียน (ร้อยละ 10)
ตัวชี้วัดที่ 4.4 การควบคุมภายใน (ร้อยละ 5)
ตัวชี้วัดที่ 4.5 การตรวจสอบภายใน (ร้อยละ 5)
การพิจารณาของที่ประชุม
ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว และเห็นชอบเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2553 และให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามผู้แทนกรมบัญชีกลาง ได้ให้ข้อสังเกตถึงความสำคัญของการประเมินผลด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน ที่ให้น้ำหนักถึงร้อยละ 40 โดยขอให้กองทุนฯ ดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายของตัวชี้วัดที่กำหนด แต่หากมีปัจจัยภายนอกที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเกณฑ์การประเมินผล ก็สามารถชี้แจงเหตุผลมายังกรมบัญชีกลางได้
มติที่ประชุม
เห็นชอบให้นำเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2553 เสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอต่อประธานกรรมการกองทุนฯ เพื่อลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินกับกระทรวงการคลังต่อไป