มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 7/2557 (ครั้งที่ 7)
วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.00 น.
รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ) พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง เป็นประธานที่ประชุม
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายชวลิต พิชาลัย เป็นกรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
1. จากมาตรการเร่งด่วนในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซ ภายใต้นโยบายของหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในกรอบเป้าหมาย 3 ประเด็น ได้แก่ การจัดเก็บภาษี การจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ และการปรับค่าการตลาด ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ได้มีมติให้ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันดังนี้ (1) ปรับลดภาษีสรรพสามิตของน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมัน แก๊สโซฮอล 95E10 91E10 E20 และ E85 จาก 7.00 6.30 6.30 5.60 และ 1.05 บาทต่อลิตร เหลือ 5.60 5.04 5.04 4.48 และ 0.84 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซลขึ้นจาก 0.005 บาทต่อลิตร เป็น 0.75 บาทต่อลิตร (2) ปรับลดภาษีเทศบาลของน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 E20 และ E85 จาก 0.70 0.63 0.63 0.56 และ 0.105 บาทต่อลิตร เหลือ 0.56 0.504 0.504 0.448 และ 0.084 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และปรับเพิ่มภาษีเทศบาลของน้ำมันดีเซลขึ้นจาก 0.0005 บาทต่อลิตร เป็น 0.075 บาทต่อลิตร (3) ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 และน้ำมันดีเซลจาก 11.85 4.85 2.75 และ 1.55 บาทต่อลิตร เป็น 9.75 4.25 2.55 และ 1.00 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 จาก 0.50 บาทต่อลิตร เป็น 0.80 บาทต่อลิตร และปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 จากชดเชย 9.75 บาทต่อลิตร เหลือ 8.23 บาทต่อลิตร
ซึ่งจากมติ คสช. ดังกล่าวส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 และ E20 ปรับตัวลดลง 3.89 2.13 1.70 และ 1.00 บาทต่อลิตร จาก 48.75 39.93 37.48 และ 34.98 บาทต่อลิตร เหลือ 44.86 37.80 35.78 และ 33.98 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 อยู่ในระดับคงเดิมที่ 24.28 บาทต่อลิตร และราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 0.14 บาทต่อลิตร จาก 29.85 บาทต่อลิตร เป็น 29.99 บาทต่อลิตร และยังทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 และน้ำมันดีเซลลดลงจาก 5.3911 และ 1.7015 บาทต่อลิตร เหลือ 4.10 และ 1.560 บาทต่อลิตร ตามลำดับ โดยค่าการตลาดของน้ำมันชนิดอื่นไม่เปลี่ยนแปลง
2. จากการปรับภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ (1) ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอลปรับตัวลดลง (2) กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลง 1,109 ล้านบาทต่อเดือน จาก 3,557 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 2,448 ล้านบาทต่อเดือน (3) รายได้จากภาษีสรรพสามิตของน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 437 ล้านบาทต่อเดือน จาก 4,203 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 4,640 ล้านบาทต่อเดือน (4) รายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มของน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง 66 ล้านบาทต่อเดือน จาก 4,913 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 4,847 ล้านบาทต่อเดือน (5) ค่าครองชีพของประชาชนลดลง และ (6) ราคาพลังงานสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น
3. จากการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว ส่งผลให้ราคาขายปลีกของน้ำมันเชื้อเพลิงเปลี่ยนแปลง และอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ดังนี้ (1) ในกรณีที่ราคาน้ำมันลดลง ผู้ค้าน้ำมัน และเจ้าของสถานีบริการจะเกิดการขาดทุนจากน้ำมันคงเหลือที่ซื้อมาในราคาสูง ซึ่งผู้ค้าน้ำมันและเจ้าของสถานีบริการอาจจะลดปริมาณน้ำมันคงเหลือ หรืออาจจะหยุดจำหน่ายชั่วคราว และอาจทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันได้ จึงจำเป็นต้องมีการจ่ายชดเชยน้ำมันคงเหลือ และ (2) ในกรณีที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น จะทำให้ผู้ค้าน้ำมันมีกำไรในปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือซึ่งเป็นอัตราที่มากเกินไป จึงจำเป็นต้องกำหนดให้มีการส่งกำไรดังกล่าวเข้ากองทุนน้ำมันฯ
ทั้งนี้ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2557 ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 และ E20 จะปรับลดลง 3.89 2.13 1.70 และ 1.00 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล จะปรับเพิ่มขึ้น 0.14 บาทต่อลิตร ทำให้ต้องมีการใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อชดเชยราคาน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 E20 และน้ำมันเบนซินพื้นฐานในอัตรา 3.64 1.99 1.59 0.93 และ 1.54 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และมีการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของดีเซลขึ้น 0.14 บาทต่อลิตร
4. ดังนั้น เพื่อให้โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับมติของ คสช. ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 และน้ำมันดีเซลลง 2.10 0.60 0.20 และ 0.55 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และ E85 ขึ้น 0.30 และ 1.52 บาทต่อลิตร ตามลำดับ พร้อมทั้ง เสนอให้ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 และ E20 ลง 3.89 2.13 1.70 และ 1.00 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลขึ้น 0.14 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อชดเชยราคาน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 E20 และน้ำมันเบนซินพื้นฐานในอัตรา 3.64 1.99 1.59 0.93 และ 1.54 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และมีการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของดีเซลขึ้น 0.14 บาทต่อลิตร และเสนอให้มีการตรวจสอบปริมาณน้ำมันคงเหลือของผู้ค้าน้ำมัน และสถานีบริการ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2557 และให้สามารถนำเงินชดเชย และเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันคงเหลือ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2557 มาหักลบกันได้
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2557 เป็นต้นไป
2. เห็นชอบอัตราเงินชดเชย และอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ของน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือ และราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2557 ดังนี้
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
3. เห็นชอบให้ตรวจสอบปริมาณน้ำมันคงเหลือของผู้ค้าน้ำมัน และสถานีบริการ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2557 และให้สามารถนำเงินชดเชย และเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันคงเหลือ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2557 มาหักลบกันได้ แล้วขอชดเชยหรือนำส่งกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนสุทธิ