มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 40/2556 (ครั้งที่ 174)
วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.00 น.
ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคาร B กระทรวงพลังงาน
ปลัดกระทรวงพลังงาน นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ กรรมการและเป็นประธานที่ประชุม แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ เป็นกรรมการและเลขานุการ
เรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ข้อ 1.7.3 ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคและผู้ผลิต และ ข้อ 3.5.3 กำกับราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม เป็นธรรมและมุ่งสู่การสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยปรับบทบาทกองทุนน้ำมันฯ ให้เป็นกองทุนสำหรับรักษาเสถียรภาพราคา ส่วนการชดเชยราคานั้นจะดำเนินการอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติมากขึ้นในภาคขนส่งและส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอลและไบโอดีเซลในภาคครัวเรือน
2. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
2.1 น้ำมันดีเซลการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง. พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร2.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอลการปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับ เพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
3. เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556 กบง. ได้พิจารณาโครงสร้างราคา และค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง และได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ผลจาก การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง ส่งผลทำให้โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2556 เป็นดังนี้
4. ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาด ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2556 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 107.77, 119.40 และ 125.94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.20 และ 2.43 และ 1.30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556 (ราคา ปิดตลาดวันที่ 16 ธันวาคม 2556) ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในวันที่ 20 ธันวาคม 2556 อยู่ที่ 32.6050 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลง 0.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ จากวันที่ 16 ธันวาคม 2556 ที่ 32.1614 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันวันที่ 23 ธันวาคม 2556 อยู่ที่ 35.34 บาทต่อลิตร ลดลง 1.69 บาทต่อลิตร (จากวันที่ 17 ธันวาคม 2556)
5. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2556 มีทรัพย์สินรวม 18,155 ล้านบาท หนี้สินรวม 16,48 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นบวก 1,706 ล้านบาท
6. จากราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง มีผลทำให้โครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2556 เป็นดังนี้
จากโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2556 พบว่าค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นเพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ ของน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 0.60 บาท ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จะทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอลอยู่ที่ประมาณ 1.38 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.45 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1.43 บาทต่อลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลงประมาณวันละ 33.40 ล้านบาท จากมีรายจ่ายวันละ 132.09 ล้านบาท เป็นมีรายจ่ายวันละ 165.49 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล ดังนี้
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป