มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 2/2557 (ครั้งที่ 176)
วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.00 น.
ปลัดกระทรวงพลังงาน นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ กรรมการและเป็นประธานที่ประชุม แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ เป็นกรรมการและเลขานุการ
เรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะ เงินเฟ้อ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ข้อ 1.7.3 ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับ ที่เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคและผู้ผลิต และ ข้อ 3.5.3 กำกับราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม เป็นธรรมและมุ่งสู่การสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยปรับบทบาทกองทุนน้ำมันฯ ให้เป็นกองทุนสำหรับรักษาเสถียรภาพราคา ส่วนการชดเชยราคานั้นจะดำเนินการอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติมากขึ้นในภาคขนส่งและส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอลและไบโอดีเซลในภาคครัวเรือน
2. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
2.1 น้ำมันดีเซลการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง. พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร2.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอลการปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับ เพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
3. เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2557 กบง. ได้พิจารณาโครงสร้างราคา และค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง และได้มีมติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลลง 0.40 บาทต่อลิตร ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง ส่งผลทำให้โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 3 มกราคม 2557 เป็นดังนี้
4. ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาด ณ วันที่ 6 มกราคม 2557 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 104.26, 117.92 และ 121.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง 3.85, 3.39 และ 4.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2557 (ราคาปิดตลาดวันที่ 31 ธันวาคม 2556) ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในวันที่ 6 มกราคม 2557 อยู่ที่ 33.2260 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลง 0.28 บาท ต่อเหรียญสหรัฐฯ จากวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ที่ 32.9494 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันวันที่ 7 มกราคม 2557 อยู่ที่ 36.39 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.58 บาทต่อลิตร (จากวันที่ 2 มกราคม 2557) ผู้ค้าได้มีการปรับราคาขายปลีกน้ำมัน 1 ครั้งเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2557 โดยน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล 95, 91 และ E20 ปรับเพิ่มขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮฮล E85 ปรับเพิ่มขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันดีเซลคงราคาเดิม
5. สรุปปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ได้แก่ (1) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา อ่อนค่าลง 0.2766 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลทำให้ค่าการตลาดลดลง 0.22 บาทต่อลิตร (2) ราคาน้ำมันดีเซล (MOPS) เฉลี่ย 3 วันลดลง 4.58 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 0.88 บาทต่อลิตร และ (3) การเปลี่ยนแปลงราคา B100 ลดลง 0.58 บาทต่อลิตร ส่งผลทำให้ค่าการตลาดลดลง 0.04 บาทต่อลิตร ดังนั้น จากทั้ง 3 ปัจจัยส่งผลทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลในวันที่ 6 มกราคม 2557 ปรับตัวสูงขึ้น 0.62 บาทต่อลิตร เมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อนหน้าเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2557
6. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 5 มกราคม 2557 มีทรัพย์สินรวม 18,776 ล้านบาท หนี้สินรวม 19,473 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นติดลบ 698 ล้านบาท
7. จากโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 7 มกราคม 2557 พบว่าค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับสูง อยู่ที่ 2.0487 บาทต่อลิตร ดังนั้นเพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเสนอปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้นลิตรละ 0.50 บาท ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จะทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอลอยู่ที่ประมาณ 1.94 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.55 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1.66 บาทต่อลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 27.83 ล้านบาท จากมีรายจ่ายวันละ 158.84 ล้านบาท เป็นมีรายจ่ายวันละ 131 ล้านบาท และจากฐานะกองทุนปัจจุบันติดลบ 698 ล้านบาท รวมวงเงินกู้ 30,000 ล้านบาท กองทุนจะมีวงเงินบริหารจัดการได้อีกประมาณ 221 วัน (กรณีอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดไม่เปลี่ยนแปลง)
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล ดังนี้
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2557 เป็นต้นไป