มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 7/2557 (ครั้งที่ 181)
วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.00 น.
ปลัดกระทรวงพลังงาน นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ กรรมการและเป็นประธานที่ประชุม แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายสุชาลี สุมามาลย์ เป็นกรรมการและเลขานุการ(แทน)
เรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. 1. รัฐบาลมีนโยบายในการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นธรรมสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นผู้พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสม โดยให้คำนึงถึง (1) สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก (2) ภาวะเงินเฟ้อ (3) การส่งเสริมพลังงานทดแทน และ (4) ฐานะกองทุนน้ำมันฯ
2. จากการพิจารณาโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 11 มีนาคม 2557 พบว่าค่าการตลาดของน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E20 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 2.4130 และ 1.8532 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าระดับ ที่เหมาะสม ดังนั้น กบง. ในการประชุมเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2557 จึงได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E20 และน้ำมันดีเซลขึ้น 0.25 และ 0.40 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ซึ่งจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง และอัตราแลกเปลี่ยน ที่อ่อนค่าลง ส่งผลทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E20 และน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 12 มีนาคม 2557 อยู่ที่ 2.2045 และ 1.4905 บาทต่อลิตร ตามลำดับ โดยราคาขายปลีกของน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งสองชนิดไม่เปลี่ยนแปลง
3. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 18 มีนาคม 2557 เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 10 มีนาคม 2557 พบว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลง0.75, 3.87 และ 1.88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 103.45, 117.21 และ 119.97 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราวันที่ 18 มีนาคม 2557 อยู่ที่ 32.3207 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 0.24 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันอยู่ที่ 37.52 บาทต่อลิตร ลดลง 0.24 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 19 มีนาคม 2557 อยู่ที่ 1.9265 บาทต่อลิตร ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าค่าการตลาดที่เหมาะสม โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าการตลาด ประกอบด้วย (1) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่แข็งค่าขึ้น 0.236 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 0.18 บาทต่อลิตร (2) ราคาน้ำมันดีเซล (MOPS) เฉลี่ย 3 วันลดลง 1.4767 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 0.27 บาทต่อลิตร และ (3) การเปลี่ยนแปลงราคา B100 ลดลง 0.24 บาทต่อลิตร ส่งผล ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 0.02 บาทต่อลิตร
4. ดังนั้น เพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล อยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอ ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้นลิตรละ 0.50 บาท ซึ่งผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว จะทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.4265 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 28.97 ล้านบาท จากมีรายจ่ายวันละ 4.68 ล้านบาท เป็นมีรายรับวันละ 24.29 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จาก 0.30 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่อัตรา 0.80 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป