มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 8/2557 (ครั้งที่ 182)
วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.30 น.
ปลัดกระทรวงพลังงาน นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ กรรมการและเป็นประธานที่ประชุม แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายสุชาลี สุมามาลย์ เป็นกรรมการและเลขานุการ(แทน)
เรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. รัฐบาลมีนโยบายในการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นธรรมสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นผู้พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสม โดยให้คำนึงถึง (1) สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก (2) ภาวะเงินเฟ้อ (3) การส่งเสริมพลังงานทดแทน และ (4) ฐานะกองทุนน้ำมันฯ
2. จากการพิจารณาโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 19 มีนาคม 2557 พบว่าค่าการตลาด ของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1.9265 บาทต่อลิตร ซึ่งสูงกว่าระดับที่เหมาะสม ดังนั้น กบง. ในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2557 จึงได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง และอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 20 มีนาคม 2557 อยู่ที่ 1.4919 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกไม่เปลี่ยนแปลง
3. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 26 มีนาคม 2557 เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 18 มีนาคม 2557 พบว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.85 0.40 และ 1.96 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 104.30 117.61 และ 121.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราวันที่ 26 มีนาคม 2557 อยู่ที่ 32.7358 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลง 0.43 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันอยู่ที่ 35.15 บาทต่อลิตร ลดลง 2.37 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 27 มีนาคม 2557 อยู่ที่ 0.8957 บาทต่อลิตร ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าการตลาดที่เหมาะสม โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อ ค่าการตลาด ประกอบด้วย (1) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่อ่อนค่าลง 0.4331 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ ค่าการตลาดลดลง 0.33 บาทต่อลิตร (2) ราคาน้ำมันดีเซล (MOPS) เฉลี่ย 3 วันเพิ่มขึ้น 1.4733 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดลดลง 0.28 บาทต่อลิตร และ (3) การเปลี่ยนแปลงราคา B100 ลดลง 2.37 บาทต่อลิตร ส่งผลทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น 0.08 บาทต่อลิตร
4. ดังนั้น เพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล อยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอ ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 0.50 บาท ซึ่งผลจากการปรับลดอัตราเงิน ส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว จะทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.3957 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลงประมาณวันละ 28.97 ล้านบาท จากมีรายรับวันละ 24.29 ล้านบาท เป็นมีรายจ่ายวันละ 4.68 ล้านบาท ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 23 มีนาคม 2557 มีทรัพย์สินรวม 12,597 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 19,873 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นติดลบ 7,276 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลลง 0.40 บาทต่อลิตร จาก 0.80 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่อัตรา 0.40 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป
2. มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานไปศึกษาข้อกฎหมายและบทลงโทษในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบจำหน่ายก๊าซ LPG เพื่อนำมาเสนอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานทราบในการประชุม ครั้งต่อไป