มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 3/2552 (ครั้งที่ 40)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เวลา 11.30 น.
ณ ห้องประชุมบุญรอด - นิธิพัฒน์ อาคาร 7 ชั้น 11 กระทรวงพลังงาน
1. การปรับราคาน้ำมัน ตามมาตรการภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ครั้งที่ 2
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) เป็นประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) เป็นกรรมการและเลขานุการ
ประธานฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าการนัดประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องพิจารณาเกี่ยวกับการปรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตามมาตรการภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นวาระเร่งด่วน
เรื่องที่ 1 การปรับราคาน้ำมัน ตามมาตรการภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ครั้งที่ 2
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเห็นชอบ เรื่องนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน : มาตรการด้านภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ดังนี้ 1) เห็นชอบในหลักการให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 โดยการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาน้ำมันขายปลีกทยอยเพิ่มขึ้นในระดับและในช่วงเวลาที่เหมาะสม และมิให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภค และ 2) มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปพิจารณาดำเนินการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ให้เป็นไปตามหลักการในข้อ 1)
2. กบง. ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2552 ได้มีมติเห็นชอบเรื่อง นโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน : มาตรการด้านภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ดังนี้ 1) เห็นชอบในหลักการให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นจากการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ อัตราหนึ่ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 และหลังจากนั้นให้ทยอยปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ประมาณ 1.00 -1.50 บาท/ลิตร เพื่อให้อัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ กลับไปอยู่ในอัตราเดิม โดยอาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน 2) เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 91 เพื่อรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล ในการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล ภายหลังจากอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ กลับไปอยู่ในอัตราเดิม และ 3) เพื่อให้มีความคล่องตัวและทันเหตุการณ์ในการรักษาเสถียรภาพของกองทุนน้ำมันฯ เห็นชอบในหลักการที่มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธาน กบง. เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบหรืออนุมัติแทน กบง. ในการเปลี่ยนแปลงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับแนวทางในข้อ 1) แล้วรายงานให้ กบง. ทราบภายหลัง ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รับไปดำเนินการต่อไป
3. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ได้มีการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และได้ใช้กองทุนน้ำมันฯ เข้าไปรับภาระบางส่วน เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้นเพียง 1.55 บาท/ลิตร ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2552 ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 0.80 บาท/ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอลทุกชนิดเพิ่มขึ้น 0.60 บาท/ลิตร และปรับลดดีเซลหมุนเร็ว B2 และ B5 0.50 บาท/ลิตร
หลังจากนั้นราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบๆ และค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลยังอยู่ในระดับที่สูง จึงทำให้สามารถปรับราคาขายปลีกน้ำมันครั้งที่ 2 ได้โดยการเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ทุกชนิดอีก 0.60 บาท/ลิตร (ยกเว้นเบนซิน 95,91) เพื่อลดภาระการชดเชยจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตจากกองทุนน้ำมันฯ ซึ่งกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) จะสามารถออกตรวจสอบสต๊อกน้ำมันได้ทันที ดังนั้นจึงเห็นควรปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 เพื่อลดภาระการชดเชยจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตของน้ำมันแก๊สโซฮอล (E10, E20 และ E85) และดีเซล อีก 0.60 บาท/ลิตร จะทำให้ราคาขายปลีกเพิ่ม 0.60 บาท/ลิตร (ข้อเท็จจริงถ้าปรับกองทุนเพิ่ม 0.60 บาท/ลิตร ราคาขายปลีกจะเพิ่ม 0.64 บาท/ลิตร แต่เนื่องจากค่าการตลาดอยู่ในระดับสูงจึงให้ส่วนที่เกินเป็นภาระของผู้ค้าซึ่งจะทำให้ค่าการตลาดลดลง 0.04 บาท/ลิตร) ซึ่งจะทำให้อัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ค่าการตลาดและราคาขายปลีกเป็นดังนี้
ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.60 บาท/ลิตร
ชนิด หน่วย : บาท/ลิตร |
12 กุมภาพันธ์ 2552 | 13 กุมภาพันธ์ 2552 | ||||
อัตราเงิน กองทุนน้ำมันฯ |
ค่าการตลาด | ราคา ขายปลีก |
อัตราเงิน กองทุนน้ำมันฯ |
ค่าการตลาด | ราคาขายปลีก | |
เบนซิน 95 | 7.00 | 5.3476 | 34.54 | 7.00 | 5.3476 | 34.54 |
เบนซิน 91 | 4.00 | 0.7417 | 25.94 | 4.00 | 0.7417 | 25.94 |
แก๊สโซฮอล 95 | -1.13 | 1.3621 | 21.04 | -0.53 | 1.3228 | 21.64 |
แก๊สโซฮอล 91 | -1.73 | 1.4038 | 20.24 | -1.13 | 1.3645 | 20.84 |
แก๊สโซฮอล 95 E20 | -3.23 | 2.3457 | 19.74 | -2.63 | 2.3064 | 20.34 |
แก๊สโซฮอล 95 E85 | -7.1024 | 2.7271 | 14.29 | -6.50 | 2.6855 | 14.89 |
ดีเซลหมุนเร็ว B2 | -0.48 | 2.1474 | 19.39 | 0.12 | 2.1081 | 19.99 |
ดีเซลหมุนเร็ว B5 | -1.06 | 2.6727 | 17.89 | -0.46 | 2.6335 | 18.49 |
4. ในช่วงวันที่ 1-12 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนน้ำมันฯ ได้เข้ามาพยุงการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง ครั้งที่ 1 เพื่อทำให้ราคาขายปลีกปรับเพิ่มขึ้นเพียง 1.55 บาท/ลิตร คิดเป็นเงิน 1,498 ล้านบาท (หรือ 125 ล้านบาท/วัน) และหลังการปรับราคาครั้งที่ 2 จะทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 0.60 บาท/ลิตร และจะส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ลดภาระลงจาก 125 ล้านบาท/วัน เป็น 89 ล้านบาท/วัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล 95, น้ำมันแก๊สโซฮอล 91, น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E20, น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E85 ,น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 เพิ่มขึ้น 0.60 บาท/ลิตร ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกเพิ่ม 0.60 บาท/ลิตร เพื่อลดภาระการชดเชยจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน