มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 7/2552 (ครั้งที่ 44)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2552 เวลา 11.00 น.
ณ ห้องประชุมบุญรอด - นิธิพัฒน์ ชั้น 11 อาคาร 7 กระทรวงพลังงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2552 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเห็นชอบเรื่อง นโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน : มาตรการด้านภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ดังนี้ 1) เห็นชอบในหลักการให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นจากการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ อัตราหนึ่ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 และหลังจากนั้นให้ทยอยปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ประมาณ 1.00 -1.50 บาท/ลิตร เพื่อให้อัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ กลับไปอยู่ในอัตราเดิม โดยอาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน 2) เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 91 เพื่อรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล ในการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล ภายหลังจากอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ กลับไปอยู่ในอัตราเดิม และ 3) เพื่อให้มีความคล่องตัวและทันเหตุการณ์ในการรักษาเสถียรภาพของกองทุนน้ำมันฯ เห็นชอบในหลักการที่มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธาน กบง. เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบหรืออนุมัติแทน กบง. ในการเปลี่ยนแปลงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับแนวทางใน ข้อ 1) แล้วรายงานให้ กบง. ทราบภายหลัง ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รับไปดำเนินการต่อไป
2. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ได้มีการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แต่เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคต้องรับภาระมากเกินไป จึงได้ใช้กองทุนน้ำมันฯ เข้าไปรับภาระบางส่วน เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้นเพียง 1.55 บาท/ลิตร ต่อมา กบง. ได้มีมติให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ตามลำดับดังนี้คือ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 ได้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล 95, น้ำมันแก๊สโซฮอล 91, น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E20, น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E85 ,ดีเซลหมุนเร็ว B2 และดีเซลหมุนเร็ว B5 เพิ่มขึ้น 0.60 บาท/ลิตร ทำให้ราคาขายปลีกเพิ่ม 0.60 บาท/ลิตร วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ได้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอลและดีเซลหมุนเร็ว B2 เพิ่มขึ้น 0.80 บาท/ลิตร และดีเซลหมุนเร็ว B5 เพิ่มขึ้น 0.26 บาท/ลิตร โดยไม่ทำให้ราคาขายปลีกปรับเพิ่มขึ้น วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ได้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล 0.60 บาท/ลิตร และดีเซลหมุนเร็ว 0.20 บาท/ลิตร โดยไม่ทำให้ราคาขายปลีกปรับเพิ่มขึ้น แต่ทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าลดลงอยู่ในระดับที่เหมาะสม
3. เนื่องจากในช่วงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2552 ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ของน้ำมันเบนซิน 95 ลดลงประมาณ 4 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดีเซลลดลงประมาณ 3.5 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันในปัจจุบันอยู่ในระดับสูง จึงสามารถปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล 0.70 บาท/ลิตร และดีเซลหมุนเร็ว B2 0.40 บาท/ลิตร ในวันที่ 6 มีนาคม 2552 เพื่อลดภาระการชดเชยจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตจากกองทุนน้ำมันฯ โดย ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมัน ซึ่งจะทำให้อัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ค่าการตลาด และราคาขายปลีก เป็นดังนี้
โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงหลังปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ
เปรียบเทียบอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน ค่าการตลาด และราคาขายปลีก
ภาระที่เหลือของกองทุนน้ำมันฯ
4. ในช่วงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ - วันที่ 5 มีนาคม 2552 กองทุนน้ำมันฯ ได้เข้ามาพยุงการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน จำนวน 4 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ โดยทำให้ราคาขายปลีกปรับเพิ่ม 1.55 บาท/ลิตร และกองทุนน้ำมันฯ รับภาระวันละ 125 ล้านบาท คิดเป็นภาระกองทุนน้ำมันฯ 1,498 ล้านบาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ โดยทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 0.60 บาท/ลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ รับภาระเหลือวันละ 89 ล้านบาท ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมัน แก๊สโซฮอลและดีเซลหมุนเร็ว B2 อีก 0.80 บาท/ลิตร และดีเซลหมุนเร็ว B5 อีก 0.26 บาท/ลิตร ส่งผลให้ กองทุนน้ำมันฯ ลดการรับภาระเหลือวันละ 50 ล้านบาท และครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล 0.60 บาท/ลิตร และดีเซลหมุนเร็ว B2 0.20 บาท/ลิตร โดยทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ลดการรับภาระเหลือวันละ 36 ล้านบาท
5. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอขอปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งที่ 5 ในวันที่ 6 มีนาคม 2552 โดยปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล เพิ่มขึ้น 0.70 บาท/ลิตร (ยกเว้นแก๊สโซฮอล E85) และดีเซลหมุนเร็ว B2 เพิ่มขึ้น 0.40 บาท/ลิตร โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีก ทำให้กองทุนน้ำมันฯ ลดการรับภาระเหลือวันละ 15 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล 95, น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E20 เพิ่มขึ้น 0.70 บาท/ลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 เพิ่มขึ้น 0.40 บาท/ลิตร ในวันที่ 6 มีนาคม 2552 เพื่อลดภาระการชดเชยจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ทั้งนี้ จะไม่ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเปลี่ยนแปลง
2. เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน 91 เพิ่มขึ้น 0.70 บาท/ลิตร ในวันที่ 6 มีนาคม 2552 เนื่องจากค่าการตลาดอยู่ในระดับสูงและเพื่อรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 กับน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 โดยไม่กระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมัน