มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 1/2553 (ครั้งที่ 52)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 13.00 น.
ณ ห้องประชุมบุญรอด - นิธิพัฒน์ ชั้น 11 อาคาร 7 กระทรวงพลังงาน
1. แนวทางการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและการรักษาเสถียรภาพกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
2. สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 แนวทางการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและการรักษาเสถียรภาพกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2551 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการจัดโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทน ดังนี้ 1) การจูงใจผู้จำหน่ายเพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทนมีหลักการ คือ ค่าการตลาดของน้ำมันที่เป็นพลังงานทดแทนต้องสูงกว่าน้ำมันปกติ และน้ำมันที่มีส่วนผสมของพลังงานทดแทนมาก ต้องมีค่าการตลาดสูงกว่าน้ำมันที่มีส่วนผสมของพลังงานทดแทนน้อย และ 2) การจูงใจผู้ใช้เพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทนมีหลักการ คือ ราคาขายปลีกของน้ำมันที่เป็นพลังงานทดแทนต้องต่ำกว่าน้ำมันปกติ และน้ำมันที่มีส่วนผสมของพลังงานทดแทนมาก ต้องมีราคาขายปลีกต่ำกว่าน้ำมันที่มีส่วนผสมของพลังงานทดแทนน้อย
2. จากโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในวันที่ 28 มกราคม 2553 พบว่าค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงยังไม่จูงใจผู้ค้าน้ำมันให้จำหน่ายพลังงานทดแทน เช่น ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน 91 สูงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 ประมาณ 0.32 บาท/ลิตร, ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 สูงกว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ประมาณ 0.11 บาท/ลิตร และค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 อยู่ในระดับต่ำ ไม่จูงใจให้เกิดการขยายสถานีบริการ รวมทั้งส่วนต่างราคาขายปลีกไม่จูงใจผู้ใช้น้ำมันให้เปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทน เช่น น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ถูกกว่าแก๊สโซฮอล 95 E10 เพียง 0.80 บาท/ลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ถูกกว่าดีเซลหมุนเร็ว B2 เพียง 1.20 บาท/ลิตร ในช่วงต้นปี 2552 สัดส่วนการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ต่อการใช้น้ำมันดีเซลทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมิถุนายน 2552 อยู่ที่ร้อยละ 50 แต่เนื่องจากค่าการตลาดและส่วนต่างราคาขายปลีกไม่เอื้อต่อการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ส่งผลให้ในเดือนธันวาคม 2552 สัดส่วนการใช้ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 43
3. เพื่อให้โครงสร้างราคาน้ำมันในปัจจุบันส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และการรักษาเสถียรภาพของกองทุนน้ำมันฯ ฝ่ายเลขานุการฯ ขอเสนอแนวทางปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ดังนี้
3.1 แนวทางที่ 1 ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 91 เพิ่ม 0.40 บาท/ลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 เพิ่ม 0.32 บาท/ลิตร เพื่อให้ค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม และให้ส่วนต่างราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ถูกกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 ในระดับ 1.50 บาท/ลิตร เพื่อจูงใจผู้ใช้น้ำมัน ถ้าจะรักษาระดับค่าการตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อาจทำให้ราคาขายปลีกในกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล เพิ่มขึ้นประมาณ 0.40 บาท/ลิตร
3.2 แนวทางที่ 2 ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 91 ให้เต็มเพดาน (7.50 บาท/ลิตร) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 เพิ่ม 0.32 บาท/ลิตร เพื่อให้ค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม และให้ส่วนต่างราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ถูกกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 ในระดับ 1.50 บาท/ลิตร เพื่อจูงใจผู้ใช้น้ำมัน ซึ่งถ้าจะรักษาระดับค่าการตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอาจทำให้ราคาขายปลีกในกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล เพิ่มขึ้นประมาณ 1.30 บาท/ลิตร
4. จากการประมาณการสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ หากเห็นชอบตามแนวทางที่ 1 กองทุนน้ำมันฯ จะมีสภาพคล่องใกล้เคียงกับปัจจุบันที่ระดับ 457 ล้านบาท/เดือน และหากเห็นชอบตามแนวทางที่ 2 กองทุนน้ำมันฯ จะมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น 509 ล้านบาท/เดือน จาก 484 ล้านบาท/เดือน เป็น 993 ล้านบาท/เดือน ทั้งนี้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 27 มกราคม 2553 มีเงินสดในบัญชี 31,886 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 10,358 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 21,527 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 เพิ่มขึ้น 0.32 บาท/ลิตร มาอยู่ที่ระดับ 0.85 บาท/ลิตร และให้ปรับอัตราเงินชดเชยของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 เป็น 0.80 บาท/ลิตร เพื่อให้ค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 มกราคม 2553 เป็นต้นไป
2. เห็นชอบให้ทยอยปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน 91 ให้ถึงระดับเพดาน 7.50 บาท/ลิตร โดยให้ส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ถูกกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ในระดับ 1.50 บาท/ลิตร และให้ค่าการตลาดของน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 มากกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ในระดับ 3.00 บาท/ลิตร โดยรักษาระดับค่าการตลาดและส่วนต่างราคาขายปลีกกับน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
3. ให้ประธานกรรมการบริหารนโยบายพลังงานเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบหรืออนุมัติแทนคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ในการเปลี่ยนแปลงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตามความเหมาะสม และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศต่อไป
เรื่องที่ 2 สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส ในช่วงวันที่ 1 - 26 มกราคม 2553 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 77.53 และ 79.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 2.11 และ 4.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามลำดับ จาก Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ งวดสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 มกราคม 2553 ลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 330.6 ล้านบาร์เรล และปริมาณสำรอง Distillate ลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 157.1 ล้านบาร์เรล ประกอบกับรอยเตอร์รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของประเทศเม็กซิโก ปี 2552 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 6.8 มาอยู่ที่ระดับ 2.60 ล้านบาร์เรล/วัน
2. ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95, 92 และน้ำมันดีเซล ในช่วงวันที่ 1 - 26 มกราคม 2553 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 88.32, 85.17 และ 85.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามลำดับ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 6.47, 6.23 และ 3.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามลำดับ ตามราคาน้ำมันดิบและจากอิหร่านนำเข้าน้ำมันเบนซินในเดือนมกราคม 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากเดือนก่อนหน้า ประกอบกับ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates ของสิงคโปร์ ณ วันที่ 20 มกราคม 2553 ลดลง 0.73 ล้านบาร์เรล อีกทั้ง Pertamina ของอินโดนีเซียมีแผนนำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2553 เนื่องจากการปิดซ่อมแซมโรงกลั่น และจีนส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือนมกราคม 2553 ลดลง 0.7 ล้านบาร์เรล รวมทั้งนักวิเคราะห์คาดว่าหากยุโรปเหนือยังคงหนาวไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ทำให้อุปสงค์น้ำมันดีเซลจะเพิ่มขึ้นประมาณ 73 ล้านบาร์เรล
3. ในช่วงวันที่ 1 - 27 มกราคม 2553 ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.40 บาท/ลิตร , เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล 95 E10, E20, แก๊สโซฮอล 91 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.00 บาท/ลิตร, ดีเซลหมุนเร็วและดีเซลหมุนเร็ว B5 เพิ่มขึ้น 0.40 และ 0.60 บาท/ลิตร ตามลำดับ ส่วนแก๊สโซฮอล 95 E85 ไม่มีการปรับราคา ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินออกเทน 95, 91, แก๊สโซฮอล 95 E10, E20, E85, แก๊สโซฮอล 91, ดีเซลหมุนเร็วและดีเซลหมุนเร็ว B5 ณ วันที่ 27 มกราคม 2553 อยู่ที่ระดับ 40.84, 35.84, 32.24, 29.94, 18.72, 31.44, 27.59 และ 26.39 บาท/ลิตร ตามลำดับ
4. สถานการณ์ก๊าซ LPG ในเดือนมกราคม 2553 ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 14 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน มาอยู่ที่ระดับ 738 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน จากปริมาณนำเข้า LPG ของจีนในปี 2552 อยู่ที่ 4.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.46 ล้านตัน และในปี 2553 คาดว่าปริมาณนำเข้าจะใกล้เคียงกับปี 2552 โดยจะนำเข้าจากตลาดจรประมาณ 100,000 - 150,000 ตัน/เดือน หรือ 1.8 ล้านตัน เนื่องจากจีนไม่มีแผนสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่และภาวะอากาศหนาวเย็นในช่วงต้นปี 2553 ประกอบกับผู้นำเข้าของเวียดนามมีความต้องการนำเข้า LPG ในเดือนมกราคม 2553 เนื่องจากโรงกลั่น Dung Quat ปิดดำเนินการ รวมทั้งความต้องการจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2553 คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 689 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน รัฐได้กำหนดราคาก๊าซ LPG ณ โรงกลั่น เดือนธันวาคม 2552 ที่ระดับ 11.1212 บาท/กิโลกรัม และกำหนดราคาขายส่ง ณ คลัง ที่ระดับ 13.6863 บาท/กิโลกรัม ส่งผลให้ราคาขายปลีก ณ กรุงเทพฯ อยู่ที่ 18.13 บาท/กิโลกรัม สถานการณ์การนำเข้าก๊าซ LPG ตั้งแต่เดือนเมษายน 2551 - มกราคม 2553 ได้มีการนำเข้ารวมทั้งสิ้น 1,279,771 ตัน คิดเป็นภาระชดเชย 16,139 ล้านบาท
5. สถานการณ์น้ำมันแก๊สโซฮอล ในเดือนพฤศจิกายน 2552 มีผู้ประกอบการผลิตเอทานอล 17 ราย กำลังการผลิตรวม 2.73 ล้านลิตร/วัน ผลิตเป็นเชื้อเพลิง 10 ราย มีปริมาณการผลิตจริง 0.82 ล้านลิตร/วัน และราคาเอทานอลแปลงสภาพเดือนมกราคม 2553 อยู่ที่ 24.33 บาท/ลิตร ในเดือนธันวาคม 2552 และในช่วงวันที่ 1-16 มกราคม 2553 มีปริมาณการจำหน่าย 12.4 และ 11.9 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ จากสถานีบริการ 4,230 แห่ง ณ วันที่ 27 มกราคม 2553 ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ต่ำกว่าน้ำมันเบนซิน 91 3.60 บาท/ลิตร ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ต่ำกว่าน้ำมันเบนซิน 91 4.40 บาท/ลิตร ในเดือนธันวาคม 2552 และในช่วงวันที่ 1- 16 มกราคม 2553 น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 มีปริมาณจำหน่าย 0.31 และ 0.29 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ จากสถานีบริการ 244 แห่ง โดยราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 ต่ำกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 2.30 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ในเดือนธันวาคม 2552 มีปริมาณการจำหน่าย 0.0020 ล้านลิตร/วัน จากสถานีบริการ 4 แห่ง โดยราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ต่ำกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 13.92 บาท/ลิตร
6. สถานการณ์น้ำมันไบโอดีเซล ในเดือนธันวาคม 2552 มีผู้ผลิตไบโอดีเซล 14 ราย กำลังการผลิตรวม 5.95 ล้านลิตร/วัน ปริมาณความต้องการไบโอดีเซลในเดือนธันวาคม 2552 และในช่วงวันที่ 1 - 16 มกราคม 2553 อยู่ที่ 1.82 และ 1.64 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ราคาไบโอดีเซลในประเทศเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 29.77 และ 31.46 บาท/ลิตร ตามลำดับ มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ในช่วงเวลาเดียวกัน 23.93 และ 21.63 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ สถานีบริการน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 3,597 แห่ง ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 0.81 บาท/ลิตร และราคาขายปลีกดีเซลหมุนเร็ว B5 ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 1.20 บาท/ลิตร
7. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 27 มกราคม 2553 มีเงินสดในบัญชี 31,886 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุนฯ 10,358 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระเงินชดเชย 10,044 ล้านบาท และงบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 314 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ 21,527 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ