มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 6/2554 (ครั้งที่ 64)
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 14.30 น.
ณ ห้องประชุม 201 อาคารรัฐสภา 2
1. การแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบขาดแคลน
2. หลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
ประธานฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมฯ ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติ เห็นชอบให้ลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาจากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 2 เป็นการชั่วคราว จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554 และให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 ทั้งนี้ หากกองทุนน้ำมันฯ มีเงินสุทธิคงเหลือที่ระดับประมาณ 10,000 ล้านบาท ให้นำเสนอ กพช. เพื่อพิจารณาต่อไป
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบขาดแคลน
สรุปสาระสำคัญ
1. กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้ออกประกาศกำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วมี 2 ชนิด คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี3) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 และเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงพลังงานประสานขอความร่วมมือบริษัทผู้ค้าน้ำมันงดการผลิตน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม 2554 และมอบหมายให้ ธพ. ประสานกรมสรรพสามิตและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 และ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ที่คงเหลืออยู่ในระบบของผู้ค้าน้ำมัน
2. ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปดำเนินการปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 2 ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554
3. ธพ. ได้ผ่อนผันคุณภาพน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี3) ในข้อกำหนดเรื่องสี และปริมาณไบโอดีเซลจากไม่สูงกว่าร้อยละ 3 เป็นไม่สูงกว่าร้อยละ 3.5 ให้แก่ผู้ค้าน้ำมัน และสถานีบริการ ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ถึง 31 มีนาคม 2554 ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ค้าน้ำมันสามารถนำน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี3 ไปเก็บในถังที่เคยเก็บน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 เพื่อจำหน่ายได้ และได้ประสานงานกับกรมสรรพสามิตเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาสต๊อกน้ำมันดีเซล หมุนเร็ว บี5 และน้ำมัน base oil น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 บางส่วนที่คงเหลืออยู่ในระบบของผู้ค้าน้ำมัน ซึ่งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 กรมสรรพสามิตได้มีการประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางดำเนินการให้กับผู้ค้าน้ำมันแล้ว
4. ธพ. ได้มีข้อเสนอว่า การผ่อนผันคุณภาพน้ำมันดีเซลหมุนเร็วดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น หากสถานการณ์น้ำมันปาล์มคลี่คลายลงแล้ว การกลับมากำหนดให้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซล 2 ชนิด ก็อาจจะเกิดบัญหาอีกเมื่อมีการขาดแคลน หรือปาล์มล้นตลาด และผู้ค้าน้ำมันก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนการจำหน่ายระหว่างน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี3 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ตามสถานการณ์ ดังนั้น จึงควรกำหนดนโยบายให้มีน้ำมันดีเซลเพียงชนิดเดียว และให้มีความยืดหยุ่นในเรื่องปริมาณการเติมไบโอดีเซล ซึ่งระยะเวลาการดำเนินการที่เหมาะสมคือ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2554 เป็นต้นไป
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดปริมาณการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา จากเดิมร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 2 (สัดส่วนขั้นต่ำจากไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2.5 เป็นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5) เป็นการชั่วคราวจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554 ทั้งนี้ มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานรับไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
เรื่องที่ 2 หลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 กบง. มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ดังนี้
ราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี3 | = | 97% ของราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (อ้างอิงตลาดสิงคโปร์) + 3% ของราคาไบโอดีเซล (B100) |
โดยที่ ราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ (บาทต่อลิตร) คำนวณจาก
§ (ราคา MOPS GO 0.5% + พรีเมียม) ที่ 60 0F x อัตราแลกเปลี่ยน / 158.984
- ราคา MOPS GO 0.5% คือ ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วซัลเฟอร์ 0.5% จาก Mean of Platt's Singapore (เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล)
- พรีเมียม คือ ค่าปรับคุณภาพน้ำมัน ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย และ ค่า Loss
- ค่าปรับคุณภาพน้ำมัน 1.70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
- ค่าขนส่ง World Scale กรุงเทพฯ - สิงคโปร์ (เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล)
- ค่าประกันภัย ร้อยละ 0.084 ของ C&F
- ค่า Loss ร้อยละ 0.5 ของ CIF
- อัตราแลกเปลี่ยน อ้างอิงอัตราขายถัวเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ)
- ใช้ Conversion factor 60 0 F / 86 0 F
§ ราคาไบโอดีเซล (B100) อ้างอิงจากประกาศ กบง. (บาทต่อลิตร)
2. เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 กพช. ได้มีมติเห็นชอบให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วมีส่วนผสมของไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันร้อยละ 2 ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554
3. เพื่อให้หลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วสอดคล้องกับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตามประกาศของ ธพ. ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ดังนี้
ราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว | = | XP1 + (1-X) P2 |
โดยที่ X คือ ร้อยละของไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน ตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงาน
P1 คือ ราคาอ้างอิงไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน ตามประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (บาทต่อลิตร)
P2 คือ ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ (บาทต่อลิตร) โดยคำนวณจากราคา MOPS GO 0.5% + พรีเมียม ที่ 60 0F x อัตราแลกเปลี่ยน/158.984
โดยที่ - ราคา MOPS GO 0.5% คือ ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วซัลเฟอร์ 0.5% จาก Mean of Platt's Singapore (เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล)
- พรีเมียม คือ ค่าปรับคุณภาพน้ำมัน ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย และ ค่า Loss
- ค่าปรับคุณภาพน้ำมัน 1.70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
- ค่าขนส่ง World Scale กรุงเทพฯ - สิงคโปร์ (เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล)
- ค่าประกันภัย ร้อยละ 0.084 ของ C&F
- ค่า Loss ร้อยละ 0.5 ของ CIF
- อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงอัตราขายถัวเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทย(บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ)
- Conversion factor 60 0 F / 86 0 F
มติของที่ประชุม
เห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตามข้อ 3
เรื่องที่ 3 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. กพช. เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 - 3 เดือน โดยมอบหมาย กบง. รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และให้นำเสนอ กพช. ในการพิจารณาต่อไป
2. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2554 กบง. ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 6 ครั้ง โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.15 และ 3.05 บาทต่อลิตร ตามลำดับ โดยกองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ไปแล้วประมาณ 4,629 ล้านบาท คงเหลือเงิน 371 ล้านบาท จะสามารถใช้ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลได้อีกประมาณ 2 วัน (ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554)
3. ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 กพช. ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 โดยมอบหมาย กบง. รับไปดำเนินการ หากฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิเหลืองวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ให้นำเสนอ กพช. เพื่อพิจารณาต่อไป
4. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 มีเงินสดในบัญชี 35,275 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 11,895 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 11,618 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 277 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนน้ำมันฯ จึงมีฐานะสุทธิ 23,380 ล้านบาท
5. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวอยู่ในระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 97.58, 109.17 และ 115.75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 ในประเทศอยู่ที่ระดับ 39.74 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ระดับ 35.44 บาทต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันให้คงราคาอยู่ที่ระดับ 29.99 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และ บี5 อยู่ที่ 0.6852 บาทต่อลิตร และ 0.5609 บาทต่อลิตร ตามลำดับ จากค่าการตลาดที่อยู่ในระดับต่ำอาจทำให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วขึ้นอีก และจะส่งผลให้ราคาขายปลีกเกิน 30.00 บาทต่อลิตร
6. จากค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลที่ยังอยู่ในระดับต่ำ เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลของผู้ค้าน้ำมันไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตร ฝ่ายเลขานุการฯ ขอเสนอปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี3 เพิ่มขึ้นเป็น 1.1852 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 เพิ่มขึ้นเป็น 1.0609 บาทต่อลิตร มีสภาพคล่องจากติดลบ 165 ล้านบาทต่อวัน เป็นติดลบ 194 ล้านบาทต่อวัน และเงินชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจะเพิ่มขึ้นจากประมาณวันละ 170 ล้านบาท เป็นวันละ 197 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จากชดเชย 3.00 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 3.50 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จากชดเชย 3.55 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 4.05 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554 ต่อไป