มติคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 1/2555 (ครั้งที่ 56)
วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2555 เวลา 13.00 น.
ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
1. การลาออกของกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
2. รายงานผลการประเมินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2554
3. รายงานผลการใช้จ่ายเงินและผลที่ได้รับจากการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2554
4. ประมาณการกระแสเงินสดของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2555-255
5. ขอความเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
6. อวามเห็นชอบเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2555
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการ
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
ประธานกรรมการ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าในระหว่างการประชุม อาจจะต้องไปปฏิบัติภารกิจชี้แจงเกี่ยวกับพระราชกำหนด 2 ฉบับ ที่สภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น เพื่อให้การประชุมแล้วเสร็จ ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานทำหน้าที่เป็นประธานแทน
เรื่องที่ 1 การลาออกของกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
1. พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ได้กำหนดให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี
2. คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2553 แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฯ จำนวน 7 ราย ดังนี้
(1) นายสวัสดิ์ ตันตระรัตน์
(2) นายสมชาติ โสภณรณฤทธิ์
(3) นายกฤษณพงศ์ กีรติกร
(4) หม่อมราชวงศ์พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์
(5) นายยอดเยี่ยม เทพธรานนท์
(6) นางสาวพวงเพชร สารคุณ
(7) นายพรายพล คุ้มทรัพย์
3. หม่อมราชวงศ์พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงาน ของกองทุนฯ ได้มีหนังสือลงวันที่ 16 มกราคม 2555 เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 เป็นต้นไป
มติที่ประชุม
รับทราบการลาออกของกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 2 รายงานผลการประเมินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2554
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 มีมติอนุมัติให้หน่วยงานที่มีเงินนอกงบประมาณ ถือปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลเงินนอกงบประมาณอย่างเคร่งครัด โดยมีกระทรวงการคลังร่วมกับ สศช. เป็นผู้ติดตามผลการดำเนินการ และระบบประเมินผลทุนหมุนเวียนของกรมบัญชีกลาง
2. "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ได้เข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนของกรมบัญชีกลาง (บก.) ในปีบัญชี 2549 โดยมีประธานกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน) กับกระทรวงการคลัง
3. บก. ได้มีหนังสือ ลงวันที่ 31 มกราคม 2555 รายงานผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2554 ที่คณะกรรมการจัดทำบันทึกข้อตกลงและประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนให้ความเห็นชอบแล้ว ซึ่งผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ปีบัญชี 2554 โดยภาพรวมอยู่ในระดับ 3.7093 คะแนน สรุปผลการประเมินได้ดังนี้
1) ผลการดำเนินงานด้านการเงิน (15%)
- ตัวชี้วัดที่ 1.1 ร้อยละของงบประมาณที่มีการผูกพันสัญญาต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนฯ ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับร้อยละ 100.00 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
- ตัวชี้วัดที่ 1.2 ค่าใช้จ่ายบริหารที่เกิดขึ้นจริงและผูกพันเทียบกับงบประมาณ ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับร้อยละ 89.77 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 1.0000
2) ผลการดำเนินงานด้านปฏิบัติการ (40%)
- ตัวชี้วัดที่ 2.1 ร้อยละของจำนวนโครงการที่มีการทำสัญญาของแต่ละแผนงานต่อจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดของแต่ละแผนงาน ผลการดำเนินงานโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 3.2105
- ตัวชี้วัดที่ 2.2 ร้อยละความสำเร็จของจำนวนโครงการที่ผูกพันและดำเนินงานได้ตามแผนภายในปีบัญชี 2554 ต่อจำนวนโครงการที่ผูกพันและมีแผนดำเนินงานภายในปีบัญชี ผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 4.8250
- ตัวชี้วัดที่ 2.3 การติดตามประเมินผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ผลการดำเนินงานอยู่ที่ระดับคะแนน 5.0000
3) การสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (15%)
- ตัวชี้วัดที่ 3.1 การจัดทำแผนการปรับปรุงการให้บริการจากผลสำรวจความพึงพอใจและดำเนินการตามแผนฯ ประจำปีบัญชี 2554 ผลการดำเนินงานอยู่ที่ระดับคะแนน 5.0000
4) การบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน (30%)
- ตัวชี้วัดที่ 4.1 บทบาทคณะกรรมการทุนหมุนเวียน ผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 2.3600
- ตัวชี้วัดที่ 4.2 การบริหารความเสี่ยง ผลดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 2.9000
- ตัวชี้วัดที่ 4.3 การควบคุมภายใน ผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 1.8000
- ตัวชี้วัดที่ 4.4 การตรวจสอบภายใน ผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 3.0000
- ตัวชี้วัดที่ 4.5 การบริหารจัดการสารสนเทศ ผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 2.0000
- ตัวชี้วัดที่ 4.6 การบริหารทรัพยากรบุคคล ผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับคะแนน 2.0000
ความเห็น/ข้อเสนอแนะของที่ประชุม
ประธานกรรมการ เห็นว่า ถึงแม้ภาพรวมของผลประเมินการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2554 อยู่ในระดับ 3.7093 คะแนน แต่ยังมีตัวชี้วัดด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียนที่มีคะแนนต่ำ โดยมีค่าน้ำหนักถึง 30% ดังนั้น ฝ่ายเลขานุการฯ ควรจะพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อเพิ่มคะแนนในส่วนของตัวชี้วัดดังกล่าว
มติที่ประชุม
รับทราบรายงานผลการประเมินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2554 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ และให้ฝ่ายเลขานุการฯ พิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานในส่วนของตัวชี้วัดด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียนเพื่อให้มีระดับคะแนนที่ดีขึ้น
เรื่องที่ 3 รายงานผลการใช้จ่ายเงินและผลที่ได้รับจากการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2554
1. คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 และวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 ได้อนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯ ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2554 ในวงเงินรวม 2,703,917,256 บาท ดังนี้
2. พพ. และ สนพ. ได้ใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ดำเนินงานตามแผนพลังงานทดแทน แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และแผนบริหารทางกลยุทธ์ เป็นจำนวนเงิน 1,818,469,221.45 บาท คิดเป็นร้อยละ 67.25 ของงบประมาณรวม คงเหลืองบประมาณที่ต้องคืนกองทุนฯ 885,448,034.55 บาท ดังนี้
2.1 งบประมาณโครงการที่ไม่ได้ดำเนินการและเงินเหลือจ่ายจากโครงการตามแผนพลังงานทดแทน จำนวน 699,515,786.02 บาท ได้แก่
(1) โครงการศูนย์การเรียนรู้พลังงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 จำนวน 457,140,000 บาท
(2) โครงการส่งเสริมการใช้เตาหุงต้มและเตาชีวมวลประสิทธิภาพสูง (จัดซื้อวัสดุเตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง) จำนวน 26,028,000 บาท
(3) โครงการศึกษาและติดตามประเมินผลระบบผลิตก๊าซชีวภาพภายใต้ความร่วมมือของรัฐบาลจีน จำนวน 7,000,000 บาท
(4) เงินเหลือจ่ายจากโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน จำนวน 145,00,000 บาท
(5) เงินเหลือจ่ายจากโครงการสนับสนุนทุนการศึกษา จำนวน 22,360,000 บาท
(6) เงินเหลือจ่ายจากโครงการอื่นๆ จำนวน 41,987,786.02 บาท
2.2 งบประมาณโครงการที่ไม่ได้ดำเนินการและเงินเหลือจ่ายจากโครงการตามแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน จำนวน 185,121,477.43 บาท ประกอบด้วย
(1) โครงการสาธิตเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 2 จำนวน 60,000,000 บาท
(2) เงินเหลือจ่ายจากโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 79,843,588 บาท
(3) เงินเหลือจ่ายจากโครงการสนับสนุนทุนการศึกษา จำนวน 16,960,220 บาท
(4) เงินเหลือจ่ายจากโครงการอื่นๆ จำนวน 28,317,669.43 บาท
2.3 งบประมาณคงเหลือจากแผนบริหารทางกลยุทธ์ จำนวน 810,771.1 บาท
3. การดำเนินงานของกองทุนฯ ภายใต้โครงการที่ผูกพันงบประมาณไว้ คาดว่าเมื่อดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะก่อให้เกิดผลประหยัดรวม 334.1 ktoe/ปี โดยแยกตามแผนงานได้ดังนี้
3.1 แผนพลังงานทดแทน คาดว่าเมื่อดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะก่อให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน 3.10 ktoe/ปี
3.2 แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน คาดว่าเมื่อโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยลดการใช้พลังงานได้ 331 ktoe/ปี
มติที่ประชุม
รับทราบรายงานผลการใช้จ่ายเงินและผลที่ได้รับจากการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2554 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 4 ประมาณการกระแสเงินสดของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2555-2559
ฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 กองทุนฯ มียอดเงินคงเหลือในบัญชี จำนวน 21,710 ล้านบาท ขณะที่มีรายจ่ายผูกพันปี 2548-2554 ซึ่งจะต้องจ่ายในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 ประมาณ 9,710 ล้านบาท จึงทำให้กองทุนฯ มีวงเงินคงเหลือ จำนวน 12,000 ล้านบาท ทั้งนี้ กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 ได้เห็นชอบแนวทางและหลักเกณฑ์การดำเนินงานโครงการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดของกระทรวงพลังงาน ในวงเงิน 10,000 ล้านบาท และจากการวิเคราะห์ระดับรายได้ของกองทุนฯ ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 คาดว่ากองทุนฯ จะมีรายรับประมาณ 7,200-7,500 ล้านบาท/ปี รวมเงินรายได้ 5 ปี เป็นเงิน 37,000 ล้านบาท ดังนี้
มติที่ประชุม
รับทราบประมาณการกระแสเงินสดของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2555-2559 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 5 ขอความเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2554 ได้เห็นชอบแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี (พ.ศ. 2554-2573) โดยมีเป้าหมายลดความเข้มการใช้พลังงาน(energy intensity) ลง 25% ในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2553 หรือต้องลดการใช้พลังงานลงให้ได้อย่างน้อย 38,200 ktoe ของปริมาณการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายทั้งหมดของประเทศ และเห็นชอบแผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี (พ.ศ. 2555-2564) โดยกำหนดให้มีสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นจาก 7,413 ktoe ในปี 2555 เป็น 25,000 ktoe ในปี 2564 หรือคิดเป็น 25% ของการใช้พลังงานรวม ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เสนอ
2. คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2554 ได้เห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 สรุปได้ดังนี้
1) แนวทางการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559
การใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 จะสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินตามมาตรา 25 ของ พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี (พ.ศ.2554-2573) แผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี (พ.ศ. 2555-2564) โดยมีโครงสร้างการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ประกอบด้วยแผนงาน 3 แผน ได้แก่ แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แผนพลังงานทดแทน และแผนบริหารทางกลยุทธ์ ดังนี้
2) กำหนดกรอบการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559
(1) การวิเคราะห์ระดับรายได้ของกองทุนฯ ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 คาดว่ากองทุนฯ จะมีรายรับประมาณ 7,200-7,500 ล้านบาท/ปี รวมเงินรายได้ 5 ปี เป็นเงิน 37,000 ล้านบาท
(2) กำหนดกรอบการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 ในวงเงินปีละ 7,000 ล้านบาท โดยกำหนดสัดส่วนวงเงินการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แผนพลังงานทดแทน และแผนบริหารทางกลยุทธ์ เป็นร้อยละ 50 45 และ 5 ตามลำดับ ดังนี้
3) แนวทางการจัดสรรเงินกองทุนฯ รายปี
การจัดสรรเงินกองทุนฯ รายปี จะดำเนินการตามแนวทาง/หลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนฯ ที่คณะอนุกรรมการกองทุนฯ กำหนดและจะเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
3. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2554 ได้แต่งตั้ง "คณะทำงานพิจารณากลั่นกรองงบประมาณประจำปี 2555 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" โดยมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานคณะทำงาน และเห็นชอบแนวทาง/หลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ดังนี้
(1) การจัดลำดับความสำคัญตามนโยบายและแผน โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องของโครงการกับภารกิจตามเจตนารมณ์ของกองทุนฯ ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ตามยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน ตามแผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และภารกิจตามแผนอนุรักษ์พลังงาน
(2) ระยะเวลาการเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยใช้เป็นเกณฑ์ในการแบ่งช่วงเวลาที่โครงการดังกล่าวสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงหรือขยายผลได้ในอนาคต
(3) ศักยภาพในการขยายผล โดยเน้นโครงการวิจัยและ/หรือดำเนินการแล้วสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงหรือขยายผลได้จริง (Deployment Potential)
(4) โครงการต่อเนื่อง โดยพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ถ้ามีความก้าวหน้าเกินกว่าร้อยละ 50 ของแผนงาน จึงจะได้รับงบประมาณ
(5) งบบริหารแผนการดำเนินงาน จะต้องเป็นภารกิจหรืองานที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ตาม พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
4. สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำและเสนอรายละเอียดงบประมาณกองทุนฯ ปี 2555 ที่สอดคล้องตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี และแผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี แต่เนื่องจากในช่วงการจัดทำคำของบประมาณของกองทุนฯ ปี 2555 ได้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 หน่วยงานจึงต้องพิจารณาทบทวนแผนงานโครงการและปรับปรุงรายละเอียดโครงการ พร้อมทั้งงบประมาณให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้านพลังงาน ประกอบกับปัญหาอุทกภัยในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2554 ส่งผลให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ ล่าช้ากว่าปกติ
5. สนพ. ได้รวบรวมงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ยื่นขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ เพื่อดำเนินโครงการต่างๆ เป็นจำนวนรวม 102 โครงการ ในวงเงินทั้งสิ้น 6,158,358,467 บาท โดยแยกตามแผนงานได้ดังนี้
(1) แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน จำนวน 2,058,045,200 บาท
(2) แผนพลังงานทดแทน จำนวน 3,952,670,165 บาท
(3) แผนบริหารทางกลยุทธ์ จำนวน 147,643,102 บาท
6. คณะทำงานฯ ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรองงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ของกองทุนฯ รวมจำนวนทั้งสิ้น 7 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม - 16 กุมภาพันธ์ 2555 โดยผลการพิจาณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ เห็นควรสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และแผนพลังงานทดแทน เป็นจำนวน 3,020,814,060 บาท รวม 75 โครงการ โดยแบ่งรายจ่ายออกเป็น 2 หน่วยงานผู้เบิกเงินกองทุนฯ ดังนี้
(1) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จำนวน 981,827,188 บาท คิดเป็นร้อยละ 32.50 รวม 50 โครงการ
(2) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จำนวน 2,038,986,872 บาท คิดเป็นร้อยละ 67.50 รวม 25 โครงการ
ตารางสรุปงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555
โดยผลที่คาดว่าจะได้รับจากการสนับสนุนงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในการดำเนินโครงการต่างๆ ภายใต้แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและแผนพลังงานทดแทน จะสามารถให้ผลประหยัดพลังงานได้ไม่น้อยกว่า 231.68 ktoe
7. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมครั้งที่ 1/2555 (ครั้งที่ 29) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2555 ได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ และมีมติ ดังนี้
1) เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ เป็นจำนวน 3,020,814,060 บาท
2) เห็นชอบให้เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาให้ค่าใช้จ่ายในงานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554 โดยให้แต่ละหน่วยงานสามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในหมวดต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
3) ให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ ต่อไป
8. ฝ่ายเลขานุการฯ ขอเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณา ดังนี้
1) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ เป็นจำนวน 3,020,814,060 บาท ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ โดยให้เบิกจ่ายเงินจากกองทุนฯ ได้ ภายหลังที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 แล้ว
2) เห็นชอบตามข้อเสนอที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ ดังนี้
(1) ให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ งานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เนื่องจาก พพ. และ สนพ. มีงานบริหารเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานที่ต้องดำเนินงานต่อเนื่อง เช่น การเบิกจ่ายเงินให้หน่วยงาน โครงการ ตามข้อผูกพันสัญญาฯ การประสานหน่วยงาน โรงงาน อาคาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอนุรักษ์พลังงาน ฯลฯ จึงมีรายจ่ายประจำที่จำเป็นเพื่อการบริหารงานที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น ค่าจ้างพนักงานราชการ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปให้ความรู้ความเข้าใจ การร่วมประชุมให้ความเห็น ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
(2) การพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการภายใต้งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในวงเงิน 200 ล้านบาท และพลังงานทดแทน ในวงเงิน 200 ล้านบาท ในส่วนที่ สนพ. รับผิดชอบ ขอเสนอวิธีการดำเนินงานในลักษณะเดียวกับปีงบประมาณ 2554 คือ ให้ สนพ. ทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองรายละเอียดของโครงการที่มีผู้ยื่นขอรับการสนับสนุน ตามรายละเอียดการของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ก่อนเสนอต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ พิจารณาเห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนฯ ภายในวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท ทั้งนี้ หากวงเงินที่ขอรับการสนับสนุนเกิน 50 ล้านบาท ให้เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาเห็นชอบก่อนดำเนินโครงการต่อไป
(3) เพื่อให้งานประชาสัมพันธ์มีความเป็นเอกภาพ และมีทิศทางการปฏิบัติไปในแนวเดียวกัน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายโครงการประชาสัมพันธ์ในแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและแผนพลังงานทดแทน ไว้เป็นกรอบวงเงินแผนงานละ 350,000,000 บาท รวมเป็นเงิน 700,000,000 บาท โดยให้ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารของกระทรวงพลังงาน" ที่ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน และให้สามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในแผนงาน/งานเดียวกันได้ ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เห็นชอบแล้ว ให้เสนอต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อนดำเนินโครงการต่อไป และให้กระทรวงพลังงานดำเนินการประเมินผลการประชาสัมพันธ์ที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนฯ ต่อไปด้วย
การพิจารณาของที่ประชุม
ที่ประชุมได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานแล้ว มีความเห็น ดังนี้
1. ประธานกรรมการ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ต้องไปปฏิบัติภารกิจชี้แจงเกี่ยวกับพระราชกำหนด 2 ฉบับ ที่สภาผู้แทนราษฎร จึงขอมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทำหน้าที่ประธานกรรมการกองทุนฯ แทน แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีข้อสังเกตในงบประมาณรายจ่ายด้านการประชาสัมพันธ์ ควรให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน เพื่อขับเคลื่อนทิศทางตามนโยบายรัฐบาล ในการดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การปรับราคาพลังงาน ราคาก๊าซหุงต้ม ให้เป็นไปตามกลไกของราคาตลาด โดยให้นำข้อมูลที่เป็นจริงมาสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าราคาพลังงานในประเทศเป็นไปตามราคาของตลาดต่างประเทศ
2. ผู้แทนกรมบัญชีกลาง มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ของกองทุนฯ ในงานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ได้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับของการบริหารเงินกองทุนฯ หรือไม่
3. เลขานุการฯ ได้ชี้แจงว่า เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายปี 2555 ได้เสนอเพื่อพิจารณาล่าช้า แต่ พพ. และ สนพ. มีงานบริหารเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานที่ต้องดำเนินงานต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องขออนุมัติงบประมาณเฉพาะในส่วนของงานบริหารย้อนหลังตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554
4. ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ได้อิงตาม พรบ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 และระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นการเบิกจ่ายตามระเบียบในข้อ 11 รายจ่ายตามประมาณการรายจ่ายประจำปี ซึ่งเป็นไปตามปีงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554
5. ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ได้ให้ความเห็นว่า ตามระเบียบกองทุนฯ ข้อ 15 วรรค 2 กรณีที่งบประมาณประจำปีของกองทุนฯ ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ให้นำเงินทดรองจ่ายไปจ่ายเป็นค่าบริหารงานกองทุนที่จำเป็นและเร่งด่วนตามกรอบงบประมาณการรายจ่ายประจำปีที่ผ่านมาได้ไปพลางก่อนภายในวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติ ดังนั้น จึงเห็นควรปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับระเบียบฯ ข้อ 15
6. ปลัดกระทรวงพลังงานฯ ชี้แจงว่า การปฏิบัติที่ผ่านมา กองทุนฯ มีการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบของกองทุนฯ โดยไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณหลังวันที่ 30 กันยายน อย่างไรก็ตาม ขอรับข้อสังเกตของผู้แทนกรมบัญชีกลาง มาปรับภาษา/ถ้อยคำให้สอดคล้องกับระเบียบฯ ข้อ 15 ต่อไป
7. ผู้แทนกระทรวงการคลัง ได้สอบถามถึงโครงการทั้ง 75 โครงการ ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ หรือไม่ และเหตุใดไม่มีการของบประมาณในแผนบริหารทางกลยุทธ์ ให้ พพ. ซึ่ง เลขานุการฯ ได้ชี้แจงว่า โดยปกติแล้ว แผนบริหารทางกลยุทธ์ สนพ. จะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วน พพ. จะใช้งบประมาณในส่วนของงานบริหารแผนงาน ทั้งในแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และแผนพลังงานแทน เพื่อใช้ในการบริหารโครงการ
8. นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ได้ให้ข้อสังเกตในงบประมาณรายจ่ายปี 2555 ของกองทุนฯ ดังนี้
1) การอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ จำนวน 3,020.81 ล้านบาท ค่อนข้างต่ำ หากเปรียบเทียบกับประมาณการรายรับปีละประมาณ 7,000 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับความเร่งด่วนในเรื่องแผนอนุรักษ์พลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการพัฒนาพลังงานทดแทน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และมีการปรับเป้าหมายการใช้พลังงานทดแทนให้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงาน จึงเห็นว่า ควรเร่งรัดให้มีการใช้เงินเพื่อดำเนินงานตามแผนงานให้มากขึ้น เนื่องจากจะทำให้สูญเสียประโยชน์ที่อาจจะได้รับถ้าหากมีการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ แล้วไม่นำเงินดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และควรจะพยายามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ โดยคำนึงถึงความเร่งด่วนของปัญหาราคาน้ำมันแพง ซึ่งทำให้ต้องประหยัด รวมทั้งต้องเร่งรัดการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น
2) โครงการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคขนส่งส่วนใหญ่ เน้นในเรื่องระบบขนส่งทางถนน จึงเห็นว่า ควรพยายามให้มีการใช้ระบบราง หรือการขนส่งทางน้ำมากขึ้น โดยเฉพาะในการขนส่งสินค้า และสำหรับโครงการทบทวนการศึกษาวิจัยเพื่อการจัดทำมาตรฐานการประหยัดพลังงานในรถยนต์ เห็นว่าเป็นการจัดทำมาตรฐานในรถยนต์ขนาดเล็ก ดังนั้น ในอนาคตควรมีการจัดทำมาตรฐานการประหยัดพลังงานสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ด้วย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคการขนส่ง
3) โครงการในปี 2555 ไม่ค่อยมีการส่งเสริมเรื่องเชื้อเพลิงชีวภาพ (Bio-fuel) ทั้งไบโอดีเซล และเอทานอล ซึ่งเห็นว่าควรเพิ่มการวิจัยและพัฒนาในเรื่องนี้ เนื่องจากมีความสำคัญ และในปัจจุบันมีการผลิตและการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีเทคโนโลยีและพืชพลังงานใหม่ที่สามารถนำมาผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพได้ นอกเหนือจาก อ้อย มันสำปะหลัง หรือปาล์มน้ำมัน
9. ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงว่า เนื่องจากความล่าช้าในการเสนอและพิจารณางบประมาณปี 2555 ทำให้มีระยะเวลาเหลือสำหรับดำเนินงานประมาณ 7 เดือน จึงมีการปรับลดงบประมาณให้สอดคล้องกับระยะเวลา และโครงการที่คณะทำงานฯ ไม่เห็นชอบ จำนวน 21 โครงการ เป็นโครงการที่มีลำดับความสำคัญต่ำ (Low Priority) สำหรับโครงการที่เห็นควรสนับสนุนทั้ง 75 โครงการ เป็นการจัดทำโครงการในลักษณะ Business as usual คือเป็นการจัดทำโครงการโดยระดับกอง/สำนัก เป็นผู้จัดทำ ยังไม่ได้เป็นการจัดทำโครงการโดยการขับเคลื่อนจากนโยบายของภาครัฐ (Top Down Policy) แต่สำหรับการจัดทำงบประมาณรอบใหม่ จะเน้นในลักษณะของการ Top Down โดยเน้นโครงการที่เป็นไปตามนโยบายจากภาครัฐที่ก่อให้เกิดผลกระทบ/ผลสำเร็จ (Impact) สูง สำหรับนโยบายการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งทางถนนมาสู่ระบบรางและทางน้ำ (Shift Mode) ปลัดกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า เป็นสิ่งที่กระทรวงพลังงานพยายามทำมาโดยตลอด แต่เนื่องจากขาดการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และกระทรวงคมนาคม ทำให้ไม่มีการดำเนินโครงการลักษณะนี้ ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงพลังงาน ขอรับข้อสังเกตของ นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ในเรื่องอื่น เพื่อนำไปใช้ประกอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2556 ต่อไป
10. ผู้แทนกรมบัญชีกลางได้มีข้อสังเกต กรณีข้อสังเกตของฝ่ายเลขานุการ เกี่ยวกับการพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการภายใต้งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในวงเงิน 200 ล้านบาท และพลังงานทดแทน ในวงเงิน 200 ล้านบาท ในส่วนที่ สนพ. รับผิดชอบ ที่เสนอให้ใช้วิธีการดำเนินงานในลักษณะเดียวกับปีงบประมาณ 2554 โดยเห็นว่าควรเพิ่มเติมเหตุผลหรือความจำเป็นที่จะต้องใช้การดำเนินงานในลักษณะเดียวกับปีงบประมาณ 2554 เช่น เพื่อให้เกิดความคล่องตัว เพื่อให้มีน้ำหนักและเป็นเหตุเป็นผลถึงสาเหตุที่คณะกรรมการฯ ได้มอบเงิน 200 ล้านบาท ให้เป็นภาระของหน่วยงานในการดำเนินงาน ซึ่งเลขานุการฯ ได้ชี้แจงว่า จะขอรับข้อสังเกตของผู้แทนกรมบัญชีกลางไปดำเนินการต่อไป
มติที่ประชุม
1. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ เป็นจำนวน 3,020,814,060 บาท ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ โดยให้เบิกจ่ายเงินจากกองทุนฯ ได้ ภายหลังที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 แล้ว
2. เห็นชอบตามข้อเสนอที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ ดังนี้
(1) ให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกองทุนฯ งานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน เบิกจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554
(2) ให้โครงการภายใต้งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในวงเงิน 200 ล้านบาท และพลังงานทดแทน ในวงเงิน 200 ล้านบาท ในส่วนที่ สนพ. รับผิดชอบ ใช้วิธีการดำเนินงานในลักษณะเดียวกับปีงบประมาณ 2554 คือ ให้ สนพ. ทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองรายละเอียดของโครงการที่มีผู้ยื่นขอรับการสนับสนุน ตามรายละเอียดการของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ก่อนเสนอต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ พิจารณาเห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนฯ ภายในวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท ทั้งนี้ หากวงเงินที่ขอรับการสนับสนุนเกิน 50 ล้านบาท ให้เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาเห็นชอบก่อนดำเนินโครงการต่อไป
(3) ให้งบประมาณรายจ่ายโครงการประชาสัมพันธ์ในแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและแผนพลังงานทดแทน ไว้เป็นกรอบวงเงินแผนงานละ 350,000,000 บาท รวมเป็นเงิน 700,000,000 บาท โดยให้ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารของกระทรวงพลังงาน" ที่ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน และให้สามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในแผนงาน/งานเดียวกันได้ ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เห็นชอบแล้ว ให้เสนอต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อนดำเนินโครงการต่อไป และให้กระทรวงพลังงานดำเนินการประเมินผลการประชาสัมพันธ์ที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนฯ ต่อไปด้วย
เรื่องที่ 6 ขอวามเห็นชอบเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2555
1. การประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน เป็นการปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลเงินนอกงบประมาณของกระทรวงการคลัง โดยมีกระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นผู้ติดตามผลการดำเนินการ และระบบประเมินผลทุนหมุนเวียนของกรมบัญชีกลางเริ่มใช้ตั้งแต่ปีบัญชี 2547 เป็นต้นมา โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้เข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงานตั้งแต่ปีงบประมาณ 2549
2. คณะกรรมการกองทุนฯ ได้แต่งตั้ง "คณะทำงานเตรียมการเพื่อดำเนินการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน)" โดยมีปลัดกระทรวงพลังงาน หรือรองปลัดกระทรวงพลังงานที่ปลัดกระทรวงพลังงานมอบหมาย เป็นประธานคณะทำงานฯ เพื่อดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน
3. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้มีการประชุมหารือเพื่อพิจารณาตัวชี้วัดของกองทุนฯ ประกอบด้วย ผู้แทนกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เพื่อจัดทำร่างเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2555 และที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ดำเนินการเจรจาต่อรองกับเจ้าหน้าที่ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงน้ำหนักและยกเลิกตัวชี้วัดตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
4. กรมบัญชีกลาง ได้เสนอเรื่อง "การลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2555" ต่อคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอให้ประธานกรรมการกองทุนฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานฯ
5. บันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2555 มีความสอดคล้องกับร่างเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2555 ซึ่งจะประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน 4 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ดังนี้
มติที่ประชุม
เห็นชอบเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2555 และมอบหมายให้ประธานกรรมการกองทุนฯ ลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2555 กับกระทรวงการคลัง