มติการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 10/2564 (ครั้งที่ 32)
วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2564
1. มาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น
ผู้มาประชุม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ
(นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
(นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท)
เรื่องที่1 มาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเห็นชอบให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 จาก 1.00 บาทต่อลิตรเป็น 0.01 บาทต่อลิตร ให้มีผลก่อนวันที่ประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ .... มีผลบังคับใช้ และเห็นชอบแนวทางการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยปรับลดสัดส่วนผสมขั้นต่ำของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา เป็นร้อยละ 6 โดยปริมาตรและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ มอบกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ. …. และมอบ สกนช.นำเสนอ กบน. ให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาโดยให้ส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 เท่ากับ 0.25 บาทต่อลิตร และให้มีผลตั้งแต่วันที่ประกาศ ธพ. เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ .... มีผลบังคับใช้และเห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตามข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงของฝ่ายเลขานุการฯ ทั้งนี้ ให้มีผลนับจากวันที่ประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ. …. ของ ธพ. มีผลบังคับใช้ และเห็นชอบค่าการตลาดของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วแต่ละชนิดเท่ากับ 1.40 บาทต่อลิตรเพื่อใช้อ้างอิงในการกำกับดูแลความเหมาะของราคาขายปลีก ในระหว่างการใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ทั้งนี้ มอบ สกนช. ติดตามและกำกับให้ค่าการตลาดของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วแต่ละชนิดอยู่ในช่วง 1.40 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริการจัดการอัตราเงินกองทุน และมอบฝ่ายเลขานุการฯ ติดตามการดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและจัดทำแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาวนำเสนอต่อ กบง. พิจารณาต่อไป
2. การดำเนินการตามมติกบง. เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 กระทรวงพลังงานได้มีการดำเนินตามมติ ดังนี้ (1) ธพ. ได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2564 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2564 โดยปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลอัตราต่ำในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 จากเดิมร้อยละ 9.0 และ 6.6 เป็น 6.0 ทั้ง 2 ชนิด (2) สกนช. ได้ออกประกาศ กบน. 2 ฉบับ ดังนี้ ฉบับที่ 21 พ.ศ. 2564เรื่อง การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุนและอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2564 โดยปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 จาก 1.00 บาทต่อลิตร เป็น 0.01 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านบาทต่อวัน จำนวนทั้งสิ้น 179 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2564 จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และฉบับที่ 22 พ.ศ. 2564 เรื่อง การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนอัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุนและอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2564 โดยปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 จาก ติดลบ 2.50 และ 0.01 บาทต่อลิตร ตามลำดับ เป็น ติดลบ 1.99 บาทต่อลิตร ทั้ง 2 ชนิด โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยเพิ่มขึ้นประมาณ 52 ล้านบาทต่อวัน จำนวนทั้งสิ้น 467 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2564 จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว (3) สนพ. ติดตามค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 0.50 บาทต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่าค่าการตลาดที่กบง. กำหนดที่ 1.40 บาทต่อลิตร และติดตามราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซล ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 มีการปรับราคาลง 3 ครั้งโดย 2 ครั้งแรก น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ปรับลดครั้งละ 1.00 และ 2.00 บาทต่อลิตร เป็นผลมาจากการปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และมีการปรับราคาขึ้น 2 ครั้ง ของกลุ่มน้ำมันดีเซล ครั้งละ 0.60 บาทต่อลิตร เป็นผลมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 10 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 อยู่ที่ 29.29 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20อยู่ที่ 29.04 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทน้ำมันรายอื่นให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว แต่เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีการปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลมากกว่าของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) เนื่องจากค่าการตลาดอยู่ในระดับต่ำ
3. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติและได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อสรุปมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนี้ (1) ให้คงชนิดน้ำมันกลุ่มดีเซล 3 ชนิด ประกอบด้วยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 บี10 และ บี 20 (2) กำหนดส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 อยู่ที่ 0.15 บาทต่อลิตร และส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี7 กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 อยู่ที่ 0.25 บาทต่อลิตร และ (3) กำกับให้ค่าการตลาดกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร โดยให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีแนวทางดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนี้ (1) ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร หรือที่ราคาน้ำมันดิบดูไบไม่เกิน 87.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (2) ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่ง ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2564 ฐานะกองทุนอยู่ที่ 9,207 ล้านบาท รวมถึงกู้ยืมเงินในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ตามมาตรา 26แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซล (3) ในกรณีราคาน้ำมันดิบดูไบเกิน 87.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือสถานภาพกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เพียงพอที่จะรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรแล้ว ให้ประสานกระทรวงการคลังเพื่อปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตเป็นลำดับต่อไป
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนี้
1.1 กำหนดให้มีน้ำมันเชื้อเพลิง 3 ชนิด คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 โดยให้กำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสมตามปกติ ดังนี้ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 9 และไม่สูงกว่าร้อยละ 10 โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 19 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
1.2 กำหนดส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา อยู่ที่ 0.15 บาทต่อลิตร และส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 อยู่ที่ 0.25 บาทต่อลิตร
1.3 คงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
2. เห็นชอบแนวทางดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนี้
2.1 ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร หรือที่ราคาน้ำมันดิบดูไบไม่เกิน 87.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
2.2 ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงกู้ยืมเงินในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซล
2.3 ในกรณีราคาน้ำมันดิบดูไบเกิน 87.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือสถานภาพกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เพียงพอที่จะรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรแล้วให้ประสานกระทรวงการคลังเพื่อปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตเป็นลำดับต่อไป
3. มอบกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ. ….
4. มอบฝ่ายเลขานุการฯ ประสานสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) พิจารณาปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลให้ส่วนต่างราคาขายปลีกของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลเป็นไปตามข้อ 1.2 และข้อ 2
5. มอบฝ่ายเลขานุการฯ ประสาน สกนช. นำเสนอ กบน. ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริหารจัดการอัตราเงินกองทุน เพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลแต่ละชนิดไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร