มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 10/2552 (ครั้งที่ 47)
เมื่อวันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 เวลา 13.00 น.
ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 3
1. แนวทางการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดผลกระทบจากการเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
ประธานฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันขึ้นในช่วงเวลานี้ กระทรวงพลังงานเห็นว่าควรใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงได้เชิญกรรมการมาประชุมเร่งด่วนในวันนี้
เรื่องที่ 1 แนวทางการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดผลกระทบจากการเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
ประธานฯ ได้ชี้แจงว่าขอให้การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมลับ เนื่องจากคาดการณ์ว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ รัฐบาลอาจมีความจำเป็นต้องออกพระราชกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยปัจจุบันเพดานภาษีสรรพสามิตน้ำมันอยู่ในระดับเต็มพิกัดตามที่กฎหมายเดิมกำหนดไว้ ซึ่งภาครัฐต้องการขยายเพดานภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพื่อเรียกเก็บเพิ่มขึ้นสำหรับเพิ่มรายได้ให้กับรัฐ โดยยังไม่ได้กำหนดอัตราที่จะ เรียกเก็บเพิ่มขึ้นที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม หากปรับภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพิ่มขึ้น แล้วปล่อยให้เป็นไปตาม กลไกตลาด ราคาขายปลีกน้ำมันจะเพิ่มขึ้นและจะต้องมีการตรวจสต็อกน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชน รวมทั้งอาจมีการกักตุนและเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำมันขึ้นได้
กระทรวงพลังงานจึงขอหารือเพื่อหาแนวทางในการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่จะปรับเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยการปรับลดอัตราเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ เท่ากับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้น แล้วจึงทยอยปรับเพิ่มอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ภายหลัง จนครบจำนวนที่ปรับลดลง
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบในหลักการให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อมิให้ราคาขายปลีกน้ำมันเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในฐานะประธานกรรมการบริหารนโยบายพลังงานสั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศต่อไป
2. หากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในช่วงขาลง มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ไม่เกินครั้งละ 0.80 บาทต่อลิตร ถ้าหากกรณีมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมัน ให้นำเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานพิจารณาอีกครั้ง