มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 3/2557 (ครั้งที่ 3)
วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.30 น.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายณรงค์ชัย อัครเศรณี กรรมการและเป็นประธานที่ประชุม
รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายสุชาลี สุมามาลย์ เป็นกรรมการและเลขานุการ(แทน)
เรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. กบง. ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 E20 และน้ำมันดีเซลขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 E20 และน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ 3.2801 1.6851 1.7248 1.6266 และ 1.7323 บาทต่อลิตร ตามลำดับ
2. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2557 เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2557 พบว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง 6.09 8.43 และ 6.08 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 59.81 70.65 และ 76.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราวันที่ 12 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ 32.9417 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 0.1050 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และราคาไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันของวันที่ 15 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ 34.14 บาทต่อลิตร ลดลง 0.46 บาทต่อลิตร เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 1 ธันวาคม 2557 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2557 ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน กลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซลลงทั้งหมด 3 ครั้ง โดยน้ำมันเบนซิน และกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล ยกเว้น E85 ลดลงทั้งสิ้น 1.40 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลดลงทั้งสิ้น 1.50 บาทต่อลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ลดลงทั้งสิ้น 0.20 บาทต่อลิตร จากราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง และผู้ค้าน้ำมันปรับลดราคาขายปลีกลง ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล 95E10 91E10 E20 E85 และน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ 4.5047 2.7032 2.7414 2.4381 2.9017 และ 2.4323 บาทต่อลิตร ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าค่าการตลาดที่เหมาะสม
3. เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2557 กพช. ได้เห็นชอบกรอบและแนวทางในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้ (1) ราคาพลังงานต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง (2) ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ขนส่งแต่ละประเภทควรจะมีอัตราภาษีสรรพสามิตที่ใกล้เคียงกัน (3) กองทุนน้ำมันฯ ใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาและส่งเสริมพลังงานทดแทน (4) ลดการชดเชยข้ามประเภทเชื้อเพลิง (5) ค่าการตลาดควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม (6) ช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และ (7) เก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละประเภทในอัตราที่ใกล้เคียงกันตามค่าความร้อน และเพื่อให้เป็นไปตามมติดังกล่าว ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอ ดังนี้ (1) ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล ยกเว้นน้ำมันแก๊สโซฮอล 95E85 ลง 2.00 บาทต่อลิตร โดยมาจากการปรับลดค่าการตลาดลงประมาณ 1.00 บาทต่อลิตร และปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลง 1.00 บาทต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2557 (2) ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล 95E85 ลง 2.00 บาทต่อลิตร โดยมาจากการปรับลดค่าการตลาดลงประมาณ 2.00 บาทต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2557 (3) ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 1.00 บาทต่อลิตร โดยมาจากการปรับลดค่าการตลาดลงประมาณ 0.70 บาทต่อลิตร และปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลง 0.30 บาทต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2557 และปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซลขึ้น 2.50 บาทต่อลิตร จากเดิม 0.75 บาทต่อลิตร เป็น 3.25 บาทต่อลิตร และปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในอัตราที่เท่ากับภาษีสรรพสามิตและภาษีเทศบาลที่ปรับเพิ่มขึ้น เท่ากับ 2.75 บาทต่อลิตร (ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 2.50 บาทต่อลิตร และภาษีเทศบาล 0.25 บาทต่อลิตร) โดยให้มีผลวันเดียวกับวันที่มีการปรับภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
ดังนั้น เพื่อรักษาค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเพื่อให้เป็นไปตาม มติ กพช. ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและกลุ่มน้ำมัน แก๊สโซฮอลลง 1.00 บาทต่อลิตร ยกเว้น E85 และน้ำมันดีเซลลง 0.30 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2557 เป็นต้นไป และขอเสนอให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 2.75 บาทต่อลิตร จาก 4.50 บาทต่อลิตร เป็น 1.75 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่มีการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซล ซึ่งผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องลดลงประมาณวันละ 183.11 ล้านบาท หรือ 5,493 ล้านบาทต่อเดือน จากมีรายรับ 10,102 ล้านบาทต่อเดือน เป็นมีรายรับ 4,609 ล้านบาทต่อเดือน และผลจากการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซล จะทำให้มีรายได้ภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 3,952 ล้านบาทต่อเดือน จากมีรายรับ 5,485 ล้านบาทต่อเดือน เป็นมีรายรับ 9,437 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2557 มีทรัพย์สินรวม 24,819 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 12,280 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิ 12,539 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2557 เป็นต้นไป
2. เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 2.75 บาทต่อลิตร จาก 4.50 บาทต่อลิตร เป็น 1.75 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่มีการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซล