มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 18/2555 (ครั้งที่ 115)
วันศุกร์ที่ 6 กรกฏาคม 2555 เวลา 16.00 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
1.1 น้ำมันดีเซล การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง.พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร
1.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอล การปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับเพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าวให้คำนึงถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ภาวะเงินเฟ้อของประเทศ การส่งเสริมพลังงานทดแทนและฐานะกองทุนน้ำมันฯ
2. กบง. ได้มีมติปรับเพิ่มอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปแล้ว 7 ครั้ง ดังนี้
ชนิดน้ำมัน/วันที่ประชุม | เดิม | 24 พ.ค.55 | 1 มิ.ย.55 | 5 มิ.ย.55 | 13 มิ.ย.55 | 21 มิ.ย.55 | 22 มิ.ย.55 | 4 ก.ค.55 |
น้ำมันเบนซิน 95 | 4.00 | 4.50 | 5.00 | 5.90 | 6.40 | 6.70 | 7.10 | 7.10 |
น้ำมันเบนซิน 91 | 4.00 | 4.50 | 5.00 | 5.90 | 6.40 | 6.70 | 7.10 | 7.10 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 | 2.20 | 2.20 | 2.20 | 2.50 | 3.00 | 3.30 | 3.30 | 3.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 | 0.60 | 0.60 | 0.60 | 0.90 | 1.40 | 1.70 | 1.70 | 1.70 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 | -0.80 | -0.80 | -0.80 | -0.50 | -0.50 | -0.20 | -0.20 | -0.20 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 | -12.60 | -12.60 | -12.60 | -12.30 | -12.30 | -12.00 | -12.00 | -12.00 |
น้ำมันดีเซล | 0.60 | 0.90 | 1.20 | 2.10 | 2.10 | 2.40 | 2.80 | 2.30 |
มีผลบังคับใช้ | 25 พ.ค.55 | 2 มิ.ย.55 | 6 มิ.ย.55 | 14 มิ.ย.55 | 22 มิ.ย.55 | 23 มิ.ย.55 | 5 ก.ค.55 |
3. ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาปิดตลาด ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2555 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 98.19, 108.64 และ 114.50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ ปรับเพิ่มขึ้นจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2555 (ราคาปิดตลาดวันที่ 3 กรกฎาคม 2555) เท่ากับ 2.83, 3.33 และ 2.49 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มสูงตาม ซึ่งผู้ค้าน้ำมันได้ปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2555 โดยมีราคาขายปลีกน้ำมันและค่าการตลาด ตามโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2555 ดังนี้
4. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 มีทรัพย์สินรวม 7,457 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 25,418 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 15,247 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 171 ล้านบาท และเงินกู้ยืม 10,000 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิติดลบ 17,961 ล้านบาท
5. เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้กระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสาร ฝ่ายเลขานุการฯ ได้ขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซล ลง 0.30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกยังคงอยู่ที่ 29.83 บาทต่อลิตร และกองทุนน้ำมันฯ จะมีรายรับลดลงประมาณวันละ 17 ล้านบาท จากวันละ 192 ล้านบาท เป็นวันละ 175 ล้านบาท โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รับไปดำเนินการออกประกาศ กบง. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลลง 0.30 บาทต่อลิตร จาก 2.30 บาทต่อลิตร เป็น 2.00 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป