มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 5/2554 (ครั้งที่ 63)
เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 14.00 น.
ณ ห้องประชุม 5 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 - 3 เดือน โดยมอบหมายคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และให้นำเสนอ กพช. พิจารณาต่อไป
2. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 กบง. ได้ปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วรวม 4 ครั้ง โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 2.10 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 2.00 บาทต่อลิตร
3. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 กบง. ได้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 อีก 0.65 บาทต่อลิตร มีผลทำให้อัตราเงินชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 อยู่ที่ 2.60 และ 3.15 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมันชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีก โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ยังคงอยู่ที่ระดับ 29.99 บาทต่อลิตร
4. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วประมาณ 3,436 ล้านบาท ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 กองทุนน้ำมันฯ มีเงินสดในบัญชี 35,275 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 11,895 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 11,618 ล้านบาท และงบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 277 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 23,380 ล้านบาท
5. ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 ราคาน้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 97.14, 110.41 และ 113.47 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ ปรับเพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 มกราคม 2554 ประมาณ 2.69, 3.27 และ 2.75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร มีผลวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 โดยราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ระดับ 39.74 และ 35.44 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ส่วนราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 สนพ. ได้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันให้คงราคาอยู่ที่ระดับเดิมคือ 29.99 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และ บี5 อยู่ที่ 0.7675 บาทต่อลิตร และ 0.7147 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ในสถานการณ์ปัจจุบันหากไม่มีการพิจารณาปรับเงินชดเชยใหม่ อาจทำให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วขึ้นอีก ส่งผลให้ราคาขายปลีกเกิน 30.00 บาทต่อลิตร
6. จากค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลที่ยังอยู่ในระดับต่ำ เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลของผู้ค้าน้ำมันไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตร ฝ่ายเลขานุการฯ ขอเสนอปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี3 เพิ่มขึ้นเป็น 1.1675 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 เพิ่มขึ้นเป็น 1.1147 บาทต่อลิตร และส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องจากติดลบ 143 ล้านบาทต่อวัน เป็นติดลบ 165 ล้านบาทต่อวัน และเงินชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจะเพิ่มขึ้นจากประมาณวันละ 148 ล้านบาท เป็นวันละ 170 ล้านบาท จากวงเงินที่เหลือประมาณ 1,564 ล้านบาท จะสามารถชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วได้ประมาณ 9 วัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จากชดเชย 2.60 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 3.00 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จากชดเชย 3.15 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 3.55 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2554 ต่อไป