Super User
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 10-16 ธันวาคม 2550
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 27 สิงหาคม - 2 กันยายน 2550
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 21 กรกฎาคม 2549
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 17-23 ธันวาคม 2550
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 24 กรกฎาคม 2549
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 24-31 ธันวาคม 2550
กบง. ครั้งที่ 150 - วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 16/2556 (ครั้งที่ 150)
วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.00 น.
ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน นายนที ทับมณี เป็นกรรมการและเลขานุการ แทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1.รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ข้อ 1.7.3 ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคและผู้ผลิต และ ข้อ 3.5.3 กำกับราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม เป็นธรรมและมุ่งสู่การสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยปรับบทบาทกองทุนน้ำมันฯ ให้เป็นกองทุนสำหรับรักษาเสถียรภาพราคา ส่วนการชดเชยราคานั้นจะดำเนินการอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติมากขึ้นในภาคขนส่งและส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอลและไบโอดีเซลในภาคครัวเรือน
2. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
2.1 น้ำมันดีเซล การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง. พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร
2.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอล การปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับ เพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
3. เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 กบง. ได้พิจารณาโครงสร้างราคาและค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 0.9442 บาทต่อลิตร และได้มีมติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลลง 0.60 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่เปลี่ยนแปลง และโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2556 เป็นดังนี้
4. ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาด ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2556 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 99.40, 115.98 และ 116.14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลง 2.10 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.12 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง 2.75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากผลการประชุมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 (ราคาปิดตลาดวันที่ 20 พฤษภาคม 2556) ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2556 อยู่ที่ 30.0591 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลง (0.0484 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ) จากวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 อยู่ที่ 30.0107 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ผู้ค้าน้ำมันฯ ไม่มีการปรับราคาขายปลีกตั้งแต่วันที่ 21 – 28 พฤษภาคม 2556
5. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2556 มีทรัพย์สินรวม 12,313 ล้านบาท หนี้สินรวม 14,338 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิติดลบ 2,024 ล้านบาท
6. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของค่าการตลาดตามโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ดังนี้
โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2556
จากโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว พบว่าค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอลอยู่ในระดับต่ำ และค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับสูง ดังนั้น เพื่อให้ค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราส่งเงินเข้ากองทุนฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล E10 ลง 0.40 บาทต่อลิตร ปรับลดอัตราเงินเข้ากองทุนฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และ E85 ลง 0.60 บาทต่อลิตร และปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซล ขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.57 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดเฉลี่ยกลุ่มเบนซินอยู่ที่ประมาณ 1.71 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1.61 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ จะมีรายรับเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 13.74 ล้านบาท จากรายรับวันละ 180.85 ล้านบาท เป็นรายรับวันละ 194.59 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล ดังนี้
(หน่วย : บาทต่อลิตร) | |||
ชนิดน้ำมัน | เดิม | ใหม่ | เปลี่ยนแปลง(+/-) |
น้ำมันเบนซิน 95 | 9.70 | 9.70 | - |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 | 3.80 | 3.50 | -0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 | 1.70 | 1.40 | -0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 | -0.40 | -0.90 | -0.50 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 | -10.90 | -11.40 | -0.50 |
น้ำมันดีเซล | 3.00 | 3.40 | +0.40 |
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป