สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง (2 – 8 พฤศจิกายน 2563)
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนคาดหวังที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐฯ ประกอบกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งในสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงหลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้รับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเซตา ทั้งนี้ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม หรือคงระดับการลดกำลังการผลิตที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในปีหน้า อีกทั้งความเคลื่อนไหวของกลุ่มโอเปกพลัส หลังจากซาอุดีอาระเบียแสดงท่าทีสนับสนุนการปรับนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส เนื่องจากคาดว่าการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโจ ไบเดน จะส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านลดลง ซึ่งจะทำให้อิหร่านเพิ่มการส่งออกน้ำมันในตลาดและอาจทำให้ตลาดเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาด อย่างไรก็ตามตลาดยังคงกังวลกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายประเทศในทวีปยุโรปประกาศมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง
สถานการณ์ราคาน้ำมันโลก: ราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ $39.35 และ $37.91 ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว $0.48 และ $0.41 ต่อบาร์เรล ตามลำดับ
• กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร มีแนวโน้มที่จะรักษาการปรับลดกำลังการผลิตในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากอุปสงค์การใช้น้ำมันดิบทั่วโลกถูกกดดันจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในหลายภูมิภาค แทนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตตามข้อตกลงจากการประชุมในครั้งก่อน
• ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และตลาดคาดว่าสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
• สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด วันที่ 30 ต.ค. 63 ปรับลดลงกว่า 8.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงพายุเฮอร์ริเคนเซตา
ราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปตลาดภูมิภาคเอเซีย
น้ำมันเบนซิน: ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ $39.35 และ $37.91 ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว $0.48 และ $0.41 ต่อบาร์เรล ตามลำดับ
• กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร มีแนวโน้มที่จะรักษาการปรับลดกำลังการผลิตในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากอุปสงค์การใช้น้ำมันดิบทั่วโลกถูกกดดันจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในหลายภูมิภาค แทนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตตามข้อตกลงจากการประชุมในครั้งก่อน
• ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และตลาดคาดว่าสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
• สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด วันที่ 30 ต.ค. 63 ปรับลดลงกว่า 8.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงพายุเฮอร์ริเคนเซตา
น้ำมันดีเซล: ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ $39.35 และ $37.91 ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว $0.48 และ $0.41 ต่อบาร์เรล ตามลำดับ
กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร มีแนวโน้มที่จะรักษาการปรับลดกำลังการผลิตในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากอุปสงค์การใช้น้ำมันดิบทั่วโลกถูกกดดันจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในหลายภูมิภาค แทนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตตามข้อตกลงจากการประชุมในครั้งก่อน
• ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และตลาดคาดว่าสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
• สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด วันที่ 30 ต.ค. 63 ปรับลดลงกว่า 8.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงพายุเฮอร์ริเคนเซตา
ค่าเงินบาทของไทย
ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.21 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 31.1915 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ต้นทุนน้ำมันเบนซินลดลง 0.15 บาท/ลิตร ขณะที่ต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.05 บาท/ลิตร ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.39 บาท/ลิตร (รวมค่าขนส่งน้ำมันทางท่อจากศรีราชา - กรุงเทพฯ 0.15 บาท/ลิตร) และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.55 บาท/ลิตร
ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง: ณ วันที่ 8 พ.ย. 63
กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 59,895 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 30,276 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 29,619 ล้านบาท (บัญชีน้ำมัน 37,872 ล้านบาท บัญชี LPG -8,253 ล้านบาท)
***************************