Super User
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 9 - 15 พฤษภาคม 2565
ประกาศ เปลี่ยนแปลงแผนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ 9 - 15 พฤษภาคม 2565
ราคาน้ำมันเฉลี่ยในอาเซียน
ประกาศ ยกเลิกประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคาประกวดราคาจ้างโครงการสื่อสารสร้างความเข้าใจเชิงรุกต่อนโยบายและแผนพลังงาน
ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา จ้างดูแลบำรุงรักษาระบบ EPPO e-Library ห้องสมุดสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง
ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา จ้างซ่อมเครื่องพิมพ์ ยี่ห้อ OKI B512 N22501B จำนวน 1 งาน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง
กบง.ครั้งที่ 7/2565 (ครั้งที่ 45) วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2565
มติการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 7/2565 (ครั้งที่ 45)
วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2565
1. มาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ
ผู้มาประชุม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ
(นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
(นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท)
เรื่องที่ 1 มาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ
สรุปสาระสำคัญ
1. สถานการณ์การเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในหลายประเทศทั่วโลกส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในระดับสูง และทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันของไทยปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 E10 E20 และE85 เฉลี่ยเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 47.07 บาทต่อลิตร 39.34 บาทต่อลิตร 39.07 บาทต่อลิตร 38.26 บาทต่อลิตร และ 31.29 บาทต่อลิตร ตามลำดับ สูงว่าราคาเฉลี่ยเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 37.89 ร้อยละ 48.17 ร้อยละ 48.56 ร้อยละ 52.71 และร้อยละ 49.65 ตามลำดับ ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบที่มีต่อประชาชน โดยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบในหลักการของมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ โดยให้ส่วนลดแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกประมาณ 157,000 ราย จำนวน 5 บาทต่อลิตร ไม่เกิน 250 บาทต่อคนต่อเดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ถึงเดือนกรกฎาคม 2565 รวมเงินงบประมาณ 120 ล้านบาท โดยขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงพลังงานได้เห็นชอบสาระสำคัญและกรอบการดำเนินโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานดำเนินโครงการดังกล่าว
2. โครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีรายละเอียดดังนี้
2.1 ขอบเขตการดำเนินงาน (1) ด้านการให้วงเงินช่วยเหลือ รัฐบาลจะสนับสนุนวงเงินร่วมจ่าย แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะที่จดทะเบียนเป็นผู้ขับขี่ รถจักรยานยนต์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบก ในการเติมน้ำมันกลุ่มเบนซินกับสถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ จำนวนร้อยละ 50 ของค่าน้ำมันกลุ่มเบนซินดังกล่าว แต่ไม่เกิน 50 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 250 บาทต่อคนต่อเดือน รวมทั้งสิ้น 750 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ 3 เดือน โดยกรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมวงเงินไปในเดือนถัดไป และ (2) ด้านเงื่อนไขการชำระเงินให้แก่สถานีบริการน้ำมัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่เข้าร่วมโครงการต้องชำระค่าน้ำมันกลุ่มเบนซินผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันฝั่งผู้ซื้อ ให้แก่สถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการซึ่งรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน ฝั่งผู้ขาย กรณีรัฐโอนเงินสนับสนุนให้สถานีบริการน้ำมันไม่สำเร็จ รัฐจะโอนเงินให้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 หากพ้นกำหนดเวลาและการโอนเงินยังคงไม่สำเร็จรัฐจะไม่โอนเงินให้ และจะถือว่าสถานีบริการน้ำมันนั้น ไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
2.2 วัตถุประสงค์ เพื่อบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน โดยมุ่งเป้ากลุ่มผู้ขับขี่ รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก
2.3 การกำหนดสิทธิ์และทบทวนสิทธิ์ (1) กำหนดสิทธิ์สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก และผ่านการตรวจสอบข้อมูลสถานะบุคคลไม่ปกติและเสียชีวิต โดยกรมการปกครอง เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้รายงานข้อมูลการจดทะเบียนสะสม รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รย.17) เดือนกุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 155,348 คัน โดย ณ วันที่ 22 มีนาคม 2565 มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเป็นเชื้อเพลิง (หลังหักทะเบียนหมดอายุและถูก เพิกถอน) จำนวน 107,340 ราย และ ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565 มีจำนวนผู้มีสิทธิ์ที่ผ่านการตรวจสอบสถานะบุคคลไม่ปกติและเสียชีวิตโดยกรมการปกครองทั้งสิ้น 106,655 ราย โดยโครงการจะไม่เพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิ์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกภายหลังจากวันที่ 22 มีนาคม 2565 และ (2) ทบทวนสิทธิ์โดยขอความอนุเคราะห์กรมการปกครองตรวจสอบข้อมูลผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่ง ทางบก ณ วันที่ 22 มีนาคม 2565 ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ของบุคคลไม่ปกติและเสียชีวิตระหว่างดำเนินโครงการ
2.4 ระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 เดือน ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2565 ถึงเดือนกรกฎาคม 2565 วงเงินงบประมาณ 79.992 ล้านบาท โดยคำนวณจากส่วนลดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันกลุ่มเบนซิน 250 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 3 เดือน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ 106,655 ราย
2.5 การขอรับจัดสรรงบประมาณ โดยกระทรวงพลังงานจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ต่อสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ เนื่องจากวงเงินงบประมาณที่ขอรับจัดสรรไม่เกิน 100 ล้านบาท สำนักงบประมาณจะเสนอเรื่องต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 ข้อ 9 (2) โดยหากนายกรัฐมนตรีเห็นสมควร ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาก่อน สำนักงบประมาณจะแจ้งให้กระทรวงพลังงานนำเรื่องเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
2.6 การเข้าร่วมโครงการ (1) กรมธุรกิจพลังงานเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินโครงการ และสถาบันการเงินเตรียมปรับปรุงระบบแอปพลิเคชันฝั่งผู้ซื้อและฝั่งผู้ขาย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถใช้งานระบบได้ (2) ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่เข้าร่วมโครงการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฝั่งผู้ซื้อ และกดยืนยันสิทธิ์ เงื่อนไขผ่านแอปพลิเคชันฝั่งผู้ซื้อ โดยสามารถเติมเงินเข้าระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ผ่าน Mobile Banking Prompt Pay และตู้เอทีเอ็ม และสามารถชำระเงินโดยสแกน QR Code ณ สถานีบริการน้ำมัน และ (3) สถานีบริการน้ำมันแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการโดย Google Forms ผ่านเว็บไซต์กรมธุรกิจพลังงาน รวมทั้งดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฝั่งผู้ขาย กดยืนยันสิทธิ์ เงื่อนไข และสร้าง QR Code เพื่อรับชำระเงินจากผู้ใช้สิทธิ์ โดยกรมธุรกิจพลังงานจะคัดกรองเฉพาะผู้ประกอบการที่จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 มาตรา 10 หรือมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543
2.7 การประชาสัมพันธ์ (1) ด้านผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ สื่อสารชื่อย่อโครงการ คือ วินเซฟ สัญลักษณ์เป็นภาพผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ และมีข้อความ สิทธิวินเซฟ สิทธิรัฐช่วยจ่าย 50% (ไม่เกิน 50 บาทต่อวัน) เมื่อเติมน้ำมันผ่านสถานีบริการที่เข้าร่วม โดยประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ facebook ของกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน สำนักงานพลังงานจังหวัด และช่องทางอื่นๆ (2) ด้านสถานีบริการน้ำมัน โดยประชุมขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันเพื่อพิจารณาเข้าร่วมโครงการ และแจ้งความประสงค์โดย Google Forms ผ่านเว็บไซต์กรมธุรกิจพลังงาน รวมทั้งขอความร่วมมือสำนักงานพลังงานจังหวัดประชาสัมพันธ์โครงการ และ (3) การประชาสัมพันธ์ภาพรวม โดยกระทรวงพลังงานจัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำ ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับโครงการ และสถาบันการเงิน จัดหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ ดูแลการใช้งานแอปพลิเคชันฝั่งผู้ซื้อและฝั่งผู้ขาย
2.8 การเปิดบัญชี เบิกจ่ายเงิน และกำหนดเริ่มต้นโครงการ โดยกรมธุรกิจพลังงานขอทำความตกลงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรมบัญชีกลาง เปิดบัญชีกระแสรายวันกับสถาบันการเงิน และเบิกจ่ายเงินแก่สถานีบริการน้ำมันเป็นรายวัน รวมทั้งแจ้งกรมสรรพากรเพื่อขอยกเว้นรายได้บุคคลธรรมดาให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับเงินจากโครงการ โดยมีกำหนดเริ่มต้นโครงการในวันที่ 8 พฤษภาคม 2565
3. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการของมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ โดยให้ส่วนลดแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกประมาณ 157,000 ราย จำนวน 5 บาทต่อลิตร ไม่เกิน 250 บาทต่อคนต่อเดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ถึงเดือนกรกฎาคม 2565 รวมเงินงบประมาณ 120 ล้านบาท โดยขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น อย่างไรก็ดี การดำเนินมาตรการดังกล่าวจำเป็นต้องเสนอพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีในประเด็นดังนี้ (1) มาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เปลี่ยนเป็นน้ำมันกลุ่มเบนซิน เพื่อให้ขอบเขตการช่วยเหลือค่าน้ำมันครอบคลุมทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (2) การกำหนดส่วนลด 5 บาทต่อลิตร เปลี่ยนเป็นการกำหนดกรอบเพดานไม่เกิน 50 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 250 บาทต่อคนต่อเดือนแทน เนื่องจากในทางปฏิบัติ ไม่สามารถกำหนดส่วนลดเป็นหน่วยการวัดของสินค้า (หน่วยลิตร) ได้ ขณะที่การกำหนดกรอบเพดานต่อวัน 50 บาท จะช่วยลดความเสี่ยงในการสวมสิทธิ์ เนื่องจากถังน้ำมันของรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่มีความจุประมาณ 4 ถึง 5 ลิตร ซึ่งการเติมน้ำมันแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 250 บาท (3) จำนวนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะประมาณ 157,000 ราย เปลี่ยนเป็น 106,655 ราย ตามข้อมูลที่ปรับปรุงโดยกรมการขนส่งทางบก และกรมการปกครอง รวมเงินงบประมาณ 79.992 ล้านบาท และ (4) ขอให้กรมสรรพากรยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับเงินจากโครงการ
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ
2. มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานดำเนินโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ และจัดทำคำขอรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการดังกล่าวในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ถึงเดือนกรกฎาคม 2565 รวมเงินงบประมาณ 79.992 ล้านบาท
3. มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 เกี่ยวกับรูปแบบการให้ความช่วยเหลือ เป็นการช่วยเหลือค่าน้ำมันกลุ่มเบนซิน และกำหนดกรอบเพดานไม่เกิน 50 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 250 บาทต่อคนต่อเดือน แทนการกำหนดส่วนลดจำนวน 5 บาทต่อลิตร รวมทั้งเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้รับสิทธิ์เป็น 106,655 ราย และยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับเงินจากโครงการ