งบประมาณกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กุมภาพันธ์ 2553
- งบประมาณกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กุมภาพันธ์ 2553 (682 Downloads)
กอ. ครั้งที่ 50 - วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553
มติคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 1/2553 (ครั้งที่ 50)
วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 13.30 น.
ณ ห้องประชุมบุญรอด-นิธิพัฒน์ ชั้น 11 อาคาร 7 กระทรวงพลังงาน
1. ฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
2. รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว
3. ประมาณการรายรับ-รายจ่ายของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2553-2556
4. รายงานผลการดำเนินงานด้านอนุรักษ์พลังงานและการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3
5. รายงานสรุปผลการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน
6. ผลการพิจารณาการขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
7. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
8. การปรับปรุงแก้ไขระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537
9. การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการประเมินผลแผนอนุรักษ์พลังงาน
รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
ประธานกรรมการกองทุน ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบ 2 เรื่อง ดังนี้
1. ศ.ดร.ปรีดา วิบูลย์สวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ ตามหนังสือลงวันที่ 14 ธันวาคม 2552 เนื่องจากได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการข้อตกลงและประเมินผลของกระทรวงพลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2553
2. การประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ในวันนี้ มีเวลาค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเวลา 15.00 น. จะต้องเดินทางไปทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจะเริ่มประชุมเวลา 15.30 น.ที่กระทรวงการคลัง
เรื่องที่ 1 ฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
เลขานุการฯ ได้รายงานฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท | |
ยอดยกมา ณ 1 ตุลาคม 2552 | 15,526.93 |
บวก รายรับ | 1,612.51 |
รวม | 17,139.44 |
หัก รายจ่าย | 1,520.69 |
คงเหลือ ณ 31 ธันวาคม 2552 | 15,618.75 |
มติที่ประชุม
รับทราบฐานะการเงินกองทุนฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 2 รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว
1. พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 กำหนดให้คณะกรรมการกองทุนฯ จัดทำงบการเงินส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือบุคคลภายนอกซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ แต่งตั้งโดยความเห็นชอบของ สตง. เป็นผู้สอบบัญชีของกองทุนฯ และให้ทำการตรวจสอบและรับรองบัญชีและการเงินทุกประเภทของกองทุนภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณทุกปี
ให้ สตง. หรือผู้สอบบัญชีตามวรรคหนึ่งจัดทำรายงานผลการสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุนฯ เสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
รายงานผลการสอบบัญชีและการเงินตามวรรคสอง ให้รัฐมนตรีเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภาเพื่อทราบและจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
2. สตง. ได้ตรวจสอบรับรองบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ที่ สตง. ตรวจสอบรับรองแล้วต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ดังนี้
2.1 งบแสดงฐานะการเงินของกองทุนฯ
หน่วย: ล้านบาท
เงินสด | 7,229.38 |
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น | 5,332.19 |
รายได้ค้างรับ | 78.14 |
หนี้สิน | (98.50) |
รวมสินทรัพย์สุทธิ | 12,541.21 |
สินทรัพย์สุทธิปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 สูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จำนวนเงิน 4,758.08 ล้านบาท เนื่องจากได้มีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนตามโครงการพัฒนาระบบการขนส่งตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2551
2.2 งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
หน่วย: ล้านบาท
รายได้จากการดำเนินงาน | ||
รายได้จากผู้ผลิตและผู้นำเข้า | 7,810.49 | |
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร | 93.57 | |
รายได้อื่น (เงินเหลือจ่าย) | 258.93 | |
รวม | 8,162.99 | |
ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน | ||
ค่าใช้จ่ายตามแผนงานและโครงการของ สนพ. และ พพ. | 3,404.12 | |
ค่าใช้จ่ายอื่น | 0.79 | |
รวม | 3,404.91 | |
รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย | 4,758.08 |
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย จำนวนเงิน 4,758.08 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวนเงิน 4,616.67 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ตามโครงการพัฒนาระบบการขนส่ง
2.3 งบกระแสเงินสด
หน่วย: ล้านบาท
รายได้จากการดำเนินงาน | ||
รายได้จากผู้ผลิตและผู้นำเข้า | 7,810.49 | |
ดอกเบี้ย | 100.94 | |
รายได้อื่น (เงินเหลือจ่าย) | 345.21 | |
รวม | 8,256.64 | |
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน | ||
ค่าใช้จ่ายตามแผนงานและโครงการของ สนพ. และ พพ. | 3,435.49 | |
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น | 2,095.79 | |
หนี้สินหมุนเวียนอื่นและเงินฝากลดลง | 0.36 | |
รวม | 5,531.64 | |
กระแสเงินสดได้มาจากการดำเนินงาน | 2,725.00 | |
เงินสด ณ 1 ตุลาคม 2550 | 754.78 | |
เงินลงทุนระยะสั้น (เงินฝากประจำ 3 เดือน) | 3,749.60 | |
เงินรายได้มาจากการดำเนินงาน | 2,725.00 | |
เงินสด ณ 30 กันยายน 2551 | 7,229.38 |
กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวนเงิน 2,725 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลเนื่องมาจากกองทุนฯ มีรายรับสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการจ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามโครงการต่างๆ สูงขึ้นด้วย สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 กระแสเงินสดรับต่ำกว่ากระแสเงินสดจ่าย จำนวนเงิน 575.37 ล้านบาท
มติที่ประชุม
รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ที่ สตง. ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 3 ประมาณการรายรับ-รายจ่ายของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2553-2556
1. คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 และ กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550ได้พิจารณาแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ สำหรับโครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง และมีมติอนุมัติกรอบแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3 (ในช่วงปี 2551-2554) โดยให้เพิ่มเติมงานโครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง ไว้ภายใต้แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และได้ประกาศอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำหรับ "โครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง" ตามประกาศ กพช. ฉบับ พ.ศ. 2552 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2551
2. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2552 ได้มีมติให้ยกเลิกการจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ ในส่วนที่เก็บเพื่อส่งเสริมโครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่งของทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ที่ปัจจุบันเก็บอยู่ในอัตรา 0.50 บาท/ลิตร และให้โอนเงินที่ได้จัดเก็บไว้แล้ว มาสบทบกับเงินสำหรับส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และลดอัตราจัดเก็บเงินกองทุนฯ ของน้ำมันดีเซลสำหรับส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน จากที่เก็บอยู่ 0.25 บาท/ลิตร เหลือ 0.05 บาท/ลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2553 หลังจากนั้นให้กลับมาจัดเก็บในอัตราเดิม คือ 0.25 บาท/ลิตร
3. สรุปรายได้ที่จัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ "โครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง" ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2551 - 1 ตุลาคม 2552 รวมทั้งสิ้น 8,151.37 ล้านบาท โดยปัจจุบันได้โอนเงินดังกล่าวเข้าสมทบกับเงินกองทุนฯ ทั้งนี้ฐานะเงิน "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 15,526.93 ล้านบาท
4. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้จัดทำประมาณการรายรับ-รายจ่ายของกองทุนฯ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2552 สรุปได้ดังนี้
หากนำรายได้/รายจ่ายสุทธิรวมในช่วงปี 2553-2556 (4 ปี) มาใช้เป็นฐานในการจัดสรรงบประมาณ จะพบว่า กองทุนฯ มีรายได้สุทธิช่วงปี 2553-2556 รวม 18,880 ล้านบาท หรือจะสามารถจัดสรรได้ในวงเงินประมาณ 4,700 ล้านบาท/ปี
มติที่ประชุม
รับทราบประมาณการรายรับ-รายจ่ายของกองทุนฯ ในปี 2553-2556
เรื่องที่ 4 รายงานผลการดำเนินงานด้านอนุรักษ์พลังงานและการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3
1. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550 ได้เห็นชอบแผนอนุรักษ์พลังงานและเป้าหมาย ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2554 โดยมีเป้าหมายและการดำเนินการจะลดปริมาณการใช้พลังงานลง 7,820 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 10.8 ของความต้องการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศในปี 2554 และกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้แทนพลังงานเชิงพาณิชย์ 8,858 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 12.2 ของความต้องการใช้พลังงาน ในปี 2554 และ กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 ได้เห็นชอบแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี โดยกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานทดแทนรวม 10,961 kote หรือคิดเป็นร้อยละ 15.6 ของความต้องการใช้พลังงานในปี 2554
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและจัดทำสรุปผลการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานระยะที่ 3 ได้ดังนี้
2.1 เป้าหมายและผลการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
แผนและเป้าหมาย |
ผลดำเนินการสะสม ปี 2551 (ktoe) |
ผลดำเนินการสะสม ปี 2552 (ktoe) |
เป้าหมายปี 2554 (ktoe) |
ร้อยละการดำเนินการ ปี 2552 เทียบกับเป้าหมาย |
1. การใช้พลังงาน ภาคอุตสาหกรรม | 1,579 | 2,399 | 3,190 | 75 |
(1) การดำเนินการตาม พ.ร.บ. | 452.7 | 452.7 | 212 | 214 |
(2) การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี | 32.9 | 142.5 | 570 | 25 |
(3) การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ | 432.7 | 1,017.7 | 600 | 170 |
(4) ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ESCO | 197.4 | 222.5 | 300 | 74 |
(5) การอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม | 114.0 | 131.7 | 551 | 24 |
(6) การสาธิตเทคโนโลยีระดับสูง | - | 1.7 | 200 | 1 |
(7) DSM Bidding | 24.0 | 92.8 | 149 | 62 |
(8) นโยบาย Co Gen | 325.1 | 337.2 | 608 | 55 |
2. การใช้พลังงาน ด้านการจัดการ | 143.4 | 255.8 | 1,217 | 21 |
(1) มาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์ไฟฟ้า | ||||
กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ (MEPs) | - | - | 179 | 0 |
กำหนดมาตรฐานขั้นสูง (Labeling) | 41.9 | 72.6 | 158 | 46 |
(2) มาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์ความร้อน | ||||
กำหนดมาตรฐานขั้นสูง เตา LPG | 1.5 | 3.0 | 14 | 21 |
(3) มาตรฐานสำหรับยานยนต์ | - | - | 140 | 0 |
(4) มาตรฐานสำหรับอาคาร | - | 1.3 | 1 | 130 |
(5) ส่งเสริมการใช้งานอุปกรณ์ | ||||
ส่งเสริมการใช้เตาถ่านประสิทธิภาพสูง | - | 2.7 | 68 | 4 |
ส่งเสริม CFL | 24 | 83.8 | 46 | 182 |
ส่งเสริม T5 | - | 2.3 | 407 | 0.6 |
(6) รณรงค์สร้างจิตสำนึก/ราชการ | 76 | 90 | 204 | 44 |
3. การใช้พลังงาน ภาคขนส่ง | 138.6 | 152.6 | 3,413 | 4.5 |
(1) ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน | 138 | 152 | 1,554 | 9.78 |
(2) ปรับปรุงระบบจัดการจราจร | - | - | 106 | 0 |
(3) ส่งเสริมธุรกิจ LOGISTIC DEPOT และ ICD | - | - | 1,450 | 0 |
(4) สร้างเครือข่ายระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ | 0.6 | 0.6 | 180 | 0.33 |
(5) นโยบาย ECO CAR | - | - | 123 | 0 |
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) | 1,861 | 2,807 | 7,820 | 36 |
2.2 เป้าหมายและผลการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
ประเภท |
ผลดำเนินการสะสม ปี 2551 |
ผลดำเนินการสะสม ปี 2552 |
เป้าหมายปี 2554 | ร้อยละการดำเนินการ ปี 2552 เทียบกับเป้าหมาย |
|
1. การผลิตไฟฟ้า | ktoe | 600 | 935 | 1,587 | 59 |
(1) พลังงานชีวมวล | MW | 1,655 | 1,672 | 2,800 | 60 |
(2) ขยะ | MW | 4.25 | 8.1 | 78 | 10 |
(3) ก๊าซชีวภาพ | MW | 68.8 | 79.6 | 60 | 133 |
(4) พลังงานแสงอาทิตย์ | MW | 34 | 40.8 | 55 | 74 |
(5) พลังงานลม | MW | 3.1 | 5.1 | 115 | 4 |
(6) พลังงานน้ำ | MW | 66 | 66 | 165 | 40 |
2. การใช้ความร้อน | ktoe | 2,550 | 3,162 | 4,150 | 76 |
(1) พลังงานชีวมวล | ktoe/ปี | 2,406 | 2,955 | 3,660 | 81 |
(2) ก๊าซชีวภาพ | ktoe/ปี | 144 | 201 | 470 | 43 |
(3) พลังงานแสงอาทิตย์ | ktoe/ปี | 0.3 | 0.99 | 5 | 20 |
(4) พลังงานขยะ | ktoe/ปี | - | 10.6 | 15 | 71 |
3. การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ | ktoe | 627 | 872 | 1,755 | 50 |
(1) เอทานอล | ล้านลิตร/วัน | 0.8 | 1.2 | 3.0 | 40 |
(2) ไบโอดีเซล | ล้านลิตร/วัน | 1.3 | 1.7 | 3.0 | 57 |
4. การส่งเสริมการใช้ NGV | ktoe | 660 | 1,140 | 3,469 | 33 |
MMSCFD | 77.5 | 133.8 | 393 | 33 | |
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) | 4,437 | 6,109 | 10,961 | 56 |
มติที่ประชุม
รับทราบรายงานผลการดำเนินงานด้านอนุรักษ์พลังงานและการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3
เรื่องที่ 5 รายงานสรุปผลการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน
1. คณะกรรมการกองทุนฯ มีคำสั่งที่แต่งตั้งคณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน เพี่อทำหน้าที่ประเมินผลการดำเนินงานของโครงการ และเสนอข้อพิจารณาประกอบรายงานการประเมินผลของโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินจากกองทุนฯ เป็นรายโครงการ และนำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ ต่อไป
2. สนพ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ ได้ว่าจ้างบริษัท เอเบิล คอนซัลแตนท์ จำกัด เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานศึกษา วิเคราะห์ และประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงานในเบื้องต้น ก่อนนำเสนอคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบผลการประเมินดังกล่าว โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2551 - 24 มีนาคม 2552
3. ผลการประเมินโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2551
3.1 คณะอนุกรรมการประเมินผลฯ ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาผลการประเมินโครงการไปแล้วทั้งสิ้น 19 ครั้ง โดยมีโครงการที่ได้รับการประเมิน และคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ ให้ความเห็นชอบผลการประเมินเรียบร้อยแล้ว รวมจำนวน 192 โครงการ แยกตามแผนงานและกลุ่มงานได้ ดังนี้
กลุ่มงาน | แผนเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน |
แผน พลังงานทดแทน |
แผนบริหาร เชิงกลยุทธ์ |
รวม |
ศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค | 8 | 7 | - | 15 |
ส่งเสริมและสาธิต | 28 | 37 | - | 65 |
พัฒนาบุคลากร | 42 | 12 | - | 54 |
ประชาสัมพันธ์ | 55 | 2 | - | 57 |
ศึกษานโยบายและวิชาการ | - | - | 1 | 1 |
รวม | 133 | 58 | 1 | 192 |
หากพิจารณาแบ่งตามสถานภาพการดำเนินโครงการ สามารถแบ่งโครงการออกได้เป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย โครงการที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเจ้าของโครงการไม่ได้ว่าจ้างประเมิน จำนวน 95 โครงการ และโครงการที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเจ้าของโครงการได้ว่าจ้างประเมินแล้ว จำนวน 16 โครงการ ส่วนที่เหลืออีก 81 โครงการ เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ
3.2 การประเมินได้ใช้โมเดล 3 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับสถานภาพโครงการ ดังนี้ กรณีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ใช้ CIPPA Model กรณีที่โครงการยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ใช้ Logical Framework และกรณีที่โครงการได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยและมีผลประเมินแล้ว ใช้ Meta Evaluation ซึ่งเป็นรูปแบบการประเมินที่ใช้ตรวจสอบประเมินเหมือนกับโครงการที่เสร็จสิ้นแล้ว แต่จะประเมินเพิ่มเติมถึงเทคนิควิธีที่บริษัทผู้ประเมินใช้ ในการประเมินความถูกต้องและสัมฤทธิผล ในแต่ละหัวข้อของแต่ละโครงการได้กำหนดเป็นระดับคะแนน ซึ่งเทียบได้กับระดับที่ต้องปรับปรุง พอใช้ ดีมาก และดีเยี่ยม
3.3 ผลการประเมินตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น สามารถสรุปได้ดังนี้
สถานะโครงการ/ ผลการประเมิน |
ดีเยี่ยม | ดีมาก | ดี | พอใช้ | ต้องปรับปรุง | รวม |
แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | ||||||
- โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ | 0 | 10 | 49 | 8 | 0 | 67 |
- โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จและมีผลการประเมินแล้ว | 0 | 1 | 2 | 13 | 0 | 16 |
- โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ | 2 | 4 | 30 | 14 | 0 | 50 |
จำนวนโครงการ | 2 | 15 | 81 | 35 | 0 | 133 |
คิดเป็นร้อยละ | 1.5 | 11.3 | 60.9 | 26.3 | 0 | 100.0 |
แผนพลังงานทดแทน | ||||||
- โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ | 0 | 2 | 6 | 17 | 2 | 27 |
- โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ | 0 | 0 | 12 | 6 | 13 | 31 |
จำนวนโครงการ | 0 | 0 | 18 | 23 | 15 | 58 |
คิดเป็นร้อยละ | 0 | 3.5 | 31.0 | 39.7 | 25.9 | 100.0 |
แผนบริหารเชิงกลยุทธ์ | ||||||
- โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | 1 |
คิดเป็นร้อยละ | 0 | 0 | 0 | 100.0 | 0 | 100.0 |
จำนวนโครงการทั้งหมด | 2 | 17 | 99 | 59 | 15 | 192 |
คิดเป็นร้อยละ | 1.0 | 8.9 | 51.6 | 30.7 | 7.8 | 100.0 |
3.4 จากการใช้เทคนิค Balanced Scorecard ในการประเมินผลการดำเนินงานของแผนอนุรักษ์พลังงาน โดยใช้ข้อมูลในตารางข้างต้นเป็นฐาน แล้วปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบการประเมินของ OECD (Organization for Economic Cooperation and Development ) ที่เน้นด้านประสิทธิผล ประสิทธิภาพ ความเกี่ยวข้องสอดคล้องกับนโยบาย วัตถุประสงค์ และผลกระทบ/ความยั่งยืน สามารถอนุมานได้ว่า ผลการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานอยู่ในระดับพอใช้ โดยจุดอ่อนที่สำคัญของโครงการส่วนใหญ่อยู่ที่การนำผลของโครงการไปใช้ (Application) ซึ่งมี 2 องค์ประกอบ คือ ผลกระทบและความยั่งยืน
3.5 ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง
จากการใช้วิธี SWOT Analysis ผนวกกับ Delphi Technique ซึ่งอาศัยกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้ชำนาญการต่างๆ ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง สามารถสรุปผลได้ ดังนี้
ก. การคัดเลือกและอนุมัติโครงการ ควรมีการพิจารณาคัดเลือกและอนุมัติโครงการอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้โครงการที่ดี สามารถบริหารจัดการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด มีผลกระทบต่อการอนุรักษ์พลังงานอย่างมีนัยสำคัญ และคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายและเวลา
ข. การบริหารจัดการโครงการ เพื่อให้การบริหารควบคุม และจัดการโครงการมีประสิทธิภาพ เจ้าของโครงการจะต้องมีเวลาเพียงพอสำหรับการพิจารณาตรวจอ่านรายงาน ติดตามงาน และปรับปรุงแก้ไขโครงการ ในกรณีที่โครงการมีปัญหา ดังนั้นจึงเสนอให้ปรับลดจำนวนโครงการที่แต่ละกรม/หน่วยงาน/คน รับผิดชอบ โดยให้สอดคล้องกับขีดความสามารถที่มีอยู่
ค. การดำเนินงาน งานบางประเภทควรจะดำเนินการเอง ไม่ควรจ้างที่ปรึกษาดำเนินการ เช่น งานที่สมควรเป็นความลับ (งานเกี่ยวกับข้อมูลองค์กร ข้อมูลที่สำคัญๆ ของประเทศ) งานที่ทำเป็นประจำทุกปี ที่สามารถใช้หรือจ้างเจ้าหน้าที่ประจำทำ (งานบริหารเครือข่ายข้อมูล และประชาสัมพันธ์ งานบริหารโครงการภายใต้แผนต่างๆ เป็นต้น) ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ เจ้าหน้าที่ก็จะมีความรู้ ประสบการณ์ และพัฒนาการในตัวเอง อันจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรในระยะยาว
ง. การทบทวนกลยุทธ์การดำเนินงาน งานบางประเภทแม้จะมีผลการประเมินออกมาดี เช่น งานฝึกอบรม งานอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม เป็นต้น สมควรมีการทบทวนกลยุทธ์ใหม่ เนื่องจากได้ดำเนินการมานานแล้ว เสียค่าใช้จ่ายสูง ควรเน้นการอนุรักษ์พลังงานโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นต้น
จ. การดำเนินโครงการด้านประชาสัมพันธ์ ควรลดความซ้ำซ้อนจากการที่ต่างคนต่างดำเนินการ ลดการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ตัวบุคคล และเน้นการประชาสัมพันธ์แบบเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้นแทนการประชาสัมพันธ์แบบปูพรม
มติที่ประชุม
รับทราบรายงานสรุปผลการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ โดยประธานกรรมการให้ฝ่ายเลขานุการฯ ชี้แจงความแตกต่างของระดับคะแนนที่กำหนดในระดับต้องปรับปรุง พอใช้ ดีมาก และดีเยี่ยม ต่อประธานฯ ทราบต่อไป
เรื่องที่ 6 ผลการพิจารณาการขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
1. ระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 15 และข้อ 24 กำหนดไว้ "การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้ "และตามมติคณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2548 ได้กำหนดภารกิจในเรื่องดังกล่าว โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการกองทุนฯ พิจารณากลั่นกรองและให้ความเห็น แล้วฝ่ายเลขานุการฯ จึงสรุปเวียนเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณา
2. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ได้พิจารณาการขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว 31 โครงการ และเห็นชอบให้ทั้ง 31 โครงการ ปรับรายละเอียดโครงการได้ โดยจำแนกประเด็นที่ขอเปลี่ยนแปลงออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
2.1 ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ กรณีผู้เบิกเงินกองทุนฯ ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในสามเดือนนับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา จำนวน 9 โครงการ ดังนี้
(1) โครงการพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน (งานปรับปรุงห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์)
(2) โครงการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขนาดใหญ่ จ. ปัตตานี
(3) โครงการไฟฟ้าพลังน้ำระดับหมู่บ้านอย่างยั่งยืน (งานว่าจ้างปรับปรุงเครื่องกังหันน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ประกอบโครงการไฟฟ้าพลังน้ำระดับหมู่บ้าน โครงการดอยลาง)
(4) โครงการศึกษาการผลิตแก๊สชีวภาพจากกากมันสำปะหลัง
(5) โครงการให้คำปรึกษา ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของเครือข่ายสารสนเทศด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย (ระยะที่ 3)
(6) โครงการศึกษาอิทธิพลของตัวแปรที่มีผลต่อการนำแสงธรรมชาติทางด้านข้างมาใช้ในอาคาร
(7) โครงการใช้แสงธรรมชาติผ่านแผงควบคุมช่องเปิดด้านบน
(8) โครงการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะรูปทรงและวัสดุหลังคาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
(9) โครงการศึกษาและวิจัยรูปแบบเปลือกอาคารที่เหมาะสมกับการอนุรักษ์พลังงาน
2.2 ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จำนวน 15 โครงการ ดังนี้
(1) โครงการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าจ่ายขนานเข้าระบบจำหน่าย
(2) โครงการสร้างองค์ความรู้ด้านพลังงานสำหรับโรงเรียนในเขตภาคเหนือตอนบน
(3) โครงการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้และขยายเครือข่ายการสื่อสารด้านพลังงานในกลุ่มเยาวชนและครู ประจำปี 2551
(4) โครงการจัดสัมมนา 6 ปี นโยบายพลังงานกับการพัฒนาประเทศ
(5) โครงการสร้างความเข้าใจนโยบาย E85
(6) โครงการรณรงค์สร้างความเข้าใจในนโยบายการประหยัดพลังงาน
(7) โครงการลดใช้พลังงานในภาครัฐในหน่วยงานภาครัฐขนาดเล็ก ของ สวภ. 12
(8) โครงการลดใช้พลังงานในภาครัฐในหน่วยงานภาครัฐขนาดเล็ก ของ สวภ. 6
(9) โครงการให้คำปรึกษา ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของเครือข่ายสารสนเทศด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย (ระยะที่ 3)
(10) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาในประเทศ จำนวน 2 ทุน
(11) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ จำนวน 3 ทุน
(12) โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 10 ทุน
(13) โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการปลูกไม้โตเร็วเพื่อเป็นพลังงานชีวมวล
(14) โครงการศึกษาแนวทางบริหารจัดการเชื้อเพลิงชีวมวลเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน (ระดับชุมชน)
(15) โครงการสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการไตรภาคีภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กที่ใช้พลังงานหมุนเวียน
2.3 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จำนวน 2 โครงการ ดังนี้
(1) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 9
(2) โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการใช้หัวเผาไหม้ประสิทธิภาพสูงในเตาเผาเซรามิก
2.4 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการและขยายระยะเวลาดำเนินการ จำนวน 5 โครงการ ดังนี้
(1) โครงการส่งเสริมการใช้หลอดผอมใหม่เบอร์ 5
(2) โครงการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านพลังงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุครบ 70 พรรษา
(3) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ จำนวน 3 ทุน
(4) โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 1 ทุน
(5) โครงการจัดงานประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการ ภายใต้หัวข้อ "พลังงาน กู้วิกฤตไทย"
3. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้มีหนังสือเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาการขอความเห็นชอบปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว และคณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติอนุมัติให้ทั้ง 31 โครงการ ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ ขยายระยะเวลาดำเนินการ และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการได้ ตามที่ขอมา
มติที่ประชุม
รับทราบผลการพิจารณาการขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว ทั้ง 31 โครงการ ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 7 งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
1. คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 ได้รับทราบแผนอนุรักษ์พลังงานและเป้าหมาย ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2554 ตามที่ กพช. เสนอ โดยมีเป้าหมายและการดำเนินการจะลดปริมาณการใช้พลังงานลง 7,820 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็นร้อยละ 10.8 ของความต้องการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศในปี 2554 และกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้แทนพลังงานเชิงพาณิชย์ 8,858 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็นร้อยละ 12.2 ของความต้องการใช้พลังงานในปี 2554 และ กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 ได้เห็นชอบแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี โดยกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานทดแทนรวม 10,961 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็นร้อยละ 15.6 ของความต้องการใช้พลังงานในปี 2554
2. คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 ได้อนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2552 ให้ พพ. และ สนพ. ในวงเงินรวม 2,396,252,804 บาท ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวได้ดำเนินโครงการต่างๆ ตามที่ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณ 2552 โดยได้มีการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ และผูกพันงบประมาณ เป็นเงิน 2,155,500,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 85.6 และได้จัดทำรายงานผลการดำเนินงานโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2552 เสนอไว้ในเอกสารประกอบวาระ 4.1 ส่วนที่ 1
3. เพื่อให้การจัดสรรเงินกองทุนฯ เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอกรอบในการพิจารณารายละเอียดรายจ่ายโครงการฯ ต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 และคณะอนุกรรมการฯ ได้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ โดยกำหนดแนวทาง/หลักเกณฑ์ที่สำคัญในการพิจารณากลั่นกรองโครงการฯ ดังนี้
1) การจัดลำดับความสำคัญตามนโยบายและแผน โดยทำการพิจารณาถึงความสอดคล้องของโครงการกับภารกิจที่สำคัญ ดังนี้
- ภารกิจตามข้อกำหนดและกฎหมาย พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
- ภารกิจตามยุทธศาสตร์ระดับชาติ นโยบายรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน
- ภารกิจตามเจตนารมณ์ของกองทุนฯ ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และตามแผนและเป้าหมายอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2551-2554
- ภารกิจตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี (พ.ศ. 2551-2565)
2) ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยพิจารณาถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายของโครงการหรือไม่ โดยเน้นให้การสนับสนุนโครงการที่ก่อให้เกิดผลประหยัดหรือผลการใช้พลังงานทดแทนที่ชัดเจน และสอดคล้องกับเป้าหมายตามแผนอนุรักษ์พลังงาน
3) ศักยภาพในการขยายผล โดยเน้นโครงการวิจัยและ/หรือดำเนินการแล้วสามารถที่นำไปปฏิบัติได้จริงหรือขยายผลได้จริง (Deployment Potential) โดยแบ่งตามศักยภาพการขยายผลเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีศักยภาพในการขยายผล "มาก" และกลุ่มที่มีศักยภาพในการขยายผล "น้อย"
4. คณะทำงานฯ ได้ประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดการของบประมาณรายจ่ายโครงการของกองทุนฯ ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะอนุกรรมการฯ แล้ว โดยสรุปผลได้ ดังนี้
1) เห็นสมควรสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายตามโครงการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ เป็นจำนวนไม่เกิน3,203,565,752 บาท รวม 73 โครงการ โดยแบ่งรายจ่ายออกเป็น 2 หน่วยงานผู้เบิกเงิน กองทุนฯ ดังนี้
(1) พพ. จำนวน 1,823,952,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 56.93 รวม 40 โครงการ
(2) สนพ. จำนวน 1,379,613,752 บาท คิดเป็นร้อยละ 43.07 รวม 33 โครงการ
2) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ที่เกี่ยวกับโครงการประชาสัมพันธ์ เสนอพิจารณาอนุมัติไว้เป็นกรอบวงเงิน จำนวน 500,000,000 บาท เพื่อให้งานประชาสัมพันธ์มีความเป็นเอกภาพ มีทิศทางการปฏิบัติไปในแนวเดียวกัน โดยการบริหารจัดการเพื่อใช้เงินจากกองทุนฯ ให้ผ่านความเห็นชอบของ "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารของกระทรวงพลังงาน" ที่ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน โดยให้สามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในแผน/งานเดียวกันได้
3) ให้ สนพ. และ พพ. จัดส่งรายละเอียดโครงการที่ปรับปรุงและแก้ไขแล้ว ให้คณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน เพื่อประกอบการประเมินผลโครงการต่อไป
5. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2553 ได้รับทราบผลการดำเนินงานโครงการที่ได้รับจัดสรรทุนในปีงบประมาณ 2552 และได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ แล้ว ที่ประชุมมีมติเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 เป็นจำนวน 3,203,565,752 บาท ตามที่คณะทำงานเห็นสมควร และให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ดังนี้
จำแนกตามแผนอนุรักษ์พลังงาน | รวม | ร้อยละ | จำแนกตามหน่วยผู้เบิก (บาท) | |
พพ. | สนพ. | |||
1. แผนพลังงานทดแทน | 1,039,305,450 | 32.44 | 292,712,000 | 746,593,450 |
1.1 งานศึกษาวิจัยพัฒนา | 233,548,000 | 7.29 | 33,548,000 | 200,000,000 |
1.2 งานส่งเสริมและสาธิต | 364,965,050 | 11.39 | 237,151,000 | 127,814,050 |
1.3 งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ | 421,867,400 | 13.17 | 3,088,000 | 418,779,400 |
1.4 งานบริหารแผนงาน | 18,925,000 | 0.59 | 18,925,000 | 0 |
2. แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 2,034,859,090 | 63.52 | 1,531,240,000 | 503,619,090 |
2.1 งานศึกษาวิจัยพัฒนา | 175,000,000 | 5.46 | 95,000,000 | 80,000,000 |
2.2 งานส่งเสริมและสาธิต | 1,412,245,750 | 44.08 | 1,378,500,000 | 33,745,750 |
2.3 งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ | 425,113,340 | 13.27 | 35,240,000 | 389,873,340 |
2.4 งานบริหารแผนงาน | 22,500,000 | 0.70 | 22,500,000 | 0 |
3. แผนบริหารเชิงกลยุทธ์ | 129,401,212 | 4.04 | 0 | 129,401,212 |
3.1 งานศึกษาวิจัยเชิงนโยบาย | 38,722,200 | 1.21 | 0 | 38,722,200 |
3.2 งานบริหารแผนงาน | 90,679,012 | 2.83 | 0 | 90,679,012 |
รวมงบประมาณ กทอ. ปี 2553 | 3,203,565,752 | 100 | 1,823,952,000 | 1,379,613,752 |
6. ฝ่ายเลขานุการฯ มีข้อเสนอในการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ดังนี้
1) เนื่องจาก พพ. และ สนพ. มีงานบริหารเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานที่ต้องดำเนินงานต่อเนื่อง จึงมีรายจ่ายประจำที่จำเป็นเพื่อการบริหารงานที่เกิดขึ้น เช่น ค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว เงินเพิ่มค่าครองชีพ เงินสมทบประกันสังคมฝ่ายนายจ้าง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ และค่าจ้างเหมาต่างๆ เป็นต้น ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาเห็นชอบให้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ งานบริหารจัดการ ของ สนพ. และงานบริหารแผนพลังงานทดแทนและแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ของ พพ. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 โดยให้แต่ละหน่วยงานสามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในหมวดต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
2) การพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการภายใต้งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค ทั้งแผนพลังงานทดแทนและแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในส่วนที่ สนพ. รับผิดชอบ ให้ สนพ. ทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองรายละเอียดของโครงการที่มีผู้ยื่นขอรับการสนับสนุน ตามรายละเอียดการของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 แล้วนำเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวงเงิน ดังต่อไปนี้
1. ผอ.สนพ. | ไม่เกิน 10,000,000 บาท |
2. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ | เกิน 10,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000,000 บาท |
3. คณะกรรมการกองทุนฯ | เกิน 50,000,000 บาท |
3) ให้ "คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" มีอำนาจพิจารณาเห็นชอบ/อนุมัติ แผน/งาน/โครงการและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ หรือผู้รับทุนเสนอขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ และขยายระยะเวลาโครงการที่แตกต่างไปจากเดิมที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบ/อนุมัติไว้ ได้เท่าที่ไม่เกินจากวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนฯ จัดสรรให้
4) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ที่เกี่ยวกับโครงการประชาสัมพันธ์ ในแผนพลังงานทดแทน 250 ล้านบาท และแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 250 ล้านบาท ให้ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารของกระทรวงพลังงาน" ที่ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน โดยให้สามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในแผน/งานเดียวกันได้ ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เห็นชอบแล้ว ให้เสนอต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อนดำเนินโครงการต่อไป
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบผลการดำเนินงานโครงการของกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2552 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
2. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ เป็นจำนวน 3,203,565,752 บาท (สามพันสองร้อยสามล้านห้าแสนหกหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยห้าสิบสองบาทถ้วน) โดยแบ่งรายจ่ายออกเป็น 2 หน่วยงานผู้เบิกเงินกองทุนฯ ดังนี้
หน่วย : บาท
หน่วยงาน | แผน พลังงานทดแทน |
แผน เพิ่มประสิทธิภาพฯ |
แผนงานบริหาร ทางกลยุทธ์ |
รวม |
1) พพ. | 292,712,000 | 1,531,240,000 | 1,823,952,000 | |
2) สนพ. | 746,593,450 | 503,619,090 | 129,401,212 | 1,379,613,752 |
รวม | 1,039,305,450 | 2,034,859,090 | 129,401,212 | 3,203,565,752 |
ทั้งนี้ ให้แต่ละหน่วยงานสามารถถัวจ่ายรายการต่างๆ ภายในแผน/งาน เดียวกันได้
3. อนุมัติให้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ งานบริหารจัดการ ของ สนพ. และงานบริหารแผนพลังงานทดแทนและแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ของ พพ. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 โดยให้แต่ละหน่วยงานสามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในหมวดต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
4. เห็นชอบให้ สนพ. พิจารณากลั่นกรองรายละเอียดของโครงการภายใต้งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค ทั้งแผนพลังงานทดแทนและแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในส่วนที่ สนพ. รับผิดชอบ ที่มีผู้ยื่นขอรับการสนับสนุน แล้วนำเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวงเงิน ดังต่อไปนี้
(1) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน | ไม่เกิน 10,000,000 บาท |
(2) คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน | เกิน 10,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000,000 บาท |
(3) คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน | เกิน 50,000,000 บาท |
5. เห็นชอบให้ "คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" มีอำนาจพิจารณาเห็นชอบ/อนุมัติ แผน/งาน/โครงการและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ หรือผู้รับทุนเสนอขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ และขยายระยะเวลาโครงการที่แตกต่างไปจากเดิมที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบ/อนุมัติไว้ ได้เท่าที่ไม่เกินจากวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนฯ จัดสรรให้ โดยการพิจารณาและให้ความเห็นชอบ/อนุมัติ เปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ และขยายระยะเวลาโครงการที่แตกต่างไปจากเดิมที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบ/อนุมัติไว้ นั้น ให้เป็นตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(1) ไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม
(2) ผลลัพธ์ของโครงการไม่ลดลง
(3) ไม่มีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ
ทั้งนี้ หากการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการใดไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้างต้น ให้คณะอนุกรรมการกองทุนฯ พิจารณากลั่นกรองและให้ความเห็น แล้วให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณา
6. เห็นชอบให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่เกี่ยวกับโครงการประชาสัมพันธ์ ในแผนพลังงานทดแทน 250 ล้านบาท และแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 250 ล้านบาท ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารของกระทรวงพลังงาน" ที่ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน โดยให้สามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในแผน/งานเดียวกันได้ ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เห็นชอบแล้ว ให้เสนอต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อนดำเนินโครงการต่อไป และให้กระทรวงพลังงานดำเนินการประเมินผลการประชาสัมพันธ์ที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนฯ ต่อไปด้วย
เรื่องที่ 8 การปรับปรุงแก้ไขระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537
1. พ.ร.บ การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550 ได้กำหนดให้จัดตั้ง "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ในกระทรวงพลังงาน เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายช่วยเหลือหรืออุดหนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน..." แล้วให้กระทรวงพลังงานเก็บรักษาเงิน และทรัพย์สินของกองทุนฯ และดำเนินการเบิกจ่ายเงินตามพระราชบัญญัตินี้ และ "ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และเงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในกระทรวงการคลัง ไปเป็นของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานตามพระราชบัญญัตินี้" ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงาน ได้เห็นชอบและให้ สนพ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองทุนฯ ทำหน้าที่เป็นผู้รับโอนการดำเนินงานจากกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551
2. สนพ. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. ... เพื่อปรับปรุงระเบียบฯ ให้มีความถูกต้องสอดคล้องกับ พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550
3. คณะทำงานฯ ได้มีการประชุมเพื่อปรับปรุงร่างระเบียบ โดยมีสาระสำคัญในการแก้ไขระเบียบ ดังนี้
3.1 เปลี่ยนชื่อหน่วยงานผู้ดำเนินการตามร่างระเบียบ ดังนี้
"สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ" เป็น "สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน"
"กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน" เป็น "กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน"
"กรมบัญชีกลาง" เป็น "สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน"
3.2 เพิ่มเติมคำนิยามในร่างระเบียบฯ
"คณะอนุกรรมการกองทุน" หมายความว่า คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานแต่งตั้งตามมาตรา 34 แห่งพ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550
3.3 ให้ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานหรือผู้ที่ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจอนุมัติการจ่ายเงินกองทุนตามประมาณการรายจ่ายประจำปี และรายจ่ายตามโครงการที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ตามที่ผู้เบิกเงินกองทุนแจ้งมา
3.4 ปรับปรุงการใช้เงินทดรองจ่ายในส่วนของค่าบริหารงานกองทุนให้มีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น
ร่างระเบียบข้อ 15 ให้หน่วยงานที่ได้รับอนุมัติประมาณการรายจ่ายประจำปี มีเงินทดรองจ่ายในวงเงินตามที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ เพื่อใช้ทดรองจ่ายตามประมาณการรายจ่ายประจำปีได้ตามความจำเป็น
กรณีที่คณะกรรมการกองทุนยังมิได้มีมติอนุมัติประมาณการรายจ่ายประจำปี ให้นำเงินทดรองจ่ายไปจ่ายเป็นค่าบริหารงานกองทุนที่จำเป็นและเร่งด่วนตามกรอบประมาณการรายจ่ายประจำปีที่ผ่านมาได้ไปพลางก่อนภายในวงเงินทดรองจ่ายที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ
3.5 กำหนดให้เพิ่มอำนาจคณะอนุกรรมการกองทุนไว้ในร่างระเบียบฯ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน และสอดคล้องตามมาตรา 34 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ดังนี้
1) ด้านการรับเงินกองทุน
ร่างระเบียบข้อ 7 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดบัญชีเงินฝาก "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ประเภทเงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ หรือเงินฝากประจำกับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามที่คณะอนุกรรมการกองทุนเห็นสมควรและให้รายงานคณะกรรมการกองทุนรับทราบต่อไป
ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์อื่นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุน โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
2) ด้านการเบิกจ่ายเงินกองทุน
ร่างระเบียบข้อ 18 กรณีผู้เบิกเงินกองทุนก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายประจำปี หรือรายจ่ายตามโครงการภายในปีงบประมาณแต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณนั้นๆ ให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นต่อไปได้ภายใน 3 เดือน นับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา ซึ่งนับรวมระยะเวลาตรวจรับงานไว้แล้ว หากไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันภายใน 3 เดือน ที่ได้ขยายเวลาการเบิกจ่ายแล้วให้เป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการกองทุนที่จะพิจารณาอนุมัติ
ร่างระเบียบข้อ 19 การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว โดยไม่เกินวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนจัดสรรให้ จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะอนุกรรมการกองทุนก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
กรณีที่เปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่ต้องเพิ่มวงเงินให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกองทุน
3) ด้านการเบิกจ่ายเงินกองทุนสำหรับผู้ได้รับจัดสรรเงินกองทุน
ร่างระเบียบข้อ 26 การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว โดยไม่เกินวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนจัดสรรให้ จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะอนุกรรมการกองทุนก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
กรณีที่เปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่จะต้องเพิ่มวงเงิน ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกองทุน โดยให้ผู้ได้รับจัดสรรเงินกองทุนยื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการผ่านผู้เบิกเงินกองทุน
3.6 เพิ่มเติมรายละเอียดการดำเนินการด้านการบัญชี
ร่างระเบียบข้อ 30 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานจัดทำบัญชีกองทุนให้เป็นไปตามหลักการและนโยบายบัญชีสำหรับหน่วยงานภาครัฐ ตามที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนด
ร่างระเบียบข้อ 31 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานนำข้อมูลเกี่ยวกับการบัญชีของกองทุนเข้าระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ (GFMIS) ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด
ร่างระเบียบข้อ 33 ให้คณะกรรมการกองทุนโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน จัดทำงบการเงินเพื่อส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือบุคคลภายนอกซึ่งคณะกรรมการกองทุนแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีของกองทุน และให้ทำการตรวจสอบและรับรองบัญชีและการเงินทุกประเภทของกองทุนภายใน 90 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณทุกปี
ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้สอบบัญชีตามวรรคหนึ่ง จัดทำรายงานผลการสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุน เสนอต่อคณะกรรมการกองทุน ภายใน 150 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี เพื่อทราบ
รายงานผลการสอบบัญชีและการเงินตามวรรคสอง ให้รัฐมนตรีเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภา เพื่อทราบ และจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ร่างระเบียบข้อ 34 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานจัดให้มีการตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี และการพัสดุของกองทุน และรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการทราบอย่างน้อยปีละครั้ง
4. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจของคณะอนุกรรมการฯ โดยร่างคำสั่งคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่ ....../2553 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ
5. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ได้เห็นชอบร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. ... ตามที่คณะทำงานฯ ได้ปรับปรุงแก้ไข และเห็นชอบร่างคำสั่งคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่ ....../2553 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ และให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาต่อไป
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. ... ยกเว้นร่างระเบียบฯ ข้อ 7 ให้ฝ่ายเลขานุการฯ ดำเนินการแก้ไขตามที่ประธานกรรมการได้ให้ความเห็นไว้ และให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอต่อกระทรวงการคลัง พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
2. เห็นชอบร่างคำสั่งคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่ ...../2553 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และให้ฝ่ายเลขานุการฯ จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการดังกล่าว เสนอต่อประธานกรรมการกองทุนฯ เพื่อลงนามต่อไป
เรื่องที่ 9 การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการประเมินผลแผนอนุรักษ์พลังงาน
1. คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2541 ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประเมินผลแผนอนุรักษ์พลังงาน เพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณาอนุมัติเงินกองทุนเพื่อใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษาเพื่อประเมินผลการดำเนินงานของโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ตามหลักเกณฑ์และวงเงินที่คณะกรรมการกองทุนฯ กำหนด พร้อมทั้งประเมินผลการดำเนินงานโครงการและเสนอข้อพิจารณาประกอบรายงานการประเมินผลโครงการ และนำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณา
2. คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน โดยมี ศ.ดร. จุลละพงษ์ จุลละโพธิ เป็นประธานอนุกรรมการ มีผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 ท่าน เป็นอนุกรรมการ และมีผู้แทน สนพ. เป็นเลขานุการฯ เพื่อทำหน้าที่ในการประเมินผลการดำเนินงานของโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินจากกองทุนฯ เป็นรายโครงการ และเสนอข้อพิจารณาประกอบรายงานการประเมินผลของโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินจากกองทุนฯ และนำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ ต่อไป
3. ปัจจุบันโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงานมีเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้คณะอนุกรรมการประเมินผลฯ ต้องรับภาระหน้าที่ในการประเมินผลโครงการมากขึ้น ประกอบกับการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านพลังงานในขณะนี้มีความหลากหลาย จำเป็นจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อร่วมพิจารณาประเมินผลโครงการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยครอบคลุมในสาขาวิชาต่างๆ มากยิ่งขึ้น ประกอบกับอนุกรรมการ คือ ศ.ดร. ปิยะวัติ บุญ-หลง ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็นอนุกรรมการประเมินผลฯ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป ที่ประชุมคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ จึงเห็นสมควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ ใหม่ ดังนี้
(1) นายจุลละพงษ์ จุลละโพธิ | ประธานอนุกรรมการ |
(2) นายวิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล | อนุกรรมการ |
(3) นายศุภชาติ จงไพบูลย์พัฒนะ | อนุกรรมการ |
(4) นายธีระพงษ์ วิกิตเศรษฐ | อนุกรรมการ |
(5) นายทนงเกียรติ เกียรติศิริโรจน | อนุกรรมการ |
(6) นายสมชาติ โสภณรณฤทธิ์ | อนุกรรมการ |
(7) นายกล้าณรงค์ ศรีรอต | อนุกรรมการ |
(8) นายธราพงษ์ วิทิตศานต์ | อนุกรรมการ |
(9) ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน | อนุกรรมการและเลขานุการ |
ประธานกรรมการกองทุนฯ เห็นว่าองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ ที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ จึงให้ฝ่ายเลขานุการฯ พิจารณาปรับปรุงองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ โดยให้มีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขามากขึ้น และครอบคลุมสาขาต่างๆได้แก่ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และการบัญชี และให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
เนื่องจาก ได้ล่วงเลยเวลาที่ประธานกรรมการจะต้องไปทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการใช้งบประมาณแผ่นดิน ณ กระทรวงการคลัง จึงขอปิดการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ และให้นำระเบียบวาระการประชุมที่เหลือ ไปพิจารณาอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป
กอ. ครั้งที่ 49 - วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2552
มติคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 1/2552 (ครั้งที่ 49)
วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.30 น.
ณ ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
1. รายงานฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552
2. รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 2549 และ 2550 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
3. รายงานการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2550
4. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
5. เกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2552
6. การนำเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานฝากธนาคารของรัฐ
7. การขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
8. การขอขยายระยะเวลาผูกพันและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2551 ของ พพ.
รองนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ สภาวสุ) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
ฝ่ายเลขานุการฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า นายปิยะวัติ บุญ-หลง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ตามหนังสือที่ นร 6809/0143/2552 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2552 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป เนื่องจากหมดวาระการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
มติที่ประชุม
รับทราบการลาออกจากคณะกรรมการกองทุนฯ ของนายปิยะวัติ บุญ-หลง
เรื่องที่ 1 รายงานฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552
ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รายงานที่ประชุมเพื่อทราบฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 มีเงินคงเหลือ จำนวน 10,632,792,295.63 บาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1. | เงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน | 5,465,968,767.07 บาท |
2. | เงินโครงการพัฒนาระบบการขนส่ง | 5,166,823,528.56 บาท |
รวมเป็นเงิน | 10,632,792,295.63 บาท | |
ประกอบด้วย | ||
1) เงินฝากธนาคารกรุงไทย - ออมทรัพย์ | 10,556,897,955.63 บาท | |
2) เงินฝากธนาคารกสิกรไทย - ออมทรัพย์ | 75,894,340.00 บาท |
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบฐานะการเงินกองทุนฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 2 รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 2549 และ 2550 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
1. ระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 30 กำหนดให้กรมบัญชีกลาง (บก.) จัดทำรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนและเงินคงเหลือบัญชีเงินฝากกองทุนฯ เพื่อเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เป็นรายไตรมาส และส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อทราบ และให้จัดทำงบการเงินประจำปีส่งให้ สตง. ตรวจสอบรับรอง แล้วรายงานให้คณะกรรมการกองทุนฯ ทราบต่อไป
2. บก. ได้รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 2549 และ 2550 โดย สตง. มีข้อเสนอแนะให้กองทุนฯ ดำเนินการต่างๆ ดังนี้
2.1 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) นำเงินกองทุนฯ ที่เบิกจาก บก. และค้างจ่ายอยู่ที่ สนพ. ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 จำนวน 184,476,648.16 บาท เพื่อรอจ่ายให้กับผู้ได้รับจัดสรรเงินกองทุนฯ หรือคู่สัญญา ตามโครงการต่างๆ โดยให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินดังกล่าว ที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว หากโครงการใดมีปัญหาอุปสรรค ที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนงานเดิม ก็ควรส่งเงินจำนวนนั้นคืนกองทุนฯ
2.2 ให้ สนพ. นำเงินสนับสนุนทุนการศึกษา ทุนวิจัย ทุนฝึกอบรม และเงินพัฒนาหลักสูตรสื่อการเรียนการสอน ที่เบิกจากกองทุนฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2543 - 2549 และค้างอยู่ที่ สนพ. ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2551 จำนวน 14,083,873.77 บาท ส่งคืนกองทุนฯ
2.3 ให้เรียกเงินคืนจาก กทม. ในส่วนที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ และมิได้ดำเนินการตามแผนที่กำหนด ตามโครงการจัดซื้อรถเก็บขนมูลฝอยชนิดใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง จำนวน 45,500,000 บาท พร้อมดอกผลนำส่งคืนกองทุนฯ โดยเร็ว
2.4 ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) นำเงินค่าปรับจำนวน 1,149,457.80 บาท และเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2545-2549 ที่สถาบันการเงินส่งคืนรวมทั้งดอกเบี้ย ส่งคืนกองทุนฯ จำนวน 1,283,204,374.89 บาท
2.5 ให้ตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้โครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ไม่สามารถดำเนินการตามแผนงานหรือการดำเนินงานไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และหาแนวทางแก้ไขเพื่อให้การใช้จ่ายเงินกองทุนฯ บรรลุวัตถุประสงค์ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ข้อ 25
2.6 ให้นำเสนอผลการตรวจสอบของ สตง. ให้คณะกรรมการกองทุนฯ รับทราบปัญหา อุปสรรค จากผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาสั่งการให้มีการปฏิบัติตามแผนงานที่กำหนด และให้การดำเนินงานโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ โดยถือปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 30 โดยเคร่งครัด
3. สนพ. และ พพ. ได้ดำเนินการตามที่ สตง. ได้เสนอแนะแล้ว โดยได้ส่งเงินคืนกองทุนฯ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 2549 และ 2550 ของ สตง. ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ และในส่วนโครงการจัดซื้อรถเก็บขนมูลฝอยชนิดใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ที่ประชุมได้มีมติให้ฝ่ายเลขานุการฯ แจ้ง กทม. ให้ยุติโครงการและส่งเงินคืนกองทุนฯ โดยให้ กทม. ยื่นขอรับการสนับสนุนอีกครั้ง เมื่อพร้อมที่จะดำเนินโครงการดังกล่าว
เรื่องที่ 3 รายงานการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2550
1. คณะกรรมการกองทุนฯ ได้แต่งตั้ง "คณะทำงานเตรียมการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน)" เพื่อทำหน้าที่ในการเตรียมการเพื่อดำเนินการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน โดยมี ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะทำงานฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินกองทุนฯ เป็นคณะทำงานฯ และผู้แทน สนพ. เป็นคณะทำงานและเลขานุการฯ
2. "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ได้เข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนของ บก. ในปีประจำบัญชี 2549 โดยมีประธานกรรมการกองทุนฯ เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน) กับกระทรวงการคลัง โดย บก. ได้มอบหมายให้ บริษัท ไทยเรตติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด เป็นผู้ดำเนินการประเมิน
3. เพื่อให้การประเมินผลการดำเนินงานฯ มีเกณฑ์ที่เหมาะสม ถูกต้อง ตามสภาพความเป็นจริงของการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงาน บก. จึงได้กำหนดเกณฑ์ประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้าน รวม 7 ตัวชี้วัด ดังนี้
1. ผลการดำเนินงานด้านการเงิน (15%)
ตัวชี้วัดที่ 1.1 ร้อยละของงบประมาณที่มีการผูกพันสัญญาต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนฯ ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2550 อยู่ในระดับร้อยละ 94.01 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 3.8020
ตัวชี้วัดที่ 1.2 ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริหารกองทุนฯ ที่เกิดขึ้นจริงเทียบกับงบประมาณ ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2550 อยู่ในระดับร้อยละ 69.64 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
2. ผลการดำเนินงานด้านปฏิบัติการ (30%)
ตัวชี้วัดที่ 2.1 ร้อยละของโครงการที่มีการทำสัญญาของแต่ละแผนงาน ต่อจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดของแต่ละแผนงาน ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2550
- แผนพลังงานทดแทน อยู่ในระดับร้อยละ 95.00 ส่งผลให้ได้คะแนน 4.0000
- แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อยู่ในระดับร้อยละ 94.05 ส่งผลให้ได้คะแนน 3.8100
- แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ อยู่ในระดับร้อยละ 100 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
ตัวชี้วัดที่ 2.2 ร้อยละของจำนวนโครงการที่สามารถดำเนินงานได้ตามแผนภายระยะเวลาที่กำหนดต่อจำนวนโครงการทั้งหมด
- แผนพลังงานทดแทน อยู่ในระดับร้อยละ 76.03 ส่งผลให้ได้คะแนน 1.0000
- แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อยู่ในระดับร้อยละ 64.44 ส่งผลให้ได้คะแนน 1.0000
- แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ อยู่ในระดับร้อยละ 100 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
3. การสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (15%)
ตัวชี้วัดที่ 3.1
- การศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างการบริหารกองทุนฯ เนื่องจากคณะอนุกรรมการกองทุน มีอำนาจคัดเลือกโครงการและมีอำนาจในการบริหารจัดการมากขึ้นแล้ว ตาม พรบ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 จึงไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน 3 ขั้นตอนได้ ทำให้มีระดับคะแนน 1.0000
- การศึกษารูปแบบการบริหารกองทุนฯ เนื่องจากมี กฎหมายที่กำหนดให้จัดตั้งกองทุนในกระทรวงพลังงานแล้ว ตาม พรบ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550 จึงไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน 3 ขั้นตอน ส่งผลให้มีระดับคะแนน 1.0000
4. การบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน (40%)
ตัวชี้วัดที่ 4.1 เนื่องจากกองทุนฯ จะโอนจาก กระทรวงการคลังมายังกระทรวงพลังงาน เพื่อรอความชัดเจนของการโอนงาน จึงยังไม่ได้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้ และคาดว่าการพัฒนา/ปรับปรุงโปรแกรมสำเร็จรูปการบริหารการเงินจะดำเนินการได้ประมาณปี 2552 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 2.5292
ตัวชี้วัดที่ 4.2 การติดตามประเมินผลตามวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นปี 2550 ได้สรุปรายงานการติดตามประเมินผลลัพธ์ และเสนอคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ โดยได้รับความเห็นชอบ ภายใน 30 กันยายน 2550 ส่งผลให้มีระดับคะแนน 5.0000 ทำให้ผลการดำเนินงานดีกว่าเป้าหมายมาก
4. ในปีบัญชี 2549 TRIS ประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ โดยภาพรวม อยู่ในระดับ 3.6036 คะแนน และสำหรับในปีบัญชี 2550 บก. ได้รายงานผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ให้ทราบว่า อยู่ในระดับ 2.843 คะแนน
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบรายงานการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2550
เรื่องที่ 4 งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 ได้รับทราบแผนอนุรักษ์พลังงานและเป้าหมาย ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2554 ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเสนอ โดยมีเป้าหมายและการดำเนินการจะลดปริมาณการใช้พลังงานลง 7,820 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็นร้อย 10.8 ของความต้องการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศในปี 2554 และกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้แทนพลังงานเชิงพาณิชย์ 8,858 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็นร้อยละ 12.2 ของความต้องการใช้พลังงานในปี 2554
2. ณะกรรมการกองทุนฯ ได้จัดสรรเงินกองทุนฯ จำนวน 89,848,165,183 บาท เพื่อนำไปช่วยเหลือ อุดหนุน หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน สนับสนุนการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว เป็นรายจ่ายสำหรับแผนอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 18,881 ล้านบาท และงบประมาณรอจ่ายสำหรับ โครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง จำนวน 70,967 ล้านบาท โดยอนุมัติจำนวนเงินจำแนกตามแผนงานรายปี ดังนี้
ปีงบประมาณ | 2551 | 2552 | 2553 | 2554 | 2555 | รวม 5 ปี |
1. แผนพลังงานทดแทน | 4,838 | 1,190 | 1,315 | 880 | 1,110 | 9,332 |
2. แผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ | 12,549 | 15,927 | 17,940 | 17,116 | 16,736 | 80,267 |
- ดำเนินการตามแผนอนุรักษ์ฯ | 5,838 | 2,356 | 428 | 351 | 328 | 9,300 |
- ลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง | 6,711 | 13,571 | 17,512 | 16,765 | 16,408 | 70,967 |
3. แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ | 249 | 249 | ||||
รวม (ล้านบาท) | 17,635 | 17,116 | 19,255 | 17,996 | 17,846 | 89,848 |
รวม (ล้านบาท) ไม่รวมขนส่ง | 10,924 | 3,545 | 1,743 | 1,231 | 1,438 | 18,881 |
3.ความคืบหน้าของการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เป็นไปตามแผนฯ โดยงบประมาณปี 2551 จำนวน 10,924 ล้านบาท มีการเบิกจ่าย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จำนวน 2,393 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22 และเป็นเงินส่งคืนกองทุนฯ จำนวน 924 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8 โดยรายจ่ายผูกพันของงบประมาณปี 2551 จำนวน 7,607 ล้านบาท โดยสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้
(1) เป้าหมายและผลลดการใช้พลังงาน ภาคอุตสาหกรรม
แผนและเป้าหมาย | 2549 | 2550 | 2551 | 2552 | 2553 | 2554 |
1. การดำเนินการตาม พรบ. * | - | - | 25 | 50 | 100 | 211 |
2. การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี | 52 | 134 | 232 | 341 | 454 | 570 |
แผนและเป้าหมาย | 2549 | 2550 | 2551 | 2552 | 2553 | 2554 |
3. การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ | 75 | 200 | 300 | 400 | 500 | 600 |
4. ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ESCO | 12 | 49 | 97 | 153 | 224 | 300 |
5. การอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม | 47 | 100 | 200 | 300 | 400 | 551 |
6. การสาธิตเทคโนโลยีระดับสูง | - | 9 | 25 | 50 | 100 | 200 |
7. DSM Bidding+โรงแรม | 75 | 149 | 149 | 149 | 149 | |
8. นโยบาย CoGen | 311 | 358 | 406 | 500 | 608 | |
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) | 186 | 878 | 1,387 | 1,849 | 2,427 | 3,190 |
ผลประหยัด ktoe (สะสม) ณ ปี 255 1,345 |
(2) เป้าหมายและผลลดการใช้พลังงาน ด้านการจัดการ
แผนและเป้าหมาย | 2549 | 2550 | 2551 | 2552 | 2553 | 2554 |
1. มาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์ไฟฟ้า | ||||||
กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ (MEPs) | 7 | 36 | 63 | 93 | 134 | 179 |
กำหนดมาตรฐานขั้นสูง (Labeling) | 70 | 77 | 81 | 100 | 120 | 158 |
2. มาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์ความร้อน | ||||||
กำหนดมาตรฐานขั้นสูง เตา LPG | 3 | 6 | 8 | 11 | 14 | |
3. มาตรฐานสำหรับยานยนต์ | 4 | 8 | 40 | 100 | 140 | |
4. มาตรฐานสำหรับอาคาร | 1 | 1 | 1 | |||
5. ส่งเสริมการใช้งานอุปกรณ์ | 1 | 10 | 19 | 28 | ||
6. ส่งเสริมการใช้เตาถ่านประสิทธิภาพสูง | 6 | 17 | 28 | 46 | 68 | |
7. ส่งเสริม CFL | 2 | 17 | 31 | 46 | 46 | |
8. ส่งเสริม T5 | 18 | 56 | 148 | 260 | 408 | |
9. รณรงค์สร้างจิตสำนึก/ราชการ | 49 | 79 | 111 | 140 | 172 | 176 |
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) | 126 | 225 | 360 | 599 | 908 | 1,217 |
ผลประหยัด ktoe (สะสม) ณ ปี 2551 | 223 |
(3) เป้าหมายและผลลดการใช้พลังงาน ภาคขนส่ง
แผนและเป้าหมาย | 2549 | 2550 | 2551 | 2552 | 2553 | 2554 |
1. ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน | 127 | 136 | 144 | 153 | 1,441 | 1,554 |
2. ปรับปรุงระบบจัดการจราจร | 25 | 34 | 45 | 60 | 80 | 106 |
3. ส่งเสริมธุรกิจ LOGISTIC DEPOT และ ICD | 100 | 100 | 450 | 800 | 1,150 | 1,450 |
4. สร้างเครือข่ายระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ | 155 | 167 | 180 | 180 | 180 | 180 |
5. นโยบาย ECO CAR | 0 | 0 | 0 | 26 | 66 | 123 |
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) | 407 | 437 | 819 | 1,219 | 2,917 | 3,413 |
ผลประหยัด ktoe (สะสม) ณ ปี 2551 445 |
(4) เป้าหมายและผลลดการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
ประเภท | ผล | เป้าหมาย | ผล | เป้าหมาย | ตามแผน 15 ปี | หน่วย |
ปี 2550 | ปี 2551 | ปี 2551 | ปี 2554 | ปี 2554* | ||
1. การผลิตไฟฟ้า | ||||||
(1) พลังงานแสงอาทิตย์ | 32 | 34 | 36 | 45 | 55 | MW |
(2) พลังงานลม | 0.96 | 16 | 3.1 | 115 | 150 | MW |
(3) พลังงานน้ำ | 50 | 59 | 66 | 156 | 165 | MW |
(4) พลังงานชีวมวล | 1,507 | 1,807 | 1,655 | 2,800 | 2,800 | MW |
(5) ขยะ | 4.25 | 14.3 | 4.25 | 100 | 60 | MW |
(6) ก๊าซชีวภาพ | 29.2 | 34.2 | 68.8 | 60 | 100 | MW |
2. การใช้ความร้อน | ||||||
(7)พลังงานชีวมวล | 2,345 | 2,645 | 2,406 | 3,660 | 3,544 | ktoe/ปี |
(8)ก๊าซชีวภาพ | 79 | 140 | 144 | 370 | 540 | ktoe/ปี |
(9)พลังงานแสงอาทิตย์ | 0.3 | 0.9 | 0.3 | 5 | 17 | ktoe/ปี |
3. การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ | ||||||
(8) เอทานอล | 0.55 | 1.3 | 0.8 | 2.4 | 3 | ล้านลิตร/วัน |
(9) ไบโอดีเซล | 0.07 | 1.2 | 1.3 | 3 | 3 | ล้านลิตร/วัน |
4. กระทรวงพลังงาน มีการพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2552 เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้มีงบประมาณสำหรับใช้เป็นหลักในการใช้จ่ายเป็นเงินหมุนเวียน เงินช่วยเหลือ หรือเงินอุดหนุนสำหรับการลงทุน และดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน มาตรา 25 แห่ง "พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" โดยมี "คณะทำงานพิจารณากลั่นกรองงบประมาณประจำปี 2552 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ที่ประธานคณะอนุกรรมการกองทุนฯ แต่งตั้ง ทำหน้าที่กลั่นกรองงบประมาณและแผนการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ที่จะขอจัดสรรจากกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ 2552 ซึ่งคณะทำงานฯ ได้ยึดตามภารกิจสำคัญ 3 ด้าน ดังนี้
(1) ภารกิจตามข้อกำหนดและกฎหมาย พ.ร.บ.ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
(2) ภารกิจตามยุทธศาสตร์ระดับชาติ นโยบายรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน
(3) ภารกิจตามเจตนารมณ์ของกองทุนฯ ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และตามแผนและเป้าหมายอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2551-2554
คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายเรียบร้อยแล้ว สรุปผลงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของกองทุนฯ เป็นจำนวนไม่เกิน 2,405,004,804 บาท โดยแบ่งรายจ่ายออกเป็น 2 หน่วยงานผู้เบิกเงินกองทุนฯ คือ พพ. จำนวน 1,549,388,680 บาท และ สนพ. จำนวน 855,616,124 บาท
5. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2552 ได้รับทราบผลการดำเนินงานในช่วงปี 2551 และพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกองทุนฯ แล้ว เห็นควรให้เพิ่มเติมงบประมาณแผนพลังงานทดแทน งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค โครงการปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลมจาก 12,000,000 บาท เป็น 27,000,000 บาท เพื่อให้ พพ. ดำเนินการติดตั้งสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลมเพิ่มเติม ในส่วนที่ พพ. ไม่สามารถดำเนินการผูกพันงบประมาณได้ทันในปีงบประมาณ 2551 จึงเห็นชอบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เป็นจำนวน 2,420,004,804 บาท ดังนี้
จำแนกตามแผนอนุรักษ์พลังงาน | รวม | ร้อยละ | จำแนกตามหน่วยผู้เบิก (บาท) | |
พพ. | สนพ. | |||
1. แผนพลังงานทดแทน | 974,012,560.00 | 40.25% | 436,388,680.00 | 537,623,880.00 |
1.1 งานศึกษาวิจัยพัฒนา | 236,540,000.00 | 10% | 86,540,000.00 | 150,000,000.00 |
1.2 งานส่งเสริมและสาธิต | 275,895,680.00 | 11% | 275,895,680.00 | - |
1.3 งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ | 435,276,880.00 | 18% | 47,653,000.00 | 387,623,880.00 |
1.4 งานบริหารแผนงาน | 26,300,000.00 | 1% | 26,300,000.00 | |
2. แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 1,329,700,000.00 | 54.95% | 1,128,000,000.00 | 201,700,000.00 |
2.1 งานศึกษาวิจัยพัฒนา | 93,500,000.00 | 4% | 58,500,000.00 | 35,000,000.00 |
2.2 งานส่งเสริมและสาธิต | 1,011,500,000.00 | 42% | 1,011,500,000.00 | - |
2.3 งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ | 202,200,000.00 | 8% | 35,500,000.00 | 166,700,000.00 |
2.4 งานบริหารแผนงาน | 22,500,000.00 | 1% | 22,500,000.00 | |
3. แผนบริหารเชิงกลยุทธ์ | 116,292,244.00 | 4.81% | - | 116,292,244.00 |
3.1 งานศึกษาวิจัยเชิงนโยบาย | 15,000,000.00 | 1% | - | 15,000,000.00 |
3.2 งานบริหารแผนงาน | 101,292,244.00 | 4% | - | 101,292,244.00 |
รวมงบประมาณ กทอ. ปี 2552 | 2,420,004,804.00 | 100% | 1,564,388,680.00 | 855,616,124.00 |
เนื่องด้วย พพ. และ สนพ. มีงานบริหารเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานที่ต้องดำเนินงานต่อเนื่อง เช่น การเบิกจ่ายเงินให้หน่วยงาน โครงการ ตามข้อผูกพันสัญญาฯ การประสานหน่วยงาน โรงงาน อาคาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอนุรักษ์พลังงาน การให้คำแนะนำกับประชาชนในเรื่องวิธีประหยัดพลังงาน ฯลฯ จึงมีรายจ่ายประจำที่จำเป็นเพื่อการบริหารงานที่เกิดขึ้นแล้ว ได้แก่ ค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการสัมมนา ค่าใช้จ่ายในการจัดงานวันครบรอบสถาปนา สนพ. และ เงินสมทบกองทุนประกันสังคมฝ่ายนายจ้าง เป็นต้น ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเห็นควรเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาเห็นชอบให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ของกองทุนฯ งานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551
มติที่ประชุม
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกองทุนฯ เป็นจำนวน 2,396,252,804 บาท (สองพันสามร้อยเก้าสิบหกล้านสองแสนห้าหมื่นสองพันแปดร้อยสี่บาทถ้วน) โดยแบ่งรายจ่ายออกเป็น 2 หน่วยงานผู้เบิกเงินกองทุนฯ ดังนี้
(1) พพ. จำนวน 1,540,636,680 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยสี่สิบล้านหกแสนสามหมื่นหกพันหกร้อยแปดสิบบาทถ้วน)
(2) สนพ. จำนวน 855,616,124 บาท (แปดร้อยห้าสิบห้าล้านหกแสนหนึ่งหมื่นหกพันหนึ่งร้อยยี่สิบสี่บาทถ้วน)
หน่วย : บาท
หน่วยงาน | แผนพลังงานทดแทน | แผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ | แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ | รวม |
1) พพ. | 412,636,680 | 1,128,000,000 | 1,540,636,680 | |
2) สนพ. | 537,623,880 | 201,700,000 | 116,292,244 | 855,616,124 |
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติให้ค่าใช้จ่ายในงานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 โดยให้แต่ละหน่วยงานสามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในหมวดต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
เรื่องที่ 5 เกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2552
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 มีมติอนุมัติให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีเงินนอกงบประมาณ ถือปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลเงินนอกงบประมาณ ที่กระทรวงการคลังเสนออย่างเคร่งครัด โดยให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ติดตามผลการดำเนินงาน ซึ่ง บก. เริ่มใช้ระบบประเมินผลทุนหมุนเวียนตั้งแต่ปีบัญชี 2547 เป็นต้นไป โดยกองทุนฯ เป็นทุนหมุนเวียนที่เข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงาน ตั้งแต่ปีบัญชี 2549
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้จัดประชุมเพื่อหารือระหว่างผู้ถูกประเมินกับผู้ประเมิน คือ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ทริส) เพื่อจัดทำร่างเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2552 และ ตัวชี้วัดที่จะต้องทำการประเมินที่เหมาะสม ถูกต้อง ตามสภาพความเป็นจริงของการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงาน
3. บก. ได้มีหนังสือเรื่อง "การลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552" ให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอให้ประธานกรรมการกองทุนฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานฯ และส่งคืน บก. ภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้มีหนังสือเวียนถึง "คณะทำงานเตรียมการเพื่อดำเนินการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน)" โดยมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เพื่อขอความเห็นชอบร่างเกณฑ์การประเมินผลฯ ตามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552 ซึ่งคณะทำงานเตรียมการฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างเกณฑ์การประเมินผลฯ ตามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552 และให้นำเสนอคณะอนุกรรมการกองทุนฯ และ คณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
4. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้พิจารณาบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552 ที่ประธานกรรมการกองทุนฯ จะลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินกับกระทรวงการคลัง ตามที่ บก. เสนอมาโดยให้สอดคล้องกับร่างเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2552 แล้ว โดยจะประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน 4 ด้าน 10 ตัวชี้วัด สรุปได้ ดังนี้
เกณฑ์วัดการดำเนินงาน | สาระสำคัญของเกณฑ์วัด | |
1. ผลการดำเนินงานด้านการเงิน (ร้อยละ 15) | ||
ตัวชี้วัดที่ 1.1 | ร้อยละของงบประมาณที่มีการผูกพันสัญญาต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนฯ (ร้อยละ 10) |
ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51 โดยปรับรายละเอียดให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของกองทุน |
ตัวชี้วัดที่ 1.2 | ค่าใช้จ่ายบริหารที่เกิดขึ้นจริงและผูกพันเทียบกับงบประมาณ (ร้อยละ 5) |
ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51 โดยปรับรายละเอียดให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของกองทุน |
2. ผลการดำเนินงานด้านปฏิบัติการ (ร้อยละ 33) | ||
ตัวชี้วัดที่ 2.1 | ร้อยละของจำนวนโครงการที่มีการทำสัญญา ของแต่ละแผนงาน ต่อจำนวนโครงการ ที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด ของแต่ละแผนงาน (ร้อยละ 16)
|
ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51 |
ตัวชี้วัดที่ 2.2 | ร้อยละความสำเร็จของจำนวนโครงการที่ผูกพันและดำเนินงานได้ตามแผนภายในปีบัญชี 2552 ต่อจำนวนโครงการที่ผูกพันและมีแผนดำเนินงานภายในปีบัญชี 2552 (ร้อยละ 17)
|
ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51 |
3. การสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ร้อยละ 15) | ||
ตัวชี้วัดที่ 3.1 | การจัดทำแผนการปรับปรุงการให้บริการจากผลสำรวจความพึงพอใจและการดำเนินงานตามแผนการปรับปรุงฯ ประจำปีบัญชี 2552 (ร้อยละ 15) |
ดำเนินงานต่อจากปี 51 ซึ่งได้สำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการกองทุนไว้เสร็จแล้ว โดยในปี 52 เป็นการจัดทำแผนการปรับปรุงการดำเนินงานจากผลสำรวจความพึงพอใจ พร้อมกับดำเนินงานตามแผนให้ทันภายใน 30 กันยายน 2552 |
4. การบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน (ร้อยละ 37) | ||
ตัวชี้วัดที่ 4.1 | การทบทวนแผนกลยุทธ์กองทุนฯ (ร้อยละ10) |
เป็นการทบทวนแผนกลยุทธ์ของกองทุนซึ่งเคยทำไว้เมื่อปี 49 ให้ทันสมัย โดยต้องวิเคราะห์สถานการณ์สิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ SWOT กองทุน ตลอดจนกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายระยะยาว และเป้าหมายประจำปี เพื่อนำไปสู่การบรรลุตามวิสัยทัศน์ของกองทุนฯ และแผนจะได้ระดับ 5 เมื่อได้รับความเห็นชอบจากประธานคณะทำงานเตรียมการฯ |
ตัวชี้วัดที่ 4.2 | การจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีบัญชี 2553 (ร้อยละ 7) |
เป็นการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีบัญชี 2553 ให้มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ของกองทุน ตามตัวชี้วัด 4.1 โดยมีการกำหนดเป้าหมาย น้ำหนัก ผลลัพธ์ ที่สามารถวัดได้ในแต่ละกิจกรรมไว้อย่างชัดเจน และสามารถใช้ในการประเมินผลได้ |
ตัวชี้วัดที่ 4.3 | การดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีบัญชี 2552 (ร้อยละ 8) |
|
|
เป็นการศึกษาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสารสนเทศและโปรแกรมสำเร็จรูปของ 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกองทุน คือ สนพ. และ พพ. ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยในปี 52 เป็นการศึกษาระบบที่มีอยู่แล้วของทั้ง 2 หน่วยงาน และในปี 53 จึงเริ่มดำเนินการ | |
|
เป็นการประเมินเกี่ยวกับการจัดประชุม/สัมมนา เกี่ยวกับปัญหาของหน่วยงานภายในกองทุน และการจัดอบรมให้ความรู้แก่หน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรเงินของกองทุน | |
ตัวชี้วัดที่ 4.4 | การติดตามประเมินผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ร้อยละ 7) | ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51 และปรับรายละเอียดให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการประเมินผลภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน |
ตัวชี้วัดที่ 4.5 | บทบาทของผู้บริหารกองทุนฯ (ร้อยละ 5) |
เป็นตัวชี้วัดร่วมของกองทุนต่างๆ กับกระทรวงการคลัง ที่มีสินทรัพย์ของกองทุนตั้งแต่พันล้านบาทขึ้นไป ตัวชี้วัดนี้เป็นประเมินการทำหน้าที่ของผู้บริหารกองทุนฯ และฝ่ายเลขานุการฯ เพื่อให้ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนที่อยู่ในความดูแลซึ่งประกอบด้วย 1. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ 2. คณะทำงานเตรียมการเพื่อดำเนินการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนฯ) ที่มี ปพน. เป็นประธาน 3. สนพ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ ของทั้ง 2 คณะ ประเด็นสำคัญในการประเมินคือ 1. มีการประชุมและติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการทั้ง 2 คณะ ทุกไตรมาสหรือไม่ รวมทั้งมีมติ ข้อเสนอแนะและข้อสังเกตอย่างไร 2. ในส่วนของ สนพ. ได้ดำเนินการตามมติตามข้อ 1 ครบถ้วนหรือไม่ |
มติที่ประชุม
เห็นชอบเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2552 และ มอบอำนาจให้ประธานคณะกรรมการกองทุนฯ ลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552 กับ กระทรวงการคลัง ต่อไป
เรื่องที่ 6 การนำเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานฝากธนาคารของรัฐ
1. พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ตามมาตรา 24 ได้กำหนดให้จัดตั้ง "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ในกระทรวงพลังงาน เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน และใช้จ่ายช่วยเหลือ หรือ อุดหนุนการดำเนินงาน และ พรบ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 มาตรา 24/1 กำหนดให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และเงินจาก "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในกระทรวงการคลัง" ไปเป็นของ "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน" โดยปลัดกระทรวงพลังงานมอบหมายให้ สนพ. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกองทุนฯ เป็นผู้รับโอนงาน
2. สนพ. ฝากเงินกองทุนฯ ไว้กับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานขาว ประเภทออมทรัพย์ และเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ (ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขา กิ่งเพชร) สำหรับรองรับการโอนเงินจากบัญชีเงินฝากกองทุนฯ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเบิกจ่ายเงิน และโอนเงินให้แก่ผู้เบิกเงินกองทุน ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 หมวด 1 การรับเงินกองทุน ข้อ 6.
3. เงินรวมของกองทุนฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 มีจำนวนประมาณ 10,632 ล้านบาท โดยเป็นเงินรอจ่ายให้กับผู้เบิกเงินกองทุนฯ คือ สนพ. และ พพ. นำไปใช้จ่ายตามแผนการใช้จ่ายเงินประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนจำนวนเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 4,600 ล้านบาท จะเก็บอยู่ใน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานขาว ประเภทออมทรัพย์ และเกิดดอกผลในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ปัจจุบัน ร้อยละ 0.50 บาทต่อปี ทำให้กองทุนฯ เสียโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนในระดับสูงจากเงินฝากที่มีอยู่ 4,600 ล้านบาท ทั้งนี้ โดยวิธีปฏิบัติเมื่อครั้งที่กองทุนฯ ยังอยู่ในกระทรวงการคลังนั้น บก. จะนำเงินกองทุนฯ ส่วนที่เกินความจำเป็นใช้ตามช่วงเวลานั้นๆ ไปฝากกับสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเภทฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน หรืออื่นๆ ที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่สูงกว่าประเภทออมทรัพย์ ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะบริหารเงินของกองทุนฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. สนพ. (ในฐานะผู้เก็บรักษาเงินของกองทุนฯ) เห็นว่า ถ้าสามารถจัดสรรเงินโดยคำนึงถึงสภาพคล่องของกองทุนฯ และนำเงินส่วนที่เกินความจำเป็นต้องใช้ตามช่วงเวลานั้นๆ ไปฝากกับสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเภทฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน หรืออื่นๆ เหมือนดังที่ บก. ได้เคยปฏิบัติไว้ ก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่การบริหารเงินของกองทุนฯ จะเกิดประโยชน์มากขึ้น
มติที่ประชุม
เห็นชอบและมอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาอนุมัติวงเงินและประเภทเงินฝากที่จะนำเงินกองทุนฯ ที่เกินความจำเป็นในการเบิกจ่ายเงินตามภาระผูกพัน ฝากธนาคารที่เป็นของรัฐ โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง และเมื่อดำเนินการแล้วให้รายงานคณะกรรมการกองทุนฯ รับทราบต่อไป
เรื่องที่ 7 การขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ไปแล้ว ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการจากที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้พิจารณาและอนุมัติไว้ รวมจำนวน 52 โครงการ โดยตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินฯ ตามข้อ 1.3 (2) หมวด 3 ข้อ 24 กำหนดว่า การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้พิจารณาเหตุผลและรายละเอียดที่เจ้าของโครงการฯ ทั้ง 52 โครงการ ได้แจ้งขอเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยจำแนกเรื่องที่ขอเปลี่ยนแปลงออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
2.1 ขอเปลี่ยนแปลง เพื่ออนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เกิน 3 เดือนนับจากวันสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา จำนวน 17 โครงการ
มีสาเหตุจาก คู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุน ไว้กับ พพ. จำนวน 10 โครงการ และ สนพ. จำนวน 7 โครงการ โดยคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรได้ส่งงาน/รายงานตามเวลาที่กำหนดไว้แล้ว แต่การตรวจรับงานของ พพ. และ สนพ. พบว่าผลงานยังไม่สมบูรณ์ตามข้อตกลง เช่น ขาดรายละเอียด ขาดข้อมูลหรือเอกสารอ้างอิง ขาดประเด็นสำคัญ ฯลฯ และให้คู่สัญญาหรือผู้ได้รับจัดสรรเงินนั้น ดำเนินการให้รายงานฉบับนั้นๆ เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งการปรับปรุงรายงานได้ใช้เวลาระยะหนึ่ง ที่ส่งผลให้เลยกำหนดระยะเวลา 3 เดือน นับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญาหรือหนังสือยืนยันการรับทุน พพ. และ สนพ. จึงได้เสนอขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นๆ
การปฏิบัติข้างต้น เป็นการดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 16 ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายเงินกองทุนไว้ "ให้ผู้เบิกเงินกองทุนใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายประจำปีได้ ภายในวงเงินและปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ กรณีผู้เบิกเงินกองทุนก่อหนี้ผูกพันภายในปีงบประมาณแต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณนั้นๆ ให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นๆ ต่อไปได้ ภายในสาม (3) เดือนนับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา"
ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าการขยายเวลาของทั้ง 17 โครงการดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับแล้ว และไม่ได้ทำให้ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการลดลง จึงเห็นควรให้ทั้ง 17 โครงการดังกล่าว ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายแต่ละรายการ ได้ตามที่เสนอมา โดยให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายออกไปได้อีก 3 เดือน นับจากวันที่คณะกรรมการกองทุนฯ มีมติอนุมัติ
2.2 ขอเปลี่ยนแปลง เพื่ออนุมัติขยายระยะเวลาโครงการฯ จำนวน 26 โครงการ
มีสาเหตุจาก คู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้กับ พพ. และ สนพ. จำนวน 26 โครงการ แต่ละหน่วยงานได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น ต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูลสำหรับการทำวิทยานิพนธ์ การรอเวลาเพื่อนำผลงานวิจัยไปตีพิมพ์ทั้งในและต่างประเทศ การปรับรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่เป้าหมาย การทำงานวิจัยแล้วผลการทดลองมีความคลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จำเป็นต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ผลการทดลองเพิ่มเติม เป็นต้น
ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าการขยายเวลาของทั้ง 26 โครงการดังกล่าว เห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเจตนาของผู้ได้รับทุน และการเปลี่ยนแปลงแต่ละรายการไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับแล้ว และไม่ได้ทำให้ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการลดลง จึงเห็นควรให้ทั้ง 26 โครงการดังกล่าว ขยายระยะเวลาโครงการออกไปได้
2.3 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ และ/หรือ ขอขยายระยะเวลาดำเนินการ จำนวน 9 โครงการ
มีสาเหตุจาก คู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้แต่ละหน่วยงานได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดกิจกรรมย่อยให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารของโครงการ และการขอโอนย้ายหน่วยงานในการชดใช้ทุนของผู้ได้รับทุนการศึกษา เป็นต้น
ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียด และ/หรือการขอขยายระยะเวลาดำเนินการดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะทำให้โครงการเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับแล้ว จึงเห็นควรให้ทั้ง 9 โครงการดังกล่าว เปลี่ยนแปลงรายละเอียด และ/หรือขยายระยะเวลาโครงการออกไปได้
มติที่ประชุม
อนุมัติให้โครงการตาม ข้อ 2.1 ข้อ 2.2 และ 2.3 รวม 52 โครงการ โดยให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เกิน 3 เดือนนับจากวันสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญาหรือหนังสือยืนยันการรับทุน ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการฯ และปรับรายละเอียดโครงการฯ ได้ตามที่ขอมา
เรื่องที่ 8 การขอขยายระยะเวลาผูกพันและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2551 ของ พพ.
1. พพ. ได้ขออนุมัติขยายระยะเวลาการผูกพันและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ สำหรับโครงการของ พพ. จำนวน 9 โครงการ ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ พบว่า การดำเนินงานโครงการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2551 สำหรับโครงการของ พพ. 9 โครงการ ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ในข้อ 16 ซึ่งระบุไว้ว่า "ให้ผู้เบิกเงินกองทุนใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายประจำปีได้ภายในวงเงินและปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ"
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้เชิญผู้แทนจาก พพ. บก. และนิติกรของกระทรวงพลังงาน ร่วมประชุมหารือเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2551 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาตามข้อกำหนดของระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่า ไม่มีข้อกำหนดหรือวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ผู้เบิกเงินกองทุนฯ ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ และจากข้อกำหนดของระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ในข้อ 4 ซึ่งระบุไว้ว่า "หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในเรื่องการเก็บรักษาเงิน การเบิกจ่ายเงินและการพัสดุ ที่มิได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับหรือคำสั่งของทางราชการโดยอนุโลม ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการได้ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกองทุนกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง" ที่ประชุมจึงเห็นควรให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณา โดยให้ พพ. พิจารณาทบทวนถึงความจำเป็นในการขอขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันของโครงการทั้ง 9 โครงการ พร้อมทั้งชี้แจงปัญหาอุปสรรคของโครงการ เสนอคณะอนุกรรมการฯ และคณะกรรมการกองทุนฯ
3. พพ. ได้ชี้แจงว่ามีโครงการที่จำเป็นต้องขอก่อหนี้ผูกพัน เนื่องจากเป็นโครงการที่ดำเนินการประกวดราคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 4 โครงการ ดังนี้
(1) โครงการปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลม พพ. ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในวงเงิน 25,000,000 บาท โดยแยกการดำเนินงานเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย (1) ค่าบริหารโครงการ 850,000 บาท (2) ค่าปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลม ส่วนการจัดทำโครงสร้างเสาวัดลมพร้อมติดตั้ง 15,000,000 บาท และ (3) ค่าปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพลม ส่วนการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องวัดลมและบันทึกข้อมูลพร้อมอุปกรณ์ประกอบ 9,150,000 บาท
(2) โครงการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขนาดใหญ่ จ.ปัตตานี พพ. ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในวงเงิน 125,000,000 บาท โดยแยกการดำเนินงานเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย (1) ค่าจ้างศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม 1,500,000 บาท (2) ค่าอำนวยการและบริหาร 3,500,000 บาท และ (3) ค่ากังหันลมพร้อมติดตั้งและทดสอบ 120,000,000 บาท
(3) โครงการรณรงค์และประกวดด้านอนุรักษ์ พพ. ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในวงเงิน 77,000,000 บาท
(4) โครงการพัฒนาเซลล์แสงแดดไทยสู่ความเป็นเลิศ ระยะที่ 2 ปีที่ 1 พพ. ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในวงเงิน 40,000,000 บาท
มติที่ประชุม
เห็นชอบให้ พพ. ดำเนินการผูกพันรายจ่ายและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2551 สำหรับโครงการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขนาดใหญ่ จ.ปัตตานี ในวงเงิน 103,288,000 บาท และ โครงการรณรงค์และประกวดด้านอนุรักษ์พลังงาน สำหรับการจัดงาน "พลังงานก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า" ในวงเงิน 27,500,000 บาท ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 เดือน นับจากวันที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติอนุมัติ
กองทุนสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม มกราคม 2553
- กองทุนสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม มกราคม 2553 (1923 Downloads)
งบประมาณกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มกราคม 2553
- งบประมาณกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มกราคม 2553 (698 Downloads)
อนุ กอ. ครั้งที่ 18 - วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2553
มติคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 1/2553 (ครั้งที่ 18)
วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 09.30 น.
ณ ห้องประชุมบุญรอด-นิธิพัฒน์ ชั้น 11 อาคาร 7 กระทรวงพลังงาน
1. รายงานฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
2. รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว
3. ประมาณการกระแสเงินสดของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2553-2556
4. รายงานผลการดำเนินงานด้านอนุรักษ์พลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปี 2552
5. รายงานสรุปผลการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน
6. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2553 กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
7. แผนจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปีที่ 3
8. โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการปลูกพืชน้ำมันและพัฒนารูปแบบการผลิตพลังงานจากพืชแบบครบวงจรในพื้นที่ตัวอย่างเขตภาคเหนือ ปีที่ 4 และพิจารณาแผนงานโครงการฯ ปีที่ 5
9. การขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
10. เรื่องอื่นๆ
นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานอนุกรรมการ
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน อนุกรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 รายงานฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
เลขานุการฯ ได้รายงานฐานะเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ต่อคณะอนุกรรมการฯ ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท | |
ยอดยกมา ณ 1 ตุลาคม 2552 | 15,526.93 |
บวก รายรับ | 1,612.51 |
รวม | 17,139.44 |
หัก รายจ่าย | 1,520.69 |
คงเหลือ ณ 31 ธันวาคม 2552 | 15,618.75 |
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบฐานะการเงินกองทุนฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
1. พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 กำหนดให้คณะกรรมการกองทุนฯ จัดทำงบการเงินส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือบุคคลภายนอกซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ แต่งตั้งโดยความเห็นชอบของ สตง. เป็นผู้สอบบัญชีของกองทุนฯ และให้ทำการตรวจสอบและรับรองบัญชีและการเงินทุกประเภทของกองทุนภายใน 90 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณทุกปี
ให้ สตง. หรือผู้สอบบัญชี จัดทำรายงานผลการสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุนฯ เสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ภายใน 150 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
รายงานผลการสอบบัญชีและการเงิน ให้รัฐมนตรีเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภาเพื่อทราบและจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
2. สตง. ได้ตรวจสอบรับรองบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 เรียบร้อยแล้ว ฝ่ายเลขานุการ จึงขอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ดังนี้
2.1 งบแสดงฐานะการเงินของกองทุนฯ
หน่วย: ล้านบาท
เงินสด | 7,229.38 |
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น | 5,332.19 |
รายได้ค้างรับ | 78.14 |
หนี้สิน | (98.50) |
รวมสินทรัพย์สุทธิ | 12,541.21 |
สินทรัพย์สุทธิปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 สูงกว่า ปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จำนวนเงิน 4,758.08 ล้านบาท เนื่องจากได้มีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนตามโครงการพัฒนาระบบการขนส่งตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2551
2.2 งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
หน่วย : ล้านบาท
รายได้จากการดำเนินงาน | |
รายได้จากผู้ผลิตและผู้นำเข้า | 7,810.49 |
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร | 93.57 |
รายได้อื่น (เงินเหลือจ่าย) | 258.93 |
รวม | 8,162.99 |
ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน | |
ค่าใช้จ่ายตามแผนงานและโครงการของ สนพ. และ พพ. | 3,404.12 |
ค่าใช้จ่ายอื่น | 0.79 |
รวม | 3,404.91 |
รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย | 4,758.08 |
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย จำนวนเงิน 4,758.08 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวนเงิน 4,616.67 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนตามโครงการพัฒนาระบบการขนส่ง
2.3 งบกระแสเงินสด
หน่วย : ล้านบาท
รายได้จากการดำเนินงาน | |
รายได้จากผู้ผลิตและผู้นำเข้า | 7,810.49 |
ดอกเบี้ย | 100.94 |
รายได้อื่น (เงินเหลือจ่าย) | 345.21 |
รวม | 8,256.64 |
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน | |
ค่าใช้จ่ายตามแผนงานและโครงการของ สนพ. และ พพ. | 3,435.49 |
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น | 2,095.79 |
หนี้สินหมุนเวียนอื่นและเงินฝากลดลง | 0.36 |
รวม | 5,531.64 |
กระแสเงินสดได้มาจากการดำเนินงาน | 2,725.00 |
เงินสด ณ 1 ตุลาคม 2550 | 754.78 |
เงินลงทุนระยะสั้น (เงินฝากประจำ 3 เดือน) | 3,749.60 |
เงินรายได้มาจากการดำเนินงาน | 2,725.00 |
เงินสด ณ 30 กันยายน 2551 | 7,229.38 |
กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวนเงิน 2,725.00 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลเนื่องมาจากกองทุนฯ มีรายรับสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการจ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามโครงการต่างๆ สูงขึ้นด้วย ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 กระแสเงินสดรับต่ำกว่ากระแสเงินสดจ่ายจำนวนเงิน 575.37 ล้านบาท
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ที่ สตง. ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 3 ประมาณการกระแสเงินสดของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2553-2556
1. คณะกรรมการกองทุนฯ ในการเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 และ กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550 ให้ความเห็นชอบ "โครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง" ภายใต้แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3 (ปี 2551-2554) โดยได้ประกาศอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ "โครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง" ตามประกาศ กพช. ฉบับ พ.ศ. 2552 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2551
2. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2552 ได้มีมติให้ยกเลิกการจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ ในส่วนที่เก็บเพื่อส่งเสริมโครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่งของน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ที่จัดเก็บในอัตรา 0.50 บาท/ลิตร และให้โอนเงินที่ได้จัดเก็บไว้แล้ว มาสบทบกับเงินสำหรับส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และลดอัตราจัดเก็บเงินกองทุนฯ ของน้ำมันดีเซลสำหรับส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน จากอัตรา 0.25 บาท/ลิตร เหลือ 0.05 บาท/ลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2553 หลังจากนั้นให้กลับมาจัดเก็บในอัตราเดิม คือ 0.25 บาท/ลิตร
3. สรุปรายได้ที่จัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ "โครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง" ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2551 - 1 ตุลาคม 2552 รวมทั้งสิ้น 8,151.37 ล้านบาท และปัจจุบันได้โอนเงินดังกล่าวเข้าสมทบกับเงินกองทุนฯ ซึ่งฐานะเงินกองทุนฯ ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 15,526.93 ล้านบาท
4. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้จัดทำประมาณการกระแสเงินสดของกองทุนฯ ณ วันที่ 1 ต.ค. 2552 สรุปได้ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
หากนำรายได้/รายจ่ายสุทธิรวมในช่วงปี 2553-2556 (4 ปี) มาใช้เป็นฐานในการจัดสรรงบประมาณ จะพบว่ากองทุนฯ มีรายได้สุทธิช่วงปี 2553-2556 รวม 18,880 ล้านบาท หรือจะสามารถจัดสรรได้ในวงเงินประมาณ 4,700 ล้านบาท/ปี
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบประมาณการกระแสเงินสดของกองทุนฯ ในปี 2553-2556 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
1. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550 ได้เห็นชอบแผนอนุรักษ์พลังงานและเป้าหมาย ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2554 โดยมีเป้าหมายและการดำเนินการจะลดปริมาณการใช้พลังงานลง 7,820 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 10.8 ของความต้องการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศในปี 2554 และกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้แทนพลังงานเชิงพาณิชย์ 8,858 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 12.2 ของความต้องการใช้พลังงาน ในปี 2554 และการประชุมเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 ได้เห็นชอบแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี โดยกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานทดแทนรวม 10,961 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 15.6 ของความต้องการใช้พลังงานในปี 2554
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รวบรวมข้อมูลและทำการสรุปผลการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3 ได้ดังนี้
(1) เป้าหมายและผลส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
แผนและเป้าหมาย | ผลดำเนินการสะสมปี 2551 (ktoe) | ผลดำเนินการสะสมปี 2552 (ktoe) | เป้าหมายปี 2554 (ktoe) | ร้อยละการดำเนิน การปี 2552 เทียบกับเป้าหมาย |
1. การใช้พลังงาน ภาคอุตสาหกรรม | 1,579 | 2,399 | 3,190 | 75 |
(1) การดำเนินการตาม พรบ. | 452.7 | 452.7 | 212 | 214 |
(2) การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี | 32.9 | 142.5 | 570 | 25 |
(3) การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ | 432.7 | 1,017.7 | 600 | 170 |
(4) ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ESCO | 197.4 | 222.5 | 300 | 74 |
(5) การอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม | 114.0 | 131.7 | 551 | 24 |
(6) การสาธิตเทคโนโลยีระดับสูง | - | 1.7 | 200 | 1 |
(7) DSM Bidding | 24.0 | 92.8 | 149 | 62 |
(8) นโยบาย Co Gen | 325.1 | 337.2 | 608 | 55 |
2. การใช้พลังงาน ด้านการจัดการ | 143.4 | 255.8 | 1,217 | 21 |
(1) มาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์ไฟฟ้า | ||||
กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ (MEPs) | - | - | 179 | 0 |
กำหนดมาตรฐานขั้นสูง (Labeling) | 41.9 | 72.6 | 158 | 46 |
(2) มาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์ความร้อน | ||||
กำหนดมาตรฐานขั้นสูง เตา LPG | 1.5 | 3.0 | 14 | 21 |
(3) มาตรฐานสำหรับยานยนต์ | - | - | 140 | 0 |
(4) มาตรฐานสำหรับอาคาร | - | 1.3 | 1 | 130 |
(5) ส่งเสริมการใช้งานอุปกรณ์ | ||||
ส่งเสริมการใช้เตาถ่านประสิทธิภาพสูง | - | 2.7 | 68 | 4 |
ส่งเสริม CFL | 24 | 83.8 | 46 | 182 |
ส่งเสริม T5 | - | 2.3 /td> | 407 | 0.6 |
(6) รณรงค์สร้างจิตสำนึก/ราชการ | 76 | 90 | 204 | 44 |
3. การใช้พลังงาน ภาคขนส่ง | 138.6 | 152.6 | 3,413 | 4.5 |
(1) ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน | 138 | 152 | 1,554 | 9.78 |
(2) ปรับปรุงระบบจัดการจราจร | - | - | 106 | 0 |
(3) ส่งเสริมธุรกิจ LOGISTIC DEPOT และ ICD | - | - | 1,450 | 0 |
(4) สร้างเครือข่ายระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ | 0.6 | 0.6 | 180 | 0.33 |
(5) นโยบาย ECO CAR | - | - | 123 | 0 |
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) | 1,861 | 2,807 | 7,820 | 36 |
(2) เป้าหมายและผลลดการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
ประเภท | ผลดำเนินการสะสมปี 2551 | ผลดำเนินการสะสมปี 2552 | เป้าหมายปี 2554 | ร้อยละการดำเนินการปี 2552 เทียบกับเป้าหมาย | |
1. การผลิตไฟฟ้า | ktoe | 600 | 935 | 1,587 | 59 |
(1) พลังงานชีวมวล | MW | 1,655 | 1,672 | 2,800 | 60 |
(2) ขยะ | MW | 4.25 | 8.1 | 78 | 10 |
(3) ก๊าซชีวภาพ | MW | 68.8 | 79.6 | 60 | 133 |
(4) พลังงานแสงอาทิตย์ | MW | 34 | 40.8 | 55 | 74 |
(5) พลังงานลม | MW | 3.1 | 5.1 | 115 | 4 |
(6) พลังงานน้ำ | MW | 66 | 66 | 165 | 40 |
2. การใช้ความร้อน | ktoe | 2,550 | 3,162 | 4,150 | 76 |
(1) พลังงานชีวมวล | ktoe/ปี | 2,406 | 2,955 | 3,660 | 81 |
(2) ก๊าซชีวภาพ | ktoe/ปี | 144 | 201 | 470 | 43 |
(3) พลังงานแสงอาทิตย์ | ktoe/ปี | 0.3 | 0.99 | 5 | 20 |
(4) พลังงานขยะ | ktoe/ปี | - | 10.6 | 15 | 71 |
3. การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ | ktoe | 627 | 872 | 1,755 | 50 |
(1) เอทานอล | ล้านลิตร/วัน | 0.8 | 1.2 | 3.0 | 40 |
(2) ไบโอดีเซล | ล้านลิตร/วัน | 1.3 | 1.7 | 3.0 | 57 |
4. การส่งเสริมการใช้ NGV | ktoe | 660 | 1,140 | 3,469 | 33 |
MMSCFD | 77.5 | 133.8 | 393 | 33 | |
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) | 4,437 | 6,109 | 10,961 | 56 |
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานด้านอนุรักษ์พลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ปี 2552 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 5 รายงานสรุปผลการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน
1. คณะกรรมการกองทุนฯ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะ อนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน เพี่อทำหน้าที่ประเมินผลการดำเนินงานของโครงการ และเสนอข้อพิจารณาประกอบรายงานการประเมินผลของโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินจากกองทุนฯ เป็นรายโครงการ และนำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ ต่อไป
2. สนพ. ได้ว่าจ้างบริษัท เอเบิล คอนซัลแตนท์ จำกัด เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานศึกษา วิเคราะห์ และประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงานในเบื้องต้น ก่อนนำเสนอคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบผลการประเมินดังกล่าว ทั้งนี้ เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2551 ถึงวันที่ 24 กันยายน 2552
3. คณะอนุกรรมการประเมินผลฯ ได้มีการประชุมพิจารณาผลการประเมินโครงการไปแล้วทั้งสิ้น 19 ครั้ง โดยมีโครงการที่ได้รับการประเมินและคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ ให้ความเห็นชอบผลการประเมินแล้ว รวม 192 โครงการ แยกตามแผนงานและกลุ่มงานได้ ดังนี้
กลุ่มงาน | แผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ | แผนพลังงานทดแทน | แผนบริหารเชิงกลยุทธ์ | รวม |
ศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค | 8 | 7 | - | 15 |
ส่งเสริมและสาธิต | 28 | 37 | - | 65 |
พัฒนาบุคลากร | 42 | 12 | - | 54 |
ประชาสัมพันธ์ | 55 | 2 | - | 57 |
ศึกษานโยบายและวิชาการ | - | - | 1 | 1 |
รวม | 133 | 58 | 1 | 192 |
ทั้งนี้ การประเมินโครงการได้แบ่งตามสถานภาพการดำเนินโครงการ ออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย โครงการที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเจ้าของโครงการไม่ได้ว่าจ้างประเมิน 95 โครงการ และโครงการที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเจ้าของโครงการได้ว่าจ้างประเมินแล้ว 16 โครงการ ส่วนที่เหลืออีก 81 โครงการ เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ
4. การประเมินได้ใช้โมเดลการประเมิน 3 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับสถานภาพโครงการ ดังนี้ กรณีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ใช้ CIPPA Model กรณีที่โครงการยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ใช้ Logical Framework และกรณีที่โครงการได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยและมีผลประเมินแล้ว ใช้ Meta Evaluation ในการประเมินความถูกต้องและสัมฤทธิผลในแต่ละหัวข้อของแต่ละโครงการได้กำหนดเป็นระดับคะแนน ซึ่งเทียบได้กับระดับที่ต้องปรับปรุง พอใช้ ดีมาก และดีเยี่ยม โดยผลการประเมินตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว สามารถสรุปได้ดังนี้
สถานะโครงการ/ผลการประเมิน | ดีเยี่ยม | ดีมาก | ดี | พอใช้ | ต้องปรับปรุง | รวม |
แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | ||||||
- โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ | 0 | 10 | 49 | 8 | 0 | 67 |
- โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จและมีผลการประเมินแล้ว | 0 | 1 | 2 | 13 | 0 | 16 |
- โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ | 2 | 4 | 30 | 14 | 0 | 50 |
จำนวนโครงการ | 2 | 15 | 81 | 35 | 0 | 133 |
คิดเป็นร้อยละ | 1.5 | 11.3 | 60.9 | 26.3 | 0 | 100.0 |
แผนพัฒนาพลังงานทดแทน | ||||||
- โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ | 0 | 2 | 6 | 17 | 2 | 27 |
- โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ | 0 | 0 | 12 | 6 | 13 | 31 |
จำนวนโครงการ | 0 | 0 | 18 | 23 | 15 | 58 |
คิดเป็นร้อยละ | 0 | 3.5 | 31.0 | 39.7 | 25.9 | 100.0 |
แผนบริหารเชิงกลยุทธ์ | ||||||
- โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | 1 |
คิดเป็นร้อยละ | 0 | 0 | 0 | 100.0 | 0 | 100.0 |
จำนวนโครงการทั้งหมด | 2 | 17 | 99 | 59 | 15 | 192 |
คิดเป็นร้อยละ | 1.0 | 8.9 | 51.6 | 30.7 | 7.8 | 100.0 |
5. จากใช้เทคนิค Balanced Scorecard ในการประเมินผลการดำเนินงานของแผนอนุรักษ์พลังงาน ที่เน้นด้านประสิทธิผล ประสิทธิภาพ ความเกี่ยวข้องสอดคล้องกับนโยบายวัตถุประสงค์ และผลกระทบ/ความยั่งยืน สามารถอนุมานได้ว่า ผลการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานอยู่ในระดับพอใช้ โดยจุดอ่อนที่สำคัญของโครงการส่วนใหญ่อยู่ที่การนำผลของโครงการไปใช้ (Application) ซึ่งมี 2 องค์ประกอบ คือ ผลกระทบและความยั่งยืน
6. ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง
(1) การคัดเลือกและอนุมัติโครงการ ควรมีการพิจารณาคัดเลือกและอนุมัติโครงการอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้โครงการที่ดี สามารถบริหารจัดการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด มีผลกระทบต่อการอนุรักษ์พลังงานอย่างมีนัยสำคัญ และคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายและเวลา
(2) การบริหารจัดการโครงการ เพื่อให้การบริหารควบคุม และจัดการโครงการมีประสิทธิภาพ เจ้าของโครงการจะต้องมีเวลาเพียงพอสำหรับการพิจารณาตรวจอ่านรายงาน ติดตามงาน และปรับปรุงแก้ไขโครงการในกรณีที่โครงการมีปัญหา ดังนั้นจึงเสนอให้ปรับลดจำนวนโครงการที่แต่ละ กรม/หน่วยงาน/คน รับผิดชอบ โดยให้สอดคล้องกับขีดความสามารถที่มีอยู่
(3) การดำเนินงานบางประเภทควรจะดำเนินการเอง ไม่ควรจ้างที่ปรึกษาดำเนินการ เช่น งานที่สมควรเป็นความลับ (งานเกี่ยวกับข้อมูลองค์กร ข้อมูลที่สำคัญๆ ของประเทศ) งานที่ทำเป็นประจำทุกปีที่สามารถใช้หรือจ้างเจ้าหน้าที่ประจำทำ (งานบริหารเครือข่ายข้อมูล และประชาสัมพันธ์ งานบริหารโครงการภายใต้แผนต่างๆ เป็นต้น) ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้เจ้าหน้าที่ก็จะมีความรู้ ประสบการณ์ และพัฒนาการในตัวเอง อันจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรในระยะยาว
(4) การทบทวนกลยุทธ์การดำเนินงาน งานบางประเภทแม้จะมีผลการประเมินออกมาดี เช่น งานฝึกอบรม งานอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม เป็นต้น สมควรมีการทบทวนกลยุทธ์ใหม่ เนื่องจากได้ดำเนินการมานานแล้ว เสียค่าใช้จ่ายสูง ควรเน้นการอนุรักษ์พลังงานโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นต้น
(5) การดำเนินโครงการด้านประชาสัมพันธ์ ควรลดความซ้ำซ้อนจากการที่ต่างคนต่างดำเนินการ ลดการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ตัวบุคคล และเน้นการประชาสัมพันธ์แบบเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น
มติที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบผลการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2551 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ
เรื่องที่ 6 งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2553 กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 ได้รับทราบแผนอนุรักษ์พลังงานและเป้าหมาย ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2554 ตามที่ กพช. เสนอ โดยมีเป้าหมายและการดำเนินการจะลดปริมาณการใช้พลังงานลง 7,820 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ10.8 ของความต้องการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศในปี 2554 และกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้แทนพลังงานเชิงพาณิชย์ 8,858 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 12.2 ของความต้องการใช้พลังงานในปี 2554 และ กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 ได้เห็นชอบแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี โดยกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานทดแทนรวม 10,961 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 15.6 ของความต้องการใช้พลังงานในปี 2554
2. คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 ได้อนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2552 ให้ พพ. และ สนพ. ในวงเงินรวม 2,396,252,804 บาท และ พพ. และ สนพ. ได้ดำเนินโครงการต่างๆ โดยได้มีการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ และผูกพันงบประมาณ ประจำปี 2552 เป็นเงิน 2,155,500,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 85.6
3. สนพ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองทุนฯ จะเสนองบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ต่อคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณา เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้มีงบประมาณสำหรับใช้จ่ายเป็นเงินหมุนเวียน เงินช่วยเหลือ หรือเงินอุดหนุนสำหรับการลงทุน และดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน มาตรา 25 แห่ง "พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน"
4. หน่วยงานที่ขอจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ได้จัดทำแผนงานและงบประมาณรายจ่ายที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยมี "คณะทำงานพิจารณากลั่นกรองงบประมาณประจำปี 2553 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ที่ประธานคณะอนุกรรมการกองทุนฯ แต่งตั้ง ทำหน้าที่กลั่นกรองงบประมาณและแผนการปฏิบัติงานของหน่วยต่างๆ สรุปได้ดังนี้
4.1 คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการพิจารณากลั่นกรองงบประมาณของกองทุนฯ ตามแนวทาง/หลักเกณฑ์ ที่คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 โดยมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ ดังนี้
(1) การจัดลำดับความสำคัญตามนโยบายและแผน โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องของโครงการกับภารกิจที่สำคัญ ได้แก่
- ภารกิจตามข้อกำหนดและกฎหมาย พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
- ภารกิจตามยุทธศาสตร์ระดับชาติ นโยบายรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน
- ภารกิจตามเจตนารมณ์ของกองทุนฯ ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และตามแผนและเป้าหมายอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2551-2554
- ภารกิจตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี (พ.ศ. 2551-2565)
(2) ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยพิจารณาถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายของโครงการหรือไม่ และเน้นให้การสนับสนุนโครงการที่ก่อให้เกิดผลประหยัดหรือผลการใช้พลังงานทดแทนที่ชัดเจน และสอดคล้องกับเป้าหมายตามแผนอนุรักษ์พลังงาน
(3) ศักยภาพในการขยายผล โดยเน้นโครงการวิจัยและ/หรือดำเนินการแล้วสามารถที่นำไปปฏิบัติได้จริงหรือขยายผลได้จริง (Deployment Potential) โดยแบ่งตามศักยภาพการขยายผลเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีศักยภาพในการขยายผล "มาก" และกลุ่มที่มีศักยภาพในการขยายผล "น้อย"
4.2 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่เกี่ยวกับโครงการประชาสัมพันธ์ เสนอพิจารณาอนุมัติไว้เป็นกรอบวงเงิน จำนวน 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาทถ้วน) เพื่อให้งานประชาสัมพันธ์มีความเป็นเอกภาพ มีทิศทางการปฏิบัติไปในแนวเดียวกัน โดยการบริหารจัดการเพื่อใช้เงินจากกองทุนฯ ให้ผ่านความเห็นชอบของ "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารของกระทรวงพลังงาน" ที่ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน โดยให้สามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในแผนงาน/งานเดียวกันได้
4.3 งบประมาณรายโครงการที่คณะทำงานฯ เห็นสมควรให้การสนับสนุน แต่ให้เพิ่มเติมรายละเอียดของโครงการให้สมบูรณ์และชัดเจนนั้น ให้ พพ. และ สนพ. ดำเนินการปรับปรุงข้อเสนอโครงการก่อนที่จะพิจารณาอนุมัติงบประมาณ และให้จัดส่งรายละเอียดโครงการที่ปรับปรุงแล้วให้คณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน เพื่อประกอบการประเมินผลโครงการต่อไป
4.4 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ เป็นจำนวนไม่เกิน 3,203,565,752 บาท รวม 73 โครงการ โดยแบ่งรายจ่ายออกเป็น 2 หน่วยงานผู้เบิกเงินกองทุนฯ ดังนี้
(1) พพ. จำนวน 1,823,952,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 56.93 รวม 40 โครงการ
(2) สนพ. จำนวน 1,379,613,752 บาท คิดเป็นร้อยละ 43.07 รวม 33 โครงการ
สรุปงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 (จำแนกตามแผนอนุรักษ์พลังงาน)
จำแนกตามแผนอนุรักษ์พลังงาน | รวม | ร้อยละ | จำแนกตามหน่วยผู้เบิก (บาท) | |
พพ. | สนพ. | |||
1. แผนพลังงานทดแทน | 1,039,305,450 | 32.44 | 292,712,000 | 746,593,450 |
1.1 งานศึกษาวิจัยพัฒนา | 233,548,000 | 7.29 | 33,548,000 | 200,000,000 |
1.2 งานส่งเสริมและสาธิต | 364,965,050 | 11.39 | 237,151,000 | 127,814,050 |
1.3 งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ | 421,867,400 | 13.17 | 3,088,000 | 418,779,400 |
1.4 งานบริหารแผนงาน | 18,925,000 | 0.59 | 18,925,000 | 0 |
2. แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 2,034,859,090 | 63.52 | 1,531,240,000 | 503,619,090 |
2.1 งานศึกษาวิจัยพัฒนา | 175,000,000 | 5.46 | 95,000,000 | 80,000,000 |
2.2 งานส่งเสริมและสาธิต | 1,412,245,750 | 44.08 | 1,378,500,000 | 33,745,750 |
2.3 งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ | 425,113,340 | 13.27 | 35,240,000 | 389,873,340 |
2.4 งานบริหารแผนงาน | 22,500,000 | 0.70 | 22,500,000 | 0 |
3. แผนบริหารเชิงกลยุทธ์ | 129,401,212 | 4.04 | 0 | 129,401,212 |
3.1 งานศึกษาวิจัยเชิงนโยบาย | 38,722,200 | 1.21 | 0 | 38,722,200 |
3.2 งานบริหารแผนงาน | 90,679,012 | 2.83 | 0 | 90,679,012 |
รวมงบประมาณ กทอ. ปี 2553 | 3,203,565,752 | 100 | 1,823,952,000 | 1,379,613,752 |
5. เนื่องจาก พพ. และ สนพ. มีงานบริหารเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานที่ต้องดำเนินงานต่อเนื่อง จึงมีรายจ่ายประจำที่จำเป็นเพื่อการบริหารงานที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น ค่าจ้างพนักงานราชการ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปให้ความรู้ความเข้าใจ การร่วมประชุมให้ความเห็น ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเห็นควรเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาเห็นชอบให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ งานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ของกองทุนฯ เป็นจำนวน 3,203,565,752 บาท (สามพันสองร้อยสามล้านห้าแสนหกหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยห้าสิบสองบาทถ้วน) ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอมา
2. เห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาให้ค่าใช้จ่ายในงานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 โดยให้แต่ละหน่วยงานสามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในหมวดต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
เรื่องที่ 7 แผนจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปีที่ 3
1. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550 ได้รับทราบประมาณการรายจ่ายสำหรับกิจกรรมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งคาดว่าจะใช้จ่ายเงินประมาณ 450 ล้านบาท/ปี หรือจำนวนรวม 1,350 ล้านบาท ประกอบด้วย 7 แผนงานดังนี้
แผนงาน | งบประมาณ (ล้านบาท) | ||
ปี 2551 | ปี 2552 | ปี 2553 | |
1. แผนงานด้านกฎหมาย ระบบกำกับ และข้อผูกพันระหว่างประเทศ | 30.0 | 30.0 | 30.0 |
2. แผนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมและพาณิชย์ | 10.0 | 10.0 | 10.0 |
3. แผนงานด้านการถ่ายทอด พัฒนาเทคโนโลยี และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ | 65.0 | 65.0 | 65.0 |
4. แผนงานด้านความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม | 30.0 | 30.0 | 30.0 |
5. แผนงานด้านการสื่อสารสาธารณะ และการยอมรับของประชาชน | 205.0 | 205.0 | 205.0 |
6. แผนงานด้านการการวางแผนการดำเนินการโครงการไฟฟ้านิวเคลียร์ | 85.0 | 85.0 | 85.0 |
7. การจัดตั้งสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (NPPDO) | 25.0 | 25.0 | 25.0 |
รวมค่าใช้จ่ายรายปี | 450.0 | 450.0 | 450.0 |
รวมค่าใช้จ่ายรวม 3 ปี | 1,350.00 |
2. คณะกรรมการกองทุนฯ และ กพช. ได้เห็นชอบให้ สนพ. เพิ่มเติมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ในกรอบแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3 (ในช่วงปี 2551-2554) ที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติไว้แล้ว และคณะกรรมการกองทุนในการประชุมเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 ได้มีมติอนุมัติเพิ่มประมาณการรายจ่ายของกองทุนฯ แผนพลังงานทดแทน งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค ให้ สนพ. ในวงเงินประมาณ 750 ล้านบาท ไว้ใช้สำหรับช่วยเหลืออุดหนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับกิจกรรมตามแผนงานที่ 1-7 ที่มีความเร่งด่วนต้องเริ่มดำเนินการและมีกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้วตามมติคณะรัฐมนตรี
3. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2550 ได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้ง "คณะกรรมการประสานงานเพื่อเตรียมการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานพลังงานนิวเคลียร์" ขึ้น เพื่อกำหนดทิศทางและให้ความเห็นชอบโครงการตามแผนจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานพลังงานนิวเคลียร์รวมถึงกำกับดูแล ติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานพลังงานนิวเคลียร์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
4. การดำเนินงานของโครงการฯ ในปีงบประมาณ 2551 สพน. ได้รับอนุมัติงบประมาณจากกองทุนฯ วงเงิน 30 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดตั้งสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ จำนวน 25 ล้านบาท และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อพลังงานนิเคลียร์ ปีที่ 1 จำนวน 5 ล้านบาท และการดำเนินงานของโครงการฯ ในปีที่ 2 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ในวงเงิน 122 ล้านบาท มีผลการดำเนินงานสรุปได้ดังนี้
(1) แผนงานด้านกฎหมาย ระบบกำกับ และข้อผูกพันระหว่างประเทศ สพน.ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2552 ในวงเงิน 10 ล้านบาท การดำเนินได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาและปรับปรุงกฎหมายด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ระดับสากล พันธกรณีทางนิวเคลียร์ต่างๆ เปรียบเทียบกับกฎหมายไทยในปัจจุบัน
(2) แผนงานด้านโครงสร้างอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สพน. ได้ว่าจ้างศูนย์บริการวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการศึกษาและจัดทำแผนงานด้านโครงสร้างอุตสาหกรรมและการพาณิชย์
(3) แผนทางด้านการถ่ายทอดพัฒนา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สพน. ได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กลุ่มสื่อสาร และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยจะจัดอบรมด้านการสื่อสารเชิงรุก และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายการสื่อสารด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ประสบการณ์และบทเรียนด้านการสื่อสารเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
(4) แผนงานด้านความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ได้รับงบประมาณในปี 2552 สพน. จำนวน 15 ล้านบาท เพื่อดำเนิน 2 โครงการ คือ
- โครงการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ และเชิงพื้นที่ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยมีคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับเป็นที่ปรึกษา
- โครงการศึกษาแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัยเพื่อรองรับการจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยมีสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) รับดำเนินโครงการ
(5) การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารสาธารณะ และการยอมรับของประชาชน ปีงบประมาณ 2552 ได้มีการดำเนินงานโครงการต่างๆ เช่น การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อส่งเสริมการให้ความรู้ด้านพลังงานนิวเคลียร์
ทั้งนี้ปีงบประมาณ 2552 สพน. ได้ยกเลิกการดำเนินการศึกษา 2 โครงการ คือ (1) โครงการศึกษา และปรับปรุงกฎหมายด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ระดับสากล พันธกรณีทางนิวเคลียร์ต่างๆ เปรียบเทียบกับกฎหมายไทยในปัจจุบัน ในวงเงิน 10 ล้านบาท และ (2) โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กลุ่มกฎหมายและการกำกับดูแล ในวงเงิน 10 ล้านบาท เนื่องจากขอบเขตการดำเนินงานของโครงการเกี่ยวกับงานด้านกฎหมายที่ได้เสนอในปีงบประมาณ 2553 มีเนื้อหาครอบคลุมงานของทั้ง 2 โครงการดังกล่าวแล้ว ทำให้วงเงินงบประมาณที่ สพน. ใช้ดำเนินการในปีงบประมาณ 2552 ลดลงจาก 122 ล้านบาท เหลือเป็น 102 ล้านบาท
4. สพน. ได้ยื่นข้อเสนอขอรับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2553 รวม 21 โครงการ ในวงเงินรวม 229,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงานตามแผนงานปีที่ 3 โดยได้นำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการประสานงานฯ แล้ว ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2552 และวันที่ 13 มกราคม 2553 ประกอบด้วย
โครงการ | งบประมาณ |
แผนงานด้านกฎหมาย ระบบกำกับ และข้อผูกพันระหว่างประเทศ | 25,000,000 |
1. โครงการยกร่างกฎหมายไทยเพื่อบังคับใช้กับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ | 15,000,000 |
2. โครงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านกฎหมายโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ | 10,000,000 |
แผนงานด้านการถ่ายทอด พัฒนาเทคโนโลยี และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ | 39,000,000 |
1. โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยและข้อผูกพันระหว่างประเทศ | 18,000,000 |
2. โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กลุ่มสื่อสารสาธารณะและการยอมรับของประชาชน ปีที่ 2 | 11,000,000 |
3. โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กลุ่มพัฒนาสังคมและบริการสาธารณะ ปีที่ 2 | 4,000,000 |
4. โครงการจัดหาผู้เชี่ยวชาญและความร่วมมือจากต่างประเทศ | 6,000,000 |
แผนงานด้านความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม | 25,000,000 |
1. โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ และเชิงพื้นที่ ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปีที่ 2 | 10,000,000 |
2. โครงการปรับปรุงกฎหมายมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ | 5,000,000 |
3. โครงการศึกษาแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อรองรับการจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปีที่ 2 | 10,000,000 |
แผนงานด้านการสื่อสารสาธารณะและการยอมรับของประชาชน | 115,000,000 |
1. โครงการศึกษาและวิเคราะห์ความคิดเห็นและสถานการณ์ด้านพลังงานนิวเคลียร์ | 3,000,000 |
2. โครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปีที่ 2 | 7,000,000 |
3. โครงการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้านนิวเคลียร์ | 5,000,000 |
4. โครงการผลิตสื่อโทรทัศน์ | 10,000,000 |
5. โครงการผลิตสื่อนิทรรศการ สื่อบรรยายประกอบ และสื่อเทคโนโลยีเฉพาะกิจ | 5,000,000 |
6. โครงการเผยแพร่ และส่งเสริมผ่านสื่อและกิจกรรม | 30,000,000 |
7. โครงการส่งเสริมเครือข่ายด้านสื่อมวลชนและภาคประชาคม | 20,000,000 |
8. โครงการสื่อสารภายใน | 5,000,000 |
9. โครงการศึกษาและสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้ด้านพลังงานนิวเคลียร์ ผ่านกลุ่มสังคมเศรษฐกิจสัมพันธ์ และกลุ่มสตรีแม่บ้าน | 10,000,000 |
10. โครงการเครือข่ายการสื่อสาร | 5,000,000 |
11. โครงการบริหารงานการสื่อสารสาธารณะ | 15,000,000 |
การจัดตั้งสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (NPPDO) | 25,000,000 |
1. การดำเนินการสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปีที่ 3 | 25,000,000 |
รวมทั้งสิ้น | 229,000,000 |
มติที่ประชุม
เห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนฯ แผนพลังงานทดแทน งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค ปีงบประมาณ 2553 ให้ สำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน ในวงเงิน 229,000,000 บาท (สองร้อยยี่สิบเก้าล้านบาทถ้วน) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการภายใต้แผนงาน "โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์" โดยใช้เงินส่วนที่ สนพ. ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2550
1. คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในการประชุมเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2548 ได้อนุมัติเงินกองทุนฯ แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ งานศึกษาเชิงนโยบายและวิชาการ ให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ในวงเงินรวม 50 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายใน "โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการปลูกพืชน้ำมันและพัฒนารูปแบบการผลิตพลังงานจากพืชแบบครบวงจร ในพื้นที่ตัวอย่างเขตภาคเหนือ" ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (มิถุนายน 2548-มิถุนายน 2553)
2. คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2549 ได้เห็นชอบผลการดำเนินงานโครงการฯ ปีที่ 1 และอนุมัติเงินกองทุนฯ ในวงเงินรวม 40 ล้านบาท ให้ มช. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของโครงการฯ สำหรับปีที่ 2-5 โดยให้ มช. เสนอผลการดำเนินงานแต่ละปีต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ทราบและเห็นชอบก่อน สนพ. จะจัดสรรเงินดำเนินการปีที่ 3-5
3. มช. ได้ดำเนินโครงการศึกษาวิจัยฯ ตามแผนงาน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการผลิต/เกษตรกรรม ด้านวิศวกรรม และด้านเศรษฐศาสตร์สังคมและ ICT สรุปได้ดังนี้
3.1 ด้านการผลิต/เกษตรกรรม
มช. ได้ดำเนินการคัดเลือกสายพันธุ์ปาล์มน้ำมัน 3,200 ต้น และคัดเลือกสายพันธุ์สบู่ดำ 10,000 ต้น และได้นำไปลงปลูกในแปลงวิจัยพื้นที่ของ มช. 2 แห่ง รวม 386 ไร่ คือ แปลงวิจัยศรีบัวบาน จ.ลำพูน 350 ไร่ ควบคุมสภาวะแวดล้อม 100% และที่แปลงวิจัยแม่เหียะ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 36 ไร่ ควบคุมสภาวะแวดล้อม 50% การควบคุมวิธีการให้น้ำทั้ง 2 แห่ง ด้วยระบบชลประทานน้ำหยด การคลุมด้วยวัสดุต่างๆ ปริมาณการให้น้ำ ระยะเวลาการให้น้ำที่เหมาะสม การจัดการปุ๋ย ได้แก่ ปุ๋ยยูเรีย ฟอสเฟต ปุ๋ยคอก และการตัดแต่งกิ่ง วิจัยผลกระทบต่อปาล์มน้ำมันและสบู่ดำที่เกิดจากการจัดการวัชพืชด้วยวิธีต่างๆ วิธีปลูกพืชแซมที่ไม่กระทบต่อปาล์มน้ำมันและสบู่ดำ ทั้งนี้ ข้อมูลวิจัยการเจริญเติบโตปาล์มน้ำมันและสบู่ดำ ในแปลงวิจัยทั้ง 2 แห่ง สรุปได้ดังนี้
พันธุ์ | ความสูงต้น (ซม.) |
จน.ทางใบ (ใบ) |
ดอกเพศเมีย (%) |
นน.ทะลาย (กก./ทะลาย) |
จน.ทะลาย (ทะลาย/ต้น/ปี) |
ผลผลิต (กก./ไร่/ปี) |
สุราษฏร์ธานี 1 | 439.58 | 35.04 | 94.27 | 4.3 | 19.46 | 1,842.89 |
สุราษฏร์ธานี 2 | 450.95 | 34.92 | 90.20 | 3.6 | 18.99 | 1,503.64 |
เดลี่-ลาเม่ | 415.56 | 33.94 | 97.01 | 2.8 | 18.58 | 1,156.24 |
ไนจีเรีย | 463.34 | 36.28 | 95.01 | 3.9 | 18.15 | 1,560.31 |
จากข้อมูลข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า การเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมันทั้ง 4 สายพันธุ์ เติบโตได้ค่อนข้างดี มีเปอร์เซ็นต์การออกดอกเพศเมียสูงมากกว่า 90% เทียบได้กับปาล์มน้ำมันที่ปลูกในภาคใต้ของไทย โดยมีผลผลิตสูงสุด 1,842 กิโลกรัมต่อไร่/ปี
แหล่งปลูก | ความสูงต้น (ซม.) |
จน.กิ่งสบู่ดํา (กิ่ง) |
ความาวเส้นรอบวง (ซม.) |
ผลผลิต (กก./ไร่/ปี) |
สตูล | 386.91 | 77.02 | 82.51 | 420.49 |
กำแพงแสน | 399.90 | 67.69 | 78.97 | 425.21 |
กาญจนบุรี | 395.86 | 67.68 | 76.98 | 486.38 |
ปราจีนบุรี | 391.26 | 68.92 | 82.89 | 457.43 |
ชัยภูมิ | 393.98 | 64.86 | 86.15 | 541.35 |
ตากฟ้า | 392.89 | 66.92 | 86.93 | 544.04 |
จากข้อมูลข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า การเจริญเติบโตของสบู่ดำจากแหล่งปลูกทั้ง 6 แหล่ง เติบโตได้ค่อนข้างดี ไม่มีความแตกต่างกัน โดยมีผลผลิตสูงสุด 544 กิโลกรัมต่อไร่/ปี อย่างไรก็ดี ผลผลิตดังกล่าวยังจัดว่าเป็นปริมาณที่ต่ำ ผู้วิจัยจึงได้ทดลองศึกษาแนวทางการเพิ่มผลผลิตสบู่ดำโดยใช้เทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรมจัดทำ DNA Fingerprint เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงพันธุ์ต่อไป ทั้งนี้ จากการทดสอบในเบื้องต้น พบว่าพันธุ์ที่ได้นำมาทดลองนั้นไม่มีความแตกต่างทางพันธุกรรม (Genetic Variation) มากพอ จำเป็นต้องนำพันธุ์จากแหล่งอื่นๆ ภายนอกประเทศ หรือใช้เทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาช่วยในการปรับปรุงพันธุ์ให้มีลักษณะและผลผลิตดีขี้น
3.2 ด้านวิศวกรรม
มช. ได้ศึกษาออกแบบพัฒนาเครื่องสกัดน้ำมันสบู่ดำ เครื่องหีบน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก และเครื่องผลิตไบโอดีเซลขนาด 300 ลิตรต่อครั้ง ดังนี้
(1) พัฒนาเครื่องกะเทาะเปลือกผลสบู่ดำ อัตรากำลังการผลิต 600 กิโลกรัมสบู่ดำสด/ชั่วโมง ใช้แรงงานคนหมุนล้อกำลัง ที่ราคา 15,000 บาทต่อเครื่อง และเครื่องสกัดน้ำมันสบู่ดำแบบสกรู ขนาด 5-6 กิโลกรัมต่อชั่วโมง หีบน้ำมันได้ไม่ต่ำกว่า 31% ของเมล็ดสบู่ดำ ที่ราคา 65,000 บาทต่อเครื่อง
(2) พัฒนาเครื่องหีบน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก กำลังการผลิต 50 กิโลกรัมผลปาล์มสดต่อชั่วโมง หีบน้ำมันปาล์มดิบได้ 19-20% ของทลายปาล์มสด ที่ราคา 300,000 บาทต่อเครื่อง โดยปัจจุบัน มช. ได้ทำการปรับปรุงเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มดังกล่าวมาใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นต้นกำลังแทนมอเตอร์ไฟฟ้า และ ได้ร่วมกับกรมอู่ทหารเรือพัฒนา และสร้างเครื่องผลิตไบโอดีเซลขนาด 300 ลิตรต่อครั้ง (ผลิต 3 ครั้งต่อวัน) สามารถผลิตไบโอดีเซลได้จากน้ำมันพืชใช้แล้ว สบู่ดำ และปาล์มน้ำมันที่ราคา 500,000 บาทต่อเครื่อง
(3) พัฒนาและสร้างโรงสกัดน้ำมันปาล์มแบบ Dry Process ขนาดเล็ก ต้นทุนต่ำ รองรับผลผลิตจากสวนปาล์มได้ตั้งแต่ 3,000 ไร่ โดยถือเป็นระบบแห้งแบบหีบรวม กำลังการผลิตเท่ากับ 2.5 ตันต่อชั่วโมง ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันใกล้เคียงกับน้ำมันปาล์มที่สกัดจากเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มแบบใช้ไอน้ำ
3.3 ด้านเศรษฐศาสตร์ สังคม และฐานข้อมูล ICT
มช. ได้ศึกษาข้อมูลด้านเศรษฐศาสร์ของการปลูกปาล์มน้ำมันโดยวิเคราะห์จากข้อมูลที่ได้จากโครงการฯ พบว่า การปลูกปาล์มในพื้นที่ภาคเหนือจะสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ในปีที่ 4 ของการปลูกประมาณ 4,000 บาทต่อไร่ ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนและผลตอบแทนของพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือ 3 ชนิด และผลตอบแทนปาล์มน้ำมันเฉลี่ยของประเทศไทย จากสำนักการเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2550 แล้วพบว่า สับปะรดมีกำไรสุทธิเฉลี่ยสูงสุดคือ 6,678 บาทต่อไร่ รองลงมาคือปาล์มน้ำมัน 5,359 บาทต่อไร่ ในขณะที่พืชเศรษฐกิจอื่นได้แก่ ลำไยและลิ้นจี่ อยู่ในภาวะขาดทุน อย่างไรก็ดี การปลูกสับปะรดนั้นต้องให้เงินลงทุนสูงกว่าปาล์มน้ำมันมากกว่า 2 เท่า จึงสรุปได้ว่าปาล์มน้ำมัน เป็นพืชทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้โดยมีผลตอบแทนที่จูงใจแก่เกษตรกรในภาคเหนือได้
4. แผนการดำเนินงาน ปีที่ 5 ยังคงเป็นเรื่องการวิจัยและเก็บข้อมูลการเจริญเติบโตของต้นปาล์มน้ำมันและต้นสบู่ดำ ทั้งในแปลงวิจัย และแปลงสาธิต ต่อเนื่องจากปีที่ 4 รวมถึงการพัฒนาการเพิ่มผลผลิตของสบู่ดำให้สูงขึ้น นอกจากนี้ยังจะดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพระบบสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบแห้งรวมให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยสรุปขอบเขตงานได้ดังนี้
4.1 งานด้านการผลิต/เกษตรกรรม
(1) ดำเนินการวิจัย เก็บข้อมูล และวิเคราะห์ผลการเจริญเติบโตปาล์มและสบู่ดำต่อเนื่องจาก ปีที่ 4 ประกอบด้วย การเปรียบเทียบสายพันธุ์และเทคโนโลยีการปลูก ด้วยการจัดการชลประทาน การจัดการปุ๋ย การจัดการวัชพืช ที่แตกต่างกัน ของปาล์มน้ำมันและสบู่ดำ
(2) พัฒนาสายพันธุ์สบู่ดำให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี และการพัฒนาระบบเขตกรรม
4.2 งานด้านวิศวกรรม
(1) พัฒนาระบบสกัดน้ำมันปาล์มและสบู่ดำให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
(2) สาธิตใช้งานในเครื่องหีบน้ำมันเมล็ดสบู่ดำ และเครื่องผลิตไบโอดีเซลต้นแบบระดับชุมชนที่สร้างขึ้นและทำการทดสอบคุณภาพ
4.3 งานด้านเศรษฐกิจ สังคมและ สารสนเทศ (ICT)
(1) วิจัยผลตอบแทนด้านเศรษฐศาสตร์และสังคมของการปลูกปาล์มน้ำมันและสบู่ดำ รวมถึงการผลิตน้ำมันในชุมชน
(2) สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในการผลิตและใช้ไบโอดีเซล
(3) วิจัยและออกแบบจำลอง Process base
มติที่ประชุม
1. รับทราบและเห็นชอบรายงานผลการดำเนินงาน "โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการปลูกพืชน้ำมันและพัฒนารูปแบบการผลิตพลังงานจากพืชแบบครบวงจรในพื้นที่ตัวอย่างเขตภาคเหนือ" ปีที่ 4 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอมา
2. เห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนฯ ให้ มช. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงานโครงการฯ ในปีที่ 5 ตามแผนงานที่เสนอมา ในวงเงินรวม 7,886,000 บาท โดยใช้เงินกองทุนฯ แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ งานศึกษาเชิงนโยบายและวิชาการ ปีงบประมาณ 2550 โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการปลูกพืชน้ำมันและพัฒนารูปแบบการผลิตพลังงานจากพืชแบบครบวงจร ในพื้นที่ตัวอย่างเขตภาคเหนือ ที่คณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2549 ได้อนุมัติไว้แล้ว
เรื่องที่ 9 การขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมทราบว่า มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ไปแล้ว ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการจากที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้พิจารณาและอนุมัติไว้ รวมจำนวน 40 โครงการ โดยตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินฯ ตามข้อ 1.3 (2) หมวด 3 ข้อ 24 กำหนดว่า การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการ ไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้พิจารณาเหตุผลและรายละเอียดที่เจ้าของโครงการฯ ทั้ง 40 โครงการ ได้แจ้งขอเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยจำแนกเรื่องที่ขอเปลี่ยนแปลงออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
2.1 ขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เกิน 3 เดือน นับจากวันสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา จำนวน 8 โครงการ ดังนี้
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 8 โครงการ
(1) โครงการส่งเสริมการใช้เตาหุงต้มและเตาชีวมวลประสิทธิภาพสูง (ค่าจัดซื้อวัสดุเตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง)
(2) โครงการรณรงค์เผยแพร่องค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (รณรงค์จัดทำและเผยแพร่สารคดีประจำทางสถานีวิทยุโทรทัศน์)
(3) โครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพผู้รับผิดชอบด้านพลังงานเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่ยั่งยืน (จัดซื้อกับดักไอน้ำชนิดแก้ว)
(4) โครงการอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม (SMEs)
(5) โครงการอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม โดยโรงงาน/อาคารควบคุม/โรงงานอุตสาหกรรมและอาคารธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
(6) โครงการพัฒนาหลักสูตรการอนุรักษ์พลังงานในแต่ละประเภทอุตสาหกรรม
(7) โครงการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานด้วยไบโอดีเซลชุมชน (ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้)
(8) โครงการส่งเสริมเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างไว้กับ พพ. ได้ส่งงาน/รายงานตามเวลาที่กำหนดไว้แล้ว แต่การตรวจรับงานของ พพ. พบว่าผลงานยังไม่สมบูรณ์ตามข้อตกลง เช่น ขาดรายละเอียด ขาดข้อมูลหรือเอกสารอ้างอิง ขาดประเด็นสำคัญ ฯลฯ และให้คู่สัญญาหรือผู้ได้รับจัดสรรเงินนั้น ดำเนินการปรับปรุงรายงานสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลให้เลยกำหนดระยะเวลา 3 เดือน นับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา พพ. จึงได้เสนอขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นๆ
การปฏิบัติข้างต้น เป็นการดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 16 ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายเงินกองทุนไว้ "ให้ผู้เบิกเงินกองทุนใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายประจำปีได้ ภายในวงเงินและปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ กรณีผู้เบิกเงินกองทุนก่อหนี้ผูกพันภายในปีงบประมาณแต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณนั้นๆ ให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นๆ ต่อไปได้ ภายในสามเดือนนับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา"
2.2 ขอขยายระยะเวลาโครงการ จำนวน 22 โครงการ
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้กับ พพ. และ สนพ. ดังนี้
โครงการ | งบประมาณ (ล้านบาท) |
หน่วยงาน | เดิม | ขยายถึง | ความก้าวหน้า |
(1) โครงการการพัฒนาและส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ระบบความร้อน (โครงการพัฒนาสาธิตระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานความร้อนแสงอาทิตย์และชีวมวล) | 32.60 | พพ. | พ.ย. 2551 | ธ.ค. 2552 | เสร็จแล้ว |
(2) โครงการทุนหมุนเวียนสำหรับยานยนต์ NGV | 2,000 | ปตท. | ธ.ค. 2552 | ธ.ค. 2553 | 70% |
(3) โครงการพัฒนาพลังงานลมเพื่อสูบน้ำ ระยะที่ 1 | 3.81 | พพ. | ก.ย. 2552 | ภายใน 30 วัน นับจากวันที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีหนังสือแจ้งมติ | 95% |
(4) โครงการสมัชชาเยาวชนและครูด้านพลังงาน | 6 | สป.พน. | ก.ย. 2552 | ก.พ. 2553 | 95% |
(5) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 1 | 12.5 | สวภ. 1 | พ.ย. 2552 | ก.พ. 2553 | เสร็จแล้ว |
(6) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 2 | 6.5 | สวภ. 2 | พ.ย. 2552 | เม.ย. 2553 | 90% |
(7) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 3 | 6.5 | สวภ. 3 | พ.ย. 2552 | เม.ย. 2553 | 60% |
(8) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 4 | 6.5 | สวภ. 4 | พ.ย. 2552 | มี.ค. 2553 | 70% |
(9) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 5 | 6.5 | สวภ. 5 | พ.ย. 2552 | ธ.ค. 2552 | เสร็จแล้ว |
(10) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 6 | 6.5 | สวภ. 6 | ต.ค. 2552 | ม.ค. 2553 | เสร็จแล้ว |
(11) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 7 | 6.5 | สวภ. 7 | ต.ค. 2552 | ม.ค. 2553 | 95% |
(12) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาคที่ 10 | 6.5 | สวภ. 10 | พ.ย. 2552 | มี.ค. 2553 | 90% |
(13) โครงการฝึกอบรมผู้นำชุมชนเกี่ยวกับการวางแผนพลังงานชุมชน | 66.83 | สป.พน. | ธ.ค. 2552 | มี.ค. 2553 | 95% |
(14) โครงการรณรงค์สร้างการรับรู้ (Campaign) "เมืองไทย เมืองแห่งพลังงานทดแทน" | 120 | สป.พน. | มี.ค. 2553 | มิ.ย. 2553 | อยู่ระหว่างการประกาศ TOR |
(15) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ จำนวน 1 ทุน | 3.98 | สนพ. | ก.ย. 2552 | ก.ย. 2553 | 70% |
(16) โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 5 ทุน | รวม0.61 | สนพ. | รายละเอียดปรากฏในเอกสารประกอบวาระ 4.4 ส่วนที่ 2 โครงการที่ 16 | ||
(17) โครงการพัฒนากำลังพลด้านพลังงานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง | 30 | กรมการพลังงานทหาร | ธ.ค. 2552 | มิ.ย. 2553 | 70% |
(18) โครงการลดใช้พลังงานในภาครัฐในหน่วยงานภาครัฐขนาดเล็ก | 2 | สวภ. 4 | ก.ย. 2552 | ม.ค. 2553 | เสร็จแล้ว |
(19) โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์กลุ่มสื่อสารสาธารณะและการยอมรับของประชาชน | 11 | สป.พน. สพน. | ก.พ. 2553 | พ.ค. 2553 | 85% |
(20) โครงการกระเบื้องมุงหลังคาระบายอากาศประหยัดพลังงาน | 0.80 | มจธ. | ธ.ค. 2549 | ส.ค. 2552 | เสร็จแล้ว |
(21) โครงการวิจัยออกแบบบ้านประหยัดพลังงานประเภทบ้านเดี่ยว กรณีศึกษา:สงขลาหรือจังหวัดใกล้เคียง | 7.5 | มอ. | ก.ค. 2549 | พ.ย. 2552 | เสร็จแล้ว |
(22) โครงการทำความเย็นจากต้นไม้ | 2 | ม.แม่โจ้ | ธ.ค. 2548 | ธ.ค. 2552 | เสร็จแล้ว |
แต่ละหน่วยงานได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น การขาดความมั่นใจของผู้ประกอบการ การปรับปรุงของอาคาร/สถานที่ การไม่เอื้อของสภาพภูมิอากาศ การใช้เวลาในการเก็บข้อมูลสำหรับการทำวิทยานิพนธ์ การรอเวลาเพื่อนำผลงานวิจัยไปตีพิมพ์ทั้งในและต่างประเทศ การปรับรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่เป้าหมาย การทำงานวิจัยแล้วผลการทดลองมีความคลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จำเป็นต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ผลการทดลองเพิ่มเติม เป็นต้น
2.3 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จำนวน 3 โครงการ
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้แต่ละหน่วยงาน ได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดกิจกรรมย่อยให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน เป็นต้น
โครงการ | การขอเปลี่ยนแปลง |
(1) โครงการทุนหมุนเวียนสำหรับยานยนต์ NGV ระยะที่ 2 งบประมาณ : 2,000 ล้านบาท
หน่วยงาน : ปตท. ความก้าวหน้า : ยังไม่ได้เริ่มดำเนินงาน |
ขอยกเลิกโครงการ เนื่องจากการดำเนินโครงการทุนหมุนเวียนสำหรับยานยนต์ NGV (ระยะที่ 1) ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และอยู่ระหว่างการขอขยายระยะเวลาโครงการออกไปสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2553 และเพื่อให้การใช้จ่ายเงินกองทุนฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด |
(2) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ จำนวน 1 ทุน
งบประมาณ : 4.12 ล้านบาท หน่วยงาน : สนพ. |
สนข. ขอโอนการชดใช้ทุนการศึกษาของนางสาวเหมือนมาศ วิเชียรสินธุ์ จาก สนข. ไปปฏิบัติงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการทำสัญญาและการชดใช้เงิน กรณีรับทุนฯ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 เป็นต้นไป |
(3) โครงการสนับสนุนทุนวิจัยแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 3 ทุน งบประมาณรวม : 0.14 ล้านบาท หน่วยงาน: สนพ. |
(1) สถาบันบัณทิตพัฒนบริหารศาสตร์ ขอเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น "รูปแบบที่เหมาะสมในการจัดการพลังงานชุมชน" เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเนื้อหาของวิทยานิพนธ์ ซึ่งได้ขยายขอบเขตการศึกษาเพิ่มเติม
(2) มช. ขอยกเลิกการสนับสนุนทุน เนื่องจากผู้วิจัยได้ลาออกจากการเป็นนักศึกษา (3) มจธ. ขอเปลี่ยนแปลงชื่อโครงการวิจัยเป็นเรื่อง "การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการก่อสร้าง" เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการมากยิ่งขึ้น |
2.4 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ และขอขยายระยะเวลาดำเนินงาน จำนวน 7 โครงการ
มีสาเหตุจากคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้แต่ละหน่วยงาน ได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดกิจกรรมย่อยให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน เป็นต้น พร้อมทั้งขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการด้วย
โครงการ | การขอเปลี่ยนแปลง |
(1) โครงการพลังไทย ฉลาดใช้พลังงาน หน้าร้อน (ล้างแอร์)
งบประมาณ : 9.8 ล้านบาท หน่วยงาน : กฟผ. ความก้าวหน้า : 60% |
(1) ขอขยายกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินโครงการ จากภาคครัวเรือน ให้ครอบคลุมถึงกลุ่มเป้าหมายของโครงการกองทัพสีเขียว ได้แก่ ข้าราชการทหาร และครอบครัว (2) ขอปรับปรุงวิธีการดำเนินงาน โดยเพิ่มกิจกรรมฝึกอบรมการล้างเครื่องปรับอากาศ และมอบอุปกรณ์ล้างเครื่องปรับอากาศ ให้กับเจ้าหน้าที่ในกองทัพ (3) ขอปรับงบประมาณโครงการ โดยนำเงินคงเหลือไปใช้ในกิจกรรมล้างแอร์โครงการกองทัพสีเขียว 650,000 บาท สำหรับการจัดอบรม และมอบอุปกรณ์การล้างแอร์ แก่ทหารช่างและพลทหาร ส่วนเงินที่เหลือจะนำส่งคืนกองทุนฯ (4) ขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการ จากเดิมสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2552 เป็นสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2553 |
(2) โครงการศึกษาเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศและน้ำเสียจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน ถ่านหิน ชีวมวล และก๊าซธรรมชาติ
งบประมาณ : 7 ล้านบาท หน่วยงาน : สผ. ความก้าวหน้า : 55% |
(1) ขอยุติโครงการฯ โดยขอปรับวงเงินงบประมาณจาก 7,000,000 บาท เป็น 3,677,633 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณงาน เนื่องจาก สผ. ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคนิคและการลงทุนของโรงไฟฟ้าจึงส่งผลให้โครงการฯ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
(2) ขอเบิกเงินงวดสุดท้ายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,177,633 บาท โดยสามารถเบิกจ่ายเงินได้ภายใน 90 วัน นับจากวันที่คณะกรรมการกองทุนฯ เห็นชอบและอนุมัติ |
(3) โครงการสัมมนาวิชาการนานาชาติ เรื่อง Solar Energy: Getting Down to Business
งบประมาณ : 4.46 ล้านบาท หน่วยงาน : มพส. ความก้าวหน้า : อยู่ในช่วงเตรียมการจัดสัมมนาเดือนมีนาคม 2553 |
(1) ขอเปลี่ยนแปลงหมวดงบประมาณในส่วนค่าใช้จ่ายการดำเนินกิจกรรม เพื่อให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ
(2) ขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมสิ้นสุด กุมภาพันธ์ 2553 เป็นสิ้นสุดเมษายน 2553 |
(4) โครงการศูนย์บริการข้อมูลพลังงานภูมิภาค
งบประมาณ : 5 ล้านบาท หน่วยงาน : สป.พน. ความก้าวหน้า : 90% |
ขอปรับงวดเงินใหม่ จาก แผนเดิม งวดสุดท้าย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 500,000 บาท เมื่อส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ เป็น แผนใหม่ งวดที่ 4 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 450,000 บาท ภายหลังจากส่งรายงานความก้าวหน้าฉบับที่ 3 และงวดสุดท้าย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 50,000 บาท ภายหลังการส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ และขอขยายเวลาโครงการจากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2552 เป็นสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2553 |
(5) โครงการบริหารจัดการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมในอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
งบประมาณ : 113.99 ล้านบาท หน่วยงาน : มูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธรฯ ความก้าวหน้า : 25% |
(1) ขอปรับจำนวนเป้าหมายของผู้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการและผู้เข้าค่ายฝึกอบรมในแต่ละปี เพื่อให้ได้จำนวนเป้าหมายของโครงการฯ ครบตามที่ได้กำหนดไว้ และกำหนดเป้าหมายของจำนวนผู้ใช้บริการห้องสมุดพลังงาน และจำนวนสมาชิกห้องสมุดพลังงาน
- ผู้เยี่ยมชมนิทรรศการ จากเดิม ปีละ 50,000 คน รวม 250,000 คน เป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 268,300 คน - ผู้เข้าค่ายฝึกอบรม จากเดิม 6,000 คน เป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 7,300 คน (2) ขอปรับรายการค่าใช้จ่ายของงบประมาณให้สอดคล้องกับรายละเอียดการดำเนินงานที่เปลี่ยนแปลงไป และปรับงวดการเบิกจ่ายเงิน จาก 5 งวด เป็น 6 งวด (3) ขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ออกไปอีก 9 เดือน จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2555 เป็นสิ้นสุดเดือนกันยายน 2556 |
(6) โครงการรณรงค์เพื่อปลูกจิตสำนึก "อนุรักษ์พลังงาน เพื่อพลังงานไทยที่ยั่งยืน"
งบประมาณ : 45 ล้านบาท หน่วยงาน : สป.พน. ความก้าวหน้า : อยู่ระหว่างหาผู้ดำเนินงานโดยวิธี e-auction |
(1) ขอจัดกิจกรรมทดแทนจากเดิมจัดงาน "Energy Saving Fair 2009" ระยะเวลา 5 วัน เป็นจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่และให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานแก่กลุ่มเป้าหมายต่างๆ อาทิ จัดกิจกรรมร่วมกับหอการค้าจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานในระดับจังหวัด จัดกิจกรรมใน กทม. ร่วมกับองค์กรพันธมิตรภาคเอกชน โดยเฉพาะองค์กรในระดับนานาชาติ จัดนิทรรศการ/กิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์ด้านอนุรักษ์พลังงานสำหรับเยาวชน จัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการเพื่อกระตุ้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงาน กิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ กิจกรรมประชาสัมพันธ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
(2) ขอขยายระยะเวลาโครงการจากเดิมสิ้นสุดเดือนเมษายน 2553 เป็นสิ้นสุดเดือน พฤศจิกายน 2553 |
(7) โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ จำนวน 3 ทุน
งบประมาณรวม : 10.02 ล้านบาท หน่วยงาน : สนพ. |
(1) ม. วลัยลักษณ์ ขอขยายระยะเวลาการศึกษาให้แก่ นางพิมพ์ลภัส พงศกรรังศิลป์ ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2553-เม.ย. 2554 เพื่อเขียนรายงานผลการวิจัยและจัดทำวิทยานิพนธ์ พร้อมทั้งขออนุมัติเพิ่มวงเงินทุนการศึกษาในช่วงที่ขอขยายเวลา จำนวนเงินประมาณ 595,980 บาท
(2) ม. ราชภัฏสวนดุสิต ขอขยายระยะเวลาการศึกษาให้แก่ นายจิติวัฒน์ ยวงเกตุ ออกไปอีก 1 ปี 2 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2553 - มี.ค. 2554 เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยในที่ประชุมนานาชาติและจัดทำวิทยานิพนธ์ พร้อมทั้งขออนุมัติเพิ่มทุนการศึกษา ในช่วงที่ขยายเวลา จำนวนเงินประมาณ 1,164,814 บาท (3) สผ. ขอขยายระยะเวลาการศึกษาให้แก่ นางสาววรนุช เอมมาโนชญ์ ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2552-เม.ย. 2553 เพื่อปรับปรุงแก้ไขร่างวิทยานิพนธ์ โดยขออนุมัติใช้เงินเหลือจ่าย จำนวน 271,181.54 บาท สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเดือน ก.พ. 2552-มิ.ย. 2552 ส่วนช่วงเวลาเดือน ก.ค. 2552-เม.ย. 2553 จะใช้ทุนส่วนตัว |
ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียด และการขอขยายระยะเวลาดำเนินการดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะทำให้โครงการเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับแล้ว จึงเห็นควรให้โครงการที่ 1-6 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดและขยายระยะเวลาโครงการออกไปได้ ส่วนโครงการที่ 7 คือ โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ เห็นควรอนุมัติขยายเวลาการศึกษาให้แก่ผู้ได้รับทุนการศึกษาได้ ตามที่ขอมา โดยไม่ควรให้เบิกเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากวงเงินประมาณเดิมที่เคยได้รับอนุมัติไว้ และไม่อนุมัติเพิ่มวงเงิน สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในภาคการศึกษาที่ได้รับอนุมัติให้ขยายเวลา เนื่องจากกองทุนฯ ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของหลักสูตรที่กำหนดไว้แล้ว
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบให้โครงการตามข้อ 2.1 จำนวน 8 โครงการ ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ กรณีผู้เบิกเงินกองทุนฯ ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในสามเดือนนับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญาได้ ตามที่ขอมา
2. เห็นชอบให้โครงการตามข้อ 2.2 จำนวน 22 โครงการ ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการได้ ตามที่ขอมา ทั้งนี้สำหรับโครงการที่ 1, 9, 10, 11, 18, 20, 21, และ 22 เห็นควรเสนอพิจารณาอนุมัติให้การสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ เป็น ภายใน 30 วัน นับจากวันที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีหนังสือแจ้งมติอนุมัติการขอขยายระยะเวลาดังกล่าว
3. เห็นชอบให้โครงการตามข้อ 2.3 จำนวน 3 โครงการ เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการได้ตามที่ขอมา
4. เห็นชอบให้โครงการตามข้อ 2.4 จำนวน 6 โครงการ เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการและขยายระยะเวลาดำเนินการได้ ตามที่ขอมา สำหรับโครงการที่ 7 เห็นชอบให้ ม.วลัยลักษณ์ ม.ราชภัฏสวนดุสิต และ สผ. ขยายระยะเวลาการศึกษาให้กับผู้รับทุนได้ ตามที่เสนอมา โดยไม่ควรให้เบิกเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากวงเงินประมาณเดิมที่เคยได้รับอนุมัติไว้ และไม่อนุมัติเพิ่มวงเงิน สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในภาคการศึกษาที่ได้รับอนุมัติให้ขยายเวลา เนื่องจากกองทุนฯ ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของหลักสูตรที่กำหนดไว้แล้ว
5. ให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาอนุมัติต่อไป
ศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์ ได้สอบถามถึงความก้าวหน้าของ "โครงการต้นแบบการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี Vanadium Redox Flow สำหรับการลดภาระกำลังไฟฟ้าสูงสุด การผลิตไฟฟ้าผสมผสานขนาดเล็ก รถประจำทางไฟฟ้า และเซลล์เชื้อเพลิงคาร์โบไฮเดรท" ที่คณะกรรมการกองทุน ได้อนุมัติไว้ในการประชุมครั้งที่ 2/2547 (ครั้งที่ 39) เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 เนื่องจากเห็นว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ และประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ก็ได้ให้ความสนใจศึกษาวิจัยเทคโนโลยีนี้เช่นกัน ซึ่ง พพ. ได้ชี้แจงให้ที่ประชุมทราบว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ดำเนินการร่วมกับ บริษัท เซลเลนเนียม (ประเทศไทย) จำกัด และส่วนที่ดำเนินการร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยในส่วนที่ดำเนินการร่วมกับ บริษัท เซลเลนเนียมฯ นั้น บริษัทได้บอกเลิกสัญญา เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกับ พพ. ขณะที่การดำเนินงานร่วมกับ สวทช. นั้น อยู่ระหว่างการปรับลดปริมาณงานและการยกเลิกสัญญา รวมถึงการดำเนินการเพื่อส่งคืนเงินกองทุนฯ ต่อไป
กองทุนสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม ธันวาคม 2552
- กองทุนสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม ธันวาคม 2552 (1831 Downloads)