Super User
ประกาศกบง.ฉบับที่ 110 พ.ศ. 2557
ประกาศกบง.ฉบับที่ 121 พ.ศ. 2557
ประกาศกบง.ฉบับที่ 133 พ.ศ. 2557
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 4 ตุลาคม 2554
ครั้งที่ 80 - วันศุกร์ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 22/2554 (ครั้งที่ 80)
เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.00 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
ปลัดกระทรวงพลังงาน (นายณอคุณ สิทธิพงศ์) กรรมการ เป็นประธานในที่ประชุม
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
ปลัดกระทรวงพลังงาน (นายณอคุณ สิทธิพงศ์) ได้แจ้งให้ที่ประชุมฯ ทราบว่า เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในฐานะประธานกรรมการบริหารนโยบายพลังงานติดภารกิจเร่งด่วน จึงขอให้ที่ประชุมฯ แต่งตั้งกรรมการขึ้นทำหน้าที่ประธานกรรมการในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบให้ปลัดกระทรวงพลังงานทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2554 มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 446 ล้านบาท
2. มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 เห็นชอบให้ปรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง 5.3050 บาทต่อลิตร จาก 5.3100 บาทต่อลิตร เป็น 0.0050 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูง ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2554 น้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 108.56 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากวันที่ 25 พฤษภาคม 2554 จำนวน 3.25 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 122.25 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.25 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 126.57 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดย ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2554 ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วราคา 29.99 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดอยู่ที่ 0.6616 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วัน อยู่ที่ 1.2431 บาทต่อลิตร เพื่อเป็นการลดต้นทุนราคาน้ำมัน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.40 บาทต่อลิตร จาก 2.20 บาทต่อลิตร เป็น 1.80 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 1.0616 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วัน อยู่ที่ 1.3231 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลง 25 ล้านบาทต่อวัน จากเงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯ สุทธิ 76 ล้านบาทต่อวัน เป็น 51 ล้านบาทต่อวัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.40 บาทต่อลิตร จาก 2.20 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1.80 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 28 ตุลาคม 2552
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 3 ตุลาคม 2554
ครั้งที่ 79 - วันพุธ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 21/2554 (ครั้งที่ 79)
เมื่อวันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 09.00 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2554 มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 446 ล้านบาท
2. มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 เห็นชอบให้ปรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง 5.3050 บาทต่อลิตร จาก 5.3100 บาทต่อลิตร เป็น 0.0050 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงทรงตัว ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2554 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 105.63 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 122.94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 119.70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 1.5674 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วันทำการ อยู่ที่ 1.4777 บาทต่อลิตร เพื่อเป็นการลดภาระกองทุนน้ำมันฯ และเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ ให้ดีขึ้น ฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเพิ่มขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร จากส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 1.80 บาทต่อลิตร เป็น 2.10 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้น 17 ล้านบาทต่อวัน จาก 54 ล้านบาทต่อวัน เป็น 71 ล้านบาทต่อวัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จาก 1.80 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2.20 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป