Super User
สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 25-31 มกราคม 2553
กบง. ครั้งที่ 111 - วันพฤหัสที่ 21 มิถุนายน 2555
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 14/2555 (ครั้งที่ 111)
เมื่อวันพฤหัสที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 16.00 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
ประธานฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบเกี่ยวกับการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ซึ่งได้มีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 3/2555 (ครั้งที่ 142) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ จึงขอให้หน่วยงานต่างๆ เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ฝ่ายเลขานุการฯ เตรียมการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่ หรือ PDP 2012 โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
1.1 น้ำมันดีเซล การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง.พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร
1.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอล การปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับเพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าวให้คำนึงถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ภาวะเงินเฟ้อของประเทศ การส่งเสริมพลังงานทดแทนและฐานะกองทุนน้ำมันฯ
2. ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลง โดยราคาปิดตลาด ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2555 น้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 94.29 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 101.85 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 110.30 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับลดจากการประชุมครั้งก่อนหน้า (เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2555) ลงอีก 1.80, 3.95 และ 0.56 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศลดลง ทำให้ค่าการตลาดอยู่ในระดับสูง โดย ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2555 ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเบนซิน 95 และ 91 อยู่ที่ 1.9492, 5.6155 และ 2.4160 บาทต่อลิตร ตามลำดับ
3. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2555 มีทรัพย์สินรวม 5,804 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 26,037 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 15,866 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 171 ล้านบาท และเงินกู้ยืม 10,000 ล้านบาท ดังนั้น กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิติดลบ 20,233 ล้านบาท
4. จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของกองทุนน้ำมันฯ ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 95, 91 น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล 0.30 บาทต่อลิตร จะทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน 95, 91 น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล ลดลง 0.30 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ จะมีรายรับเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 23 ล้านบาท จากวันละ 152 ล้านบาท เป็นวันละ 175 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
ชนิดน้ำมัน | เดิม | ใหม่ | เปลี่ยนแปลง(+/-) |
น้ำมันเบนซิน 95 | 6.40 | 6.70 | +0.30 |
น้ำมันเบนซิน 91 | 6.40 | 6.70 | +0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 | 3.00 | 3.30 | +0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 | 1.40 | 1.70 | +0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 | -0.50 | -0.20 | +0.30 |
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 | -12.30 | -12.00 | +0.30 |
น้ำมันดีเซล | 2.10 | 2.40 | +0.30 |
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป