กบง.ครั้งที่73 -วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
มติการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 26/2561 (ครั้งที่ 73)
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 256 เวลา15.00 น.
1. การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ผู้มาประชุม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ
(นายศิริ จิระพงษ์พันธ์)
รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
(นายเพทาย หมุดธรรม)
แทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาด ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 64.45 67.78 และ 82.78 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับลดลงจากวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 อยู่ที่ 6.19 6.57 และ 5.61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 อยู่ที่ 33.0740 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ราคาไบโอดีเซลช่วงวันที่ 12 - 18 พฤศจิกายน 2561 อยู่ที่ลิตรละ 21.81 บาท และราคาเอทานอล ณ เดือนพฤศจิกายน 2561 อยู่ที่ลิตรละ 23.31 บาท ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 มีสินทรัพย์รวม 39,770 ล้านบาท หนี้สินรวม 16,369 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิ 23,401 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 28,428 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 5,027 ล้านบาท
2. โครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 E10 น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 เป็นดังนี้ (1) อัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่ 8.0800 2.1200 2.1200 -0.7800 -6.3800 0.2000 และ -2.5000 บาทต่อลิตร ตามลำดับ (2) ค่าการตลาด อยู่ที่ 3.2706 2.5534 2.7195 2.5250 3.2630 2.4728 และ 2.7842 บาทต่อลิตร ตามลำดับ และ (3) ราคาขายปลีก อยู่ที่ 35.96 28.85 28.58 25.84 20.64 29.29 และ 26.29 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ประมาณการสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีรายรับในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอลประมาณ 1,289 ล้านบาทต่อเดือน มีรายรับจากกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วประมาณ 340 ล้านบาทต่อเดือน ภาพรวมกองทุนน้ำมันฯ มีรายรับ 1,639 ล้านบาทต่อเดือน และกลุ่มก๊าซ LPG มีรายจ่ายประมาณ 522 ล้านบาทต่อเดือน
3. จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่มีแนวโน้มราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันเริ่มขยับสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันอยู่ในระดับที่เหมาะสม และราคาขายปลีกน้ำมันสะท้อนกับแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง ฝ่ายเลขานุการฯ ขอเสนอแนวทางการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังนี้ (1) แนวทางที่ 1 ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมัน ในช่วงระยะเวลาน้ำมันขาลง ให้ส่งผ่านไปยังประชาชนโดยลดราคาขายปลีกน้ำมันทั้งหมด และหากราคาขายปลีกน้ำมันยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ควรมีการกำหนดราคาขายปลีกขั้นต่ำในระดับที่เหมาะสมไว้ หากราคาขายปลีกต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้ ให้เริ่มเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ต่อไป และ (2) แนวทางที่ 2 เก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ทั้งหมด ในช่วงระยะเวลาน้ำมันขาลง และหากราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ควรมีการกำหนดระดับเพดานเงินกองทุนสูงสุดหรืออัตราเงินส่งเข้ากองทุนเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์สูงสุดที่เหมาะสมไว้ หากเงินกองทุนหรืออัตราเงินส่งเข้ากองทุนเฉลี่ยสูงกว่าที่กำหนดไว้ ให้เริ่มลดราคาขายปลีกน้ำมันต่อไป
มติของที่ประชุม
เห็นชอบปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของกลุ่มน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล และกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ดังนี้
น้ำมันเบนซิน เดิม 8.08 บาท/ลิตร ใหม่ 8.58 บาท/ลิตร เปลี่ยนแปลง +0.50 บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 เดิม 2.12 บาท/ลิตร ใหม่ 2.62 บาท/ลิตร เปลี่ยนแปลง +0.50 บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 เดิม 2.12 บาท/ลิตร ใหม่ 2.62 บาท/ลิตร เปลี่ยนแปลง +0.50 บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 เดิม -0.78 บาท/ลิตร ใหม่ -0.28 บาท/ลิตร เปลี่ยนแปลง +0.50 บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 เดิม -6.38 บาท/ลิตร ใหม่ -5.88 บาท/ลิตร เปลี่ยนแปลง +0.50 บาท/ลิตร
เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักกลุ่มน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล เดิม 1.43 บาท/ลิตร ใหม่ 1.93 บาท/ลิตร เปลี่ยนแปลง +0.50 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เดิม 0.20 บาท/ลิตร ใหม่ 0.70 บาท/ลิตร เปลี่ยนแปลง +0.50 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 เดิม -2.50 บาท/ลิตร ใหม่ -2.00 บาท/ลิตร เปลี่ยนแปลง +0.50 บาท/ลิตร
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป