![Super User](http://www.gravatar.com/avatar/8f29cc35bfcee5e137109c704783b4c7?s=100&default=https%3A%2F%2Feppo.go.th%2Fepposite%2Fcomponents%2Fcom_k2%2Fimages%2Fplaceholder%2Fuser.png)
Super User
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 21 กันยายน 2554
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 16 ตุลาคม 2552
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 20 กันยายน 2554
ครั้งที่ 74 - วันอังคาร ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 16/2554 (ครั้งที่ 74)
เมื่อวันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 13.30 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้ตรวจราชการกระทรวง (นายบุญส่ง เกิดกลาง) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 18 เมษายน 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 15 ครั้ง กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 19 เมษายน 2554 ไปแล้วประมาณ 23,301 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 18 เมษายน 2554 มีเงินสดในบัญชี 34,251 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 29,751 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 29,392 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 359 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 4,500 ล้านบาท โดยยังไม่รวมหนี้เงินชดเชยค่าปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท๊กซี่ ประมาณ 130 ล้านบาท
2. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูง โดยวันที่ 18 เมษายน 2554 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 116.02 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลง 1.19 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากการปรับอัตราเงินชดเชยครั้งที่แล้ว ณ วันที่ 8 เมษายน 2554 น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ระดับ 129.47 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.99 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 137.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 2.80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับลดลงโดยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ 38.84 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ วันที่ 19 เมษายน 2554 อยู่ที่ 1.5389 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วัน อยู่ที่ 1.4513 บาทต่อลิตร
3. เพื่อเป็นการลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอแนวทางการปรับลดเงินชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.40 บาทต่อลิตร ซึ่งจะมีผลทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันปรับมาอยู่ที่ 1.1389 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วัน อยู่ที่ 1.3713 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องจากติดลบ 404 ล้านบาทต่อวัน เป็นติดลบ 381ล้านบาทต่อวัน ภาระกองทุนน้ำมันฯ ลดลงประมาณ 23 ล้านบาทต่อวัน โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาลง 0.40 บาทต่อลิตร จากชดเชย 6.40 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 6.00 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ได้แจ้งที่ประชุมฯ เพื่อทราบเกี่ยวกับปริมาณ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ของบริษัทเชฟรอน (ไทย) จำกัด และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ที่เหลืออยู่นับจากวันที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2554 ผ่อนผันให้สามารถนำ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ที่เหลืออยู่ไปผสมเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา โดยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 บริษัทเชฟรอน (ไทย) จำกัด มีปริมาณ Oil Base อยู่ที่ 61,629,821 ลิตร และเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด มีปริมาณ Oil Base อยู่ที่ 5,900,000 ลิตร และ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 บริษัททั้งสองมีปริมาณ Oil Base คงเหลืออยู่ที่ 12,000,000 และ 850,000 ลิตร ตามลำดับ
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 15 ตุลาคม 2552
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 19 กันยายน 2554
โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน 14 ตุลาคม 2552
ครั้งที่ 73 - วันจันทร์ ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 15/2554 (ครั้งที่ 73)
เมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 15.00 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
2. ขอขยายเวลาการผ่อนผัน Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 5
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้ตรวจราชการกระทรวง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายบุญส่ง เกิดกลาง) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 8 เมษายน 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 14 ครั้ง กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 11 เมษายน 2554 ไปแล้วประมาณ 20,667 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 11 เมษายน 2554 มีเงินสดในบัญชี 34,857 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 27,579 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 27,220 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 359 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 7,278 ล้านบาท โดยยังไม่รวมหนี้เงินชดเชยค่าปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท๊กซี่ ประมาณ 130 ล้านบาท
2. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2554 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 117.21 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการปรับอัตราเงินชดเชยครั้งที่แล้ว ณ วันที่ 6 เมษายน 2554 อยู่ที่ 1.91 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ระดับ 130.46 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.43 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 140.62 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.35 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดยราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ 38.34 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ วันที่ 11 เมษายน 2554 อยู่ที่ 0.7723 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วันทำการ อยู่ที่ 0.8089 บาทต่อลิตร
3. เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลของผู้ค้าน้ำมันไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตร เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จึงควรปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จากชดเชย 5.90 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 6.40 บาทต่อลิตร จะทำให้ค่าการตลาดอยู่ที่ 1.2723 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วันทำการ อยู่ที่ 0.9089 บาทต่อลิตร ภาระกองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 27.9 ล้านบาทต่อวัน โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จากชดเชย 5.90 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 6.40 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
เรื่องที่ 2 ขอขยายเวลาการผ่อนผัน Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 5
สรุปสาระสำคัญ
1. เนื่องจากเกิดปัญหาผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบขาดแคลนตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 กระทรวงพาณิชย์จึงได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงพลังงานประสานผู้ผลิต B100 ให้ชะลอหรือลดการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้มีน้ำมันปาล์มดิบเข้าสู่ตลาดน้ำมันพืชบริโภคมากขึ้น ซึ่งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ให้ขอความร่วมมือบริษัทผู้ค้าน้ำมันงดการผลิตจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม 2554 และให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ประสานกรมสรรพสามิตเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาสต็อคน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 และ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 บางส่วนที่คงเหลืออยู่ในระบบของผู้ค้าน้ำมัน ต่อมา ธพ. ได้มีหนังสือถึงกรมสรรพสามิตเพื่อขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันสามารถนำ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ที่ยังไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิตไปผลิตเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B3) ได้ และให้ผู้ค้าน้ำมันที่มีน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 สำเร็จรูปที่เสียภาษีสรรพสามิตแล้ว สามารถนำ Oil Base มาผสมกับน้ำมันดีเซล B5 ผลิตเป็นดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B3) ได้โดยไม่ขัดต่อกฎระเบียบของกรมสรรพสามิต
2. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 และให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดามีส่วนผสมของไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันลดลงเหลือร้อยละ 2 ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554 ต่อมา ธพ. ได้ออกประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่องกำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2554 กำหนดให้ตั้งแต่วันที่ 1 - 31 มีนาคม 2554 น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B2) มีส่วนผสมของไบโอดีเซลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 2 โดยปริมาตร และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป ให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดามีส่วนผสมของไบโอดีเซลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2.5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 3 โดยปริมาตร แต่เนื่องจากสถานการณ์ปาล์มน้ำมันสำหรับการบริโภคยังไม่คลี่คลาย กระทรวงพลังงานได้มีนโยบายขยายระยะเวลาการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B2) ออกไปจนกว่าจะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันส่วนเกินเหลือจากการบริโภค ดังนั้น ธพ. ได้ออกประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2554 โดยให้คงมาตรฐานคุณภาพน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B2) ที่มีไบโอดีเซลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 2 โดยปริมาตรต่อไปและให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
3. บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้มีหนังสือแจ้งว่า Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ที่ยังไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต ของบริษัทฯ ที่เก็บไว้ที่คลังผสม ซึ่งได้รับการผ่อนผันจากกรมสรรพสามิตให้สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B3 และ B2) ได้ จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554 แต่ปรากฏว่าขณะนี้ ปริมาณ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ดังกล่าว ยังมีปริมาณคงเหลืออยู่ที่คลังผสมเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะต้องใช้เวลาถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2554 จึงจะสามารถนำมาผสมเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้หมด บริษัทฯ ได้ประสานไปยังกรมสรรพสามิตและได้รับแจ้งว่าหากจะให้มีการผ่อนผันต่อไป จะต้องมีมติจาก กบง. จึงขอให้ ธพ. นำเสนอ กบง. เพื่อขอขยายระยะเวลาการนำ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ที่ยังไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิตของบริษัทฯ ที่คงเหลืออยู่ให้สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้โดยไม่ขัดต่อกฎระเบียบของกรมสรรพสามิต
4. กระทรวงพลังงานมีนโยบายขยายระยะเวลาการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B2) จากเดิมที่กำหนดให้จำหน่ายได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554 ออกไปจนกว่าจะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันส่วนเกินเหลือจากการบริโภค ประกอบกับขณะนี้กระทรวงพลังงานไม่ได้สนับสนุนให้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 โดยกำหนดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงกว่า จึงทำให้ผู้ค้าน้ำมันไม่มีการผลิตน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ขึ้นมาใหม่ ดังนั้น เพื่อให้การประกอบธุรกิจการค้าน้ำมันดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ค้าน้ำมันที่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐ เห็นควรให้ขยายระยะเวลาการผ่อนผันการนำ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ที่เหลืออยู่ไปผสมเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา จากสิ้นเดือนมีนาคม 2554 ออกไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2554
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการผ่อนผันการนำ Oil Base ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ของบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ที่เหลืออยู่ไปผสมเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา จากเดิมสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2554 เป็นสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2554